fbpx
Home
|
ทั่วไป

บิ๊กตู่ไม่รู้อปท.จัดซื้อวัคซีนเองย้ำต้องผ่านรบ.

Featured Image
นายกรัฐมนตรี ไม่รู้ อปท. หา วัคซีน มาจากไหน ย้ำต้องผ่านรัฐบาล จากนั้นลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดฉีดวัคซีนเซ็นทรัลเวิลด์ ยันมีเพียงพอขอให้มั่นใจประสิทธิภาพ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึง กรณีท้องถิ่นต้องการจะจัดซื้อวัคซีนด้วยตนเองนั้น โดย นายกรัฐมนตรี ได้ย้อนถามกลับ ว่า วัคซีนที่ท้องถิ่นซื้อมาจากที่ไหน เพราะวัคซีนที่มีตอนนี้มียอดวัคซีนทั้งหมด ก็เป็นการเจรจากับรัฐบาลเพียงฝ่ายเดียว

ส่วนถ้าหากปล่อยให้ทำกันเองนั้น จะทำให้เกิดการกระจัดกระจายวัคซีน หรือไม่นั้น ถ้าทำได้ ต้องดูว่าซื้อได้หรือเปล่า และวัคซีนเอามาไหน เอามาจากใคร และถ้าใครจะซื้อวัคซีนเข้ามาอีก ก็ตัดจากยอดที่รัฐบาลจัดให้ไป เพราะวัคซีนผูกกับรัฐบาล

 

 

 

นายกฯจุดฉีด วัคซีน เซ็นทรัลเวิลด์

นายกฯ ตรวจเยี่ยมจุดฉีดวัคซีนเซ็นทรัลเวิลด์ ยันมีเพียงพอเร่งระดมฉีดทุกวัน ขอให้มั่นใจประสิทธิภาพ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตรวจเยี่ยมสถานที่บริการฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล “หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีน covid 19 กรุงเทพมหานคร-หอการค้าไทย ณ เซ็นทรัลเวิลด์ไลฟ์ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยนายกรัฐมนตรี ได้ขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ที่ทุ่มเท และได้พูดคุยกับประชาชนที่มาเข้ารับการฉีดวัคซีน

โดยขอให้ทุกคนลงทะเบียนก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีน ที่ได้เปิดขึ้นในหลายช่องทาง ซึ่งไม่รอลงทะเบียนผ่าน”หมอพร้อมเพียง” อย่างเดียว เพราะอาจต้องรอนาน ยืนยันว่า วัคซีนมีเพียงพอขอไม่ต้องเป็นห่วง ซึ่งเดิมทีมีเพียงสถานที่ฉีดของรัฐบาลเพียงอย่างเดียว แต่ปัจจุบันได้มีการกระจายไปยังพื้นที่ของเอกชนถึง 25 จุดและกำลังเร่งระดมฉีดวัคซีนทุกวัน

พร้อมยืนยัน ว่า วัคซีนที่เรามีเป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ โดยวัคซีนในรอบของเดือน มิ.ย. ได้มาแล้ว บางส่วนต้องรอการตรวจสอบ ไม่สามารถนำมาใช้ได้เลยทันที ไม่ว่าจะได้วัคซีนยี่ห้อใดมา ก็ต้องกระจายให้กับประชาชนให้ทั่วถึง ขอให้มั่นใจขอให้มั่นใจในการบริหารจัดการของรัฐบาลที่ทำอย่างเต็มที่ ถึงสภาพปัญหาและอยากให้เข้าใจถึงสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น 50 ล้านคน

รัฐบาลจะต้องบริหาร บริหารจัดการวัคซีนให้กับคน 50 ล้านคน ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆแต่รัฐบาลพยายามทำให้ดีที่สุด จึงต้องทำทุกอย่างให้เป็นขั้นตอนและได้มีการคำนวนวัคซีนเพื่อกระจายให้กับทุกจังหวัดแล้ว ทั้งพื้นที่กลุ่มเสี่ยง

จึงขอให้เข้าใจในภาพรวม แต่ยอมรับว่า อาจจะมีปัญหาในเรื่องของวัคซีนอาจมีการมาช้ามาเร็ว ที่ขึ้นอยู่กับการกระจายวัคซีนของบริษัทผู้ผลิต นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ถึงแม้จะได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว แต่ก็ไม่ได้ป้องกันทั้งหมดจึงขออย่าเข้าไปในพื้นที่อโคจร

 

