fbpx
Home
|
ภูมิภาค

ติดโควิดเพิ่มอีก14สระแก้วยอดสะสม320ราย

Featured Image
สระแก้ว พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 14 ราย สะสม 320 ราย ผลจากหยุดสงกรานต์เริ่มมีผู้ติดเชื้อนำเข้ามาจากต่างจังหวัดมากขึ้น

นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า วันนี้ (29 เมษายน 64) จังหวัดสระแก้วมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 14 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังในโรงพยาบาลและการคัดกรองเชิงรุกในชุมชน เป็นชาย 3 ราย หญิง 11 ราย อายุระหว่าง 1 ขวบ 6 เดือน-72 ปี ทำให้การระบาดระลอกใหม่เมษายน 2564 ตั้งแต่วันที่ 4–28 เมษายน 2564 มีผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 320 ราย เข้ารักษาตัวอยู่ในสถานพยาบาลของรัฐ เอกชน และโรงพยาบาลสนามรวมทั้งสิ้น 169 ราย รักษาหายแล้ว 155 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่มีอาการคิดเป็นร้อยละ 86 ที่เหลือมีอาการเล็กน้อย มีปอดอักเสบ 9 รายและปอดอักเสบรุนแรง 2 ราย

ภาพรวมตอนนี้ผู้ป่วยส่วนใหญ่ของจังหวัดสระแก้ว เป็นกลุ่มผู้ติดเชื้อจากสถานบันเทิงโบว์ลิ่งผับ 60 ราย รองลงมาเป็น REV UP ผับ 40 ราย , งานบวชบ้านสันติสุขตำบลผ่านศึก อ.อรัญประเทศ 51 ราย ร้านเกอิชา คาราโอเกะ อรัญประเทศ 17 ราย ,ร้านโรงพักอรัญ 13 ราย , ผับที่พัทยา 10 ราย เที่ยวอ่างเก็บน้ำพระปรง อ.วัฒนานคร 6 ราย งานแต่งที่บริเวณหน้าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอรัญประเทศ จำนวน 3 ราย สัมผัสเชื้อจากพื้นที่เสี่ยงใน กทม. 8 ราย ส่งตัวกลับจากกัมพูชามารักษาที่ประเทศไทย 2 ราย และอื่นๆ จำนวน 98 ราย

นพ.ประภาส ผูกดวง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยถึงรายละเอียดของผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ 14 รายว่า จากการสอบสวนโรคพบผู้ป่วย 9 รายติดเชื้อมาจากนอกจังหวัดเข้ามา ได้แก่ อำเภอเขาฉกรรจ์ 2 รายเป็นแม่ลูกกันมีประวัติเดินทางไปบ้านญาติที่จังหวัดเพชรบุรีและสัมผัสเชื้อกับผู้ป่วยยืนยัน อำเภออรัญประเทศ 1 ราย มีประวัติเดินทางไปร่วมงานวันเกิดที่จังหวัดจันทบุรีและมีผู้ป่วยยืนยันรายหนึ่งร่วมอยู่ด้วย ส่วนอำเภอโคกสูงพบผู้ติดเชื้อสูงสุดถึง 6 ราย ซึ่งเป็นผู้สัมผัสร่วมบ้านกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ ที่มีประวัติเดินทางไปพื้นที่เสี่ยงที่จังหวัดบุรีรัมย์ในช่วงสงกรานต์ ทำให้ติดเชื้อภายในครอบครัว โดยพบเด็กอายุ 1 ขวบ 6 เดือน และผู้สูงอายุอายุ 72 ปีติดเชื้อด้วย

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube