โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ คลังสำรองเลือด วิกฤตหนัก เลือดไม่พอ เหตุคนกลัว โควิด19 งดเดินทาง
สถานการณ์คลังเลือด โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ประสบปัญหาปริมาณสำรองเลือดมีน้อยเข้าขั้นวิกฤติ เนื่องจากผู้บริจาคโลหิตงดเดินทางมาโรงพยาบาลจากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด – 19 ซึ่งประชาชนหลายภาคส่วนอยู่กับบ้าน จากปกติที่ต้องมีโลหิตสำรองขั้นต่ำ 40 หน่วยต่อกรุ๊ปเลือดต่อวัน ในเลือดกรุ๊ป O กรุ๊ป A กรุ๊ป B และกรุ๊ป AB
โดยเฉพาะกรุ๊ปโอซึ่งเป็นกลุ่มที่ประชาชนมีเลือดกลุ่มนี้มากที่สุด แต่ปัจจุบันเหลือปริมาณสำรองไม่เกิน 5 หน่วยต่อกรุ๊ปต่อวัน ซึ่งเป็นปัญหาอย่างมาก เนื่องจากการผ่าตัดแต่ละครั้งใช้เลือดไม่ต่ำกว่า 4 หน่วย ขณะที่การผ่าตัดใหญ่ ใช้มากกว่า 10 หน่วย ต่อผู้ป่วยหนึ่งคน
ประกอบกับโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์เป็นโรงพยาบาลทั่วไปประจำจังหวัด มีจำนวนเตียงผู้ป่วย 280 เตียง ห้องผ่าตัดจำนวน 6 ห้อง จึงทำให้จำเป็นต้องใช้เลือดในปริมาณมาก และจากการเก็บสำรองโลหิต ในช่วงที่ผ่านมาแต่ละเดือนจะมีปริมาณโลหิตสำรองในคลังเลือด 500 หน่วย ได้มาจากการที่ประชาชนเข้ามาบริจาคที่โรงพยาบาล และจากการออกหน่วยเคลื่อนที่ แต่สถานที่ในช่วงต้นเดือนที่การแพร่ระบาดเชื้อโควิดรุนแรง ส่งผลให้ต้องงดการออกหน่วยเคลื่อนที่ ประกอบกับประชาชนลดความเสี่ยงในการพบผู้คน จึงทำให้ปริมาณคลังโลหิตขาดแคลนอย่างหนักทุกกลุ่มเลือด ซึ่งวันนี้มีประชาชนเดินทางมาบริจาคโลหิตเพียง 10 ราย
นายแพทย์พงษ์พจน์ ธีรานันตชัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์ดังกล่าว ทางโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ขอความร่วมมืองดญาติเยี่ยมผู้ป่วย และเลื่อนตารางนัดหมายที่ต้องมีการผ่าตัดออกไปก่อน ยกเว้นการผ่าตัดฉุกเฉินหรือจำเป็นเร่งด่วนเท่านั้น และผู้บริจาคโลหิตต้องไม่มีภาวะเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด
ดังนั้นจึงขอเชิญชวนผู้มีจิตเป็นกุศลบริจาคโลหิตที่งานคลังเลือด ตึกอนุสรณ์ 36 ปี ชั้น 1 ตั้งแต่เวลา 08.30-15.00 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ โดยผู้บริจาคโลหิตต้องเป็นผู้มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว อายุ 18 – 60 ปี น้ำหนักตั้งแต่ 50 กิโลกรัมขึ้นไป ไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศหรือยาเสพติด ไม่อยู่ในระหว่างรับประทานยาปฏิชีวนะ ยาป้องกันเลือดแข็งตัว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