นายกรัฐมนตรี เผย แพทย์แผนไทยคุยสาธารณสุข เตรียมใช้ฟ้าทะลายโจร ควบคู่ฟาวิพาราเวียร์ เตือนสมุนไพรไทย ไม่ได้ป้องกันโควิด แต่สร้างภูมิคุ้มกันเบื้องต้น ย้ำ ยังต้องฉีดวัคซีน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวการผลักดันให้ใช้สมุนไพรฟ้าทะลายโจร ควบคู่กับการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ ในการรักษาโควิด – 19 ว่า ขณะนี้แพทย์แผนไทยและกระทรวงสาธารณสุข กำลังหารือร่วมกัน เพราะสมุนไพรไทยมีมากกว่า 2,000 ตำรับยา อะไรที่มีประโยชน์ก็ต้องนำมาใช้ ซึ่งวันนี้ฟ้าทะลายโจรที่จะนำมาใช้ โดยฟาวิพิราเวียร์จะใช้ในผู้ป่วยอาการหนัก และผู้ป่วยบางรายที่ไม่แสดงอาการก็ใช้ฟ้าทะลายโจรควบคู่ไปได้ เพื่อให้ปอดขยายตัว

ซึ่งแบ่งตามขั้นตอนการรักษา ไม่ใช่ว่าใช้ฟ้าทะลายโจรแล้ว ไม่ต้องฉีดวัคซีน เพราะไม่ได้รักษาโควิด – 19 แต่จะช่วยในการปฐมภูมิ ทำให้ร่างกายเเข็งแรงก่อน เหมือนสมัยโบราณ แต่ถ้ามีโรคก็ต้องไปหาหมอ

 

นายกฯ ยืนยัน ไทยมีงบจัดซื้อวัคซีน เผยรัฐบาลไม่ได้ทำธุรกิจแต่เป็นหน้าที่ จ่อฟัน เจ้าหน้าที่เอื้อนำเข้าแรงงานผิดกฎหมายไม่ใช่แค่สั่งย้าย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลเตรียมงบประมาณไว้อย่างเพียงพอแน่นอน ด้านสาธารณสุขขออย่าดูเรื่องของตัวเลขงบกระทรวง เพราะมีทั้งเงินกู้ในส่วนของกระทรวงยืนยันงบประมาณด้านสาธารณสุขเพียงพอแน่นอนแต่ปัญหาติดอยู่ที่ว่าประเทศต้นทางจะขายวัคซีนได้หรือไม่ หากขายให้ประเทศจำนวนมากก็จะจัดหาได้มากตามไปด้วย

พลเอกประยุทธ์ ยังยืนยันว่าวัคซีน astrazeneca จะมาถึงประเทศไทยในเดือนมิถุนายน 64 อย่างแน่นอน ซึ่งมีอีกหนึ่งช่องทางคือการจัดซื้อผ่านของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์พร้อมย้ำว่ารัฐบาลได้กระจายวัคซีนทุกจังหวัดทั่วประเทศ ตามเปอร์เซ็นต์จำนวนประชากร

ทั้งนี้ จะมีการเชื่อมโยงกับระบบหมอพร้อมทั้งหมดเพื่อติดตามการฉีดวัคซีนเข็ม 1 และเข็ม 2 เชื่อว่าจะสามารถดำเนินการได้ตามแผนหากมีปัญหาก็ต้องแก้ไขกันต่อไป ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ระบุว่า แม้จะมีเงินก็ไม่สามารถจัดซื้อวัคซีนเป็นจำนวนมากได้ แต่เป็นความโชคดีที่ประเทศได้จัดหาวัคซีน astrazeneca ไว้ และยืนยันว่า ในวันที่ 7 มิถุนายนนี้ มีวัคซีนของ astrazeneca ฉีดแน่นอน

พล.อ.ประยุทธ์ ระบุต่อว่า ปัจจุบันทั่วโลกมีความต้องการวัคซีนจำนวนมาก แม้ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศจะอยู่ที่หลัก 3,000-4,000 คน ทุกวันแต่จะต้องนำมาอยู่ในระบบให้ได้เร่งดำเนินการคัดกรอง

ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าเมื่อมีการคัดกรองเชิงรุกจะมีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ซึ่งวันนี้ประเทศไทยยังมีขีดความสามารถในการรองรับเช่นเดียวกับยังสามารถควบคุมสถานการณ์ในราชทัณฑ์แม้จะมีตัวเลขเพิ่มขึ้นด้วยแต่สิ่งที่เป็นกังวลขณะนี้คือการติดเชื้อในแรงงานทั่วทั้งกรุงเทพมหานครซึ่งอาศัยในแคมป์คนงานที่มีความแออัด

ส่วนการเดินทางเข้าออกพื้นที่ชายแดนหากทุกคนทำตามกฎหมายก็จะไม่มีปัญหาเว้นแต่มีการลักลอบเข้าเมืองโดนผิดกฎหมายโดยได้กำชับไปแล้วว่าหากเจ้าหน้าที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องจะไม่ใช่แค่การสั่งย้ายเท่านั้น

ส่วนการเดินทางเข้าออกพื้นที่ชายแดนหากทุกคนทำตามกฎหมายก็จะไม่มีปัญหาเว้นแต่มีการลักลอบเข้าเมืองโดนผิดกฎหมายโดยได้กำชับไปแล้วว่าหากเจ้าหน้าที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องจะไม่ใช่แค่การสั่งย้ายเท่านั้น

