พัทลุง พร้อมเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลสนาม ขณะหน่วยงานส่วนราชการเริ่มใช้สลับวันทำงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า วันนี้ 21 เมษายน 2564 จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด–19 อย่างต่อเนื่องและเพิ่มรายวัน ทำให้หน่วยงานราชการหลายหน่วยงานที่ใช้อาคารบนศาลากลางจังหวัดพัทลุง และใช้อาคารของตนเอง ต่างหามาตรการป้องกันการแพร่ระบาดและลดการติดเชื้อของโรคโควิด–19 ซึ่งส่วนใหญ่ใช้มาตรการสลับวันเข้าทำงานที่หน่วยงาน ส่วนเจ้าหน้าที่บุคคลใดที่บ้านในวันนั้น ก็ทำงานจากบ้านซึ่งเป็นการทำงานแบบ Work from Home หลังพบผู้ป่วยติดเชื้อในพื้นที่ของจังหวัดพัทลุงอย่างต่อเนื่องและเพิ่มรายวัน โดยเฉพาะพื้นที่ของอำเภอเมืองพัทลุง นอกจากนั้นแต่ละหน่วยงานยังประกาศให้ผู้ที่จะมาติดต่อใช้บริการ จากหน่วยงานของรัฐนั้นให้ติดต่อราชการจำนวนน้อยในแต่วัน และผู้ที่มาติดต่อต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด ขณะที่มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมระลอกเดือนเมษายน เพิ่มจำนวน 53 ราย เสียชีวิต 1 ราย
ขณะที่โรงพยาบาลสนามที่รับผู้ป่วยติดเชื้อโรคโควิด บริเวณวิทยาลัยภูมิปัญญา ตำบลพนางตุง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง พร้อมรับผู้ป่วยแล้ว สามารถรับรองผู้ป่วยได้ถึงจำนวน 300 เตียง ขณะที่ผู้ป่วยล๊อตแรกที่จะใช้บริการโรงพยาบาลสนาม หรือโรงพยาบาลศูนย์น้ำใจชาวพัทลุง เป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อโรคโควิด แต่มีอาการไม่รุนแรง จากโรงพยาบาลพัทลุง เนื่องจากขณะนี้ที่โรงพยาบาลพัทลุงมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่จำนวน 20 ราย ส่วนที่เหลือจึงเป็นต้องแยกเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสนาม
ทางด้านนายกู้เกียรติ กระวงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง กล่าวว่าเนื่องจากจังหวัดพัทลุงมีผู้ป่วยเพิ่มเป็นจำนวน จึงเป็นต้องตั้งโรงพยาบาลสนามขึ้นโดยใช้ชื่อว่า “โรงพยาบาลศูนย์น้ำใจชาวเมืองลุง” จะเป็นที่รับรองผู้ป่วยได้ถึงจำนวน 300 เตียง แต่ช่วงแรกจะเปิดเป็นอาคารแต่ละหลังสามารถรับรองได้จำนวน 20 เตียง ขณะทีมแพทย์ พยาบาล พร้อมเข้าประจำการ ณ.โรงพยาบาลสนาม นอกจากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่ ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง คอยดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกันบุคคลภายนอกห้ามเข้าบริเวณโรงพยาบาลสนาม หรือ โรงพยาบาลศูนย์น้ำใจชาวเมืองลุง ซึ่งขณะนี้มีภาคธุรกิจและผู้ประกอบการนำสิ่งของที่จำเป็น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