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ระบุถึงกรณีที่ บริษัทสยามไบโอเทค ส่งตรวจคุณภาพซึ่งแต่เดิมต้องใช้เวลา 7 วัน แต่ขณะนี้ได้เร่งรัดไปแล้วยืนยันมีวัคซีนเพียงพอแน่นอนขออย่ากลัวและในเดือนมิถุนายนนี้จะมีวัคซีนหลายยี่ห้อ พร้อมกับพูดหยอกหมอว่า ‘หลายยี่ห้อหมอปวดหัวแต่นายกไม่ปวดหัว’ ขอให้ฟังตนและยืนยันว่าจะฉีดวัคซีนให้กับประชาชนเว้น แต่จะมีอะไรเกิดขึ้นและต้องดูสถานการณ์ทั่วประเทศด้วยยืนยันนายกไม่ได้ทำธุรกิจ เป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล

 

นายกฯ ไม่มีปัญหา หลังท้องถิ่นแห่จัดหาวัคซีนเอง ขอให้ไปดูกฎหมายให้ถี่ถ้วน พร้อมระบุ ศบค.กำลังพิจารณา ยืนยันตนไม่ได้รวบอำนาจ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการจัดซื้อวัคซีนขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ว่า ตนเองไม่มีปัญหา หากทำได้ ข้อสำคัญคือแต่ละท้องถิ่นมีรายได้เท่ากันหรือไม่ จะทำให้เกิดปัญหาหรือไม่ก็ไม่ทราบ แต่รัฐบาลยืนยันว่าไม่มีปัญหาในส่วนนี้ ซึ่งขณะนี้วัคซีนในกระจายไปในทุกจังหวัด ที่คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ตามจำนวนประชากร และเชื่อมโยงกับการใช้แอปพลิเคชันหมอพร้อม ซึ่งในวันนี้ก็ฉีดไปแล้วกว่า 3-4 ล้านราย และมองว่าจะดำเนินการได้ตามแผน หากมีปัญหาก็ต้องแก้ไข ซึ่งทั่วโลกมีความต้องการวัคซีนสูงขึ้น ประเทศไทยมียอดผู้ติดเชื้อ 3-4 พันต่อวัน แต่ก็มีการคัดกรองและนำไปอยู่ในพื้นที่ควบคุมให้ได้

และที่นายกรัฐมนตรีเห็นด้วยกับการที่จะให้กระทรวงมหาดไทยจัดซื้อวัคซีนเอง แต่จะต้องมีการแก้ไขกฎกระทรวง ซึ่งจะต้องใช้เวลา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า กำลังให้ ศบค.พิจารณาอยู่ ตนคิดว่า หากทำได้ก็ได้ไม่มีปัญหา ขอให้ไปดูกันให้ถี่ถ้วนในเรื่องกฎหมาย และเรื่องเงินท้องถิ่น เท่าเทียมกันทุกจังหวัดหรือไม่ และจะทำอย่างไรกับการบริหารตรงนี้ ยืนยันว่า รัฐบาลจัดหาวัคซีนให้กับทุกท้องถิ่นอยู่แล้ว ให้ตามข้อเท็จจริงของแต่ละจังหวัด มากบ้างน้อยบ้าง แต่ก็ยอมรับว่าการบริหารให้คนหลายสิบล้านคนนั้นลำบาก แต่ยืนยันว่าจะทำเต็มที่

พร้อมระบุว่า หากปลดล็อกได้ ก็คือทำได้ มีกฎหมายทุกตัวอยู่แล้ว หากทำได้ก็ทำเลย แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าจะทำได้จริงหรือไม่ มีเงินเพียงพอหรือไม่ทุกจังหวัดจะว่าอย่างไร หากบางจังหวัดได้มากน้อยไม่เท่ากัน ตนไม่อยากให้เป็นปัญหาทางการเมืองต่อไป ก็ยินดี ที่ภาคเอกชนให้ความร่วมมือ เพิ่งรัฐบาลพูดมาตลอดตั้งแต่ปี 2562 ว่ารัฐบาลจะเดินหน้าเรื่องวัคซีน และในส่วนของอนาคตก็เป็นสิ่งที่รัฐบาลดิวไว้

นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ขอให้ฟังว่ารัฐบาลพูดอะไร ตนพูดอะไร ตัดสินใจทุกอย่างที่ผ่าน ศบค. อย่าบอกว่าตนพูดเพื่อลบคำเก่า เพราะจำเป็นต้องเปลี่ยน ก็ต้องเปลี่ยน ตนตัดสินใจผ่านศบค. ท้ายที่สุดต้องเอามติในที่ประชุมมาขออนุมัติกับตนเอง ไม่ใช่ใครจะขออะไรแล้วให้ได้เลย ยืนยันตนไม่ได้รวบอำนาจ

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube