fbpx
Home
|
ภูมิภาค

หลายจังหวัดยอดผู้ติดโควิด19พุ่งไม่หยุด

Featured Image
หลายจังหวัดยอดติดเชื้อโควิด-19 พุ่งไม่หยุด เตรียมค้นหาผู้ป่วยในเชิงรุก หลังสงกรานต์

เพจประชาสัมพันธ์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ โพสต์ข้อตวามระบุว่า วันที่ 19 เมษายน 2564 พบผู้ป่วย โควิด19 รายใหม่ ในพื้นที่ จังหวัดเชียงใหม่ 116 จำนวน รวมติดเชื้อสะสมเดือนเมษายน 2,418 ราย ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเตรียมแถลงข่าวเย็นนี้

ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ขอความร่วมมือประชาชนต่างอำเภอปฎิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด หลังพบผู้ติดเชื้อกระจายในต่างอำเภอเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ผู้ติดเชื้อในอำเภอเมืองลดลง ด้านนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่เผยวันนี้มีผู้ป่วยจากโรงพยาบาลสนามกลับบ้านได้แล้วกว่า 40 คน พร้อมเตรียม Hospitel เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้ป่วย

เพชรบูรณ์ติดอีก 2 ราย เด็กหญิง 8 ขวบ-ผู้ช่วยฑันตแพทย์ ยอดผู้ป่วยสะสม พุ่ง 33 ราย

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดไทม์ไลน์ผู้ติดเขื้อ โควิด19 ระลอก 3 รายใหม่เพิ่มเติมอีก 2 รายได้แก่ รายที่ 32  cluster 464  เป็นเด็กหญิงอายุ 8 ปี 6 เดือน อยู่ที่ หมู่ 4 ต.ช้างตะลูด อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์  ประวัติตามไทม์ไลน์แจ้งว่า ติดเชื้อจากการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันรายที่ 16 ซึ่งเป็นญาติลูกพี่ลูกน้อง กระทั่งวันที่ 16 เม.ย.ไปตรวจที่ รพ.หล่มสักกับพ่อและแม่ หลังรับแจ้งว่าญาติที่ติดเชื้อ โดยตรวจRapid test ห้องปฏิบัติการเดียวกับแม่ ผลตรวจเด็กหญิงรายนี้พบผลเป็นบวกติดเชื้อ แต่แม่ไม่พบเชื้อ, ต่อมาวันที่ 17 เม.ย.ไปตรวจยืนยันอีกครั้งพบติดเชื้อโควิด ขณะนี้รักษาตัวที่โรงพยาบาลหล่มสัก

 

สำหรับอีกรายผู้ติดเชื้อรายที่ 33 cluster 464 เป็นผู้หญิงอายุ 30 ปี เป็นผู้ช่วยฑันตแพทย์ ทำงานที่คลีนิกปารีณาฑันตกรรม ตรงข้ามห้างปิ่นเกล้า ขณะป่วยพักอยู่หมู่ 2 ต.ตะเดียง อ.เมืองเพชรบูรณ์ ตามไทม์ไลน์แจ้งว่า วันที่ 4 เม.ย. คลีนกหยึดทำงานจึงเดินทางกลับเพชรบูรณ์ นั่งรถไฟฟ้าบีทีเอสก่อนไปขึ้นรถตู้โดยสารที่สถานีขนส่งหมอชิตมีผู้โดยสารร่วมราว 10คน ลงที่สถานีลำนารายณ์ อ.ชัยบาดาล จากนั้นเหมารถแท็กซี่ไป

เพชรบูรณ์ โดยพักที่บ้านแฟน ต.สะเดียงตลอด วันที่ 13 เม.ย.เวลา 12.00 น.ไปห้างท๊อปแลนด์ จากนั้นแวะไปซื้อของร้าน 9 บาท บายพาสสะเดียง กลับถึงบ้านแฟนมีอาการไข้ผื่นขึ้นทั้งตัว, วันที่ 16 เม.ย.ขณะอยู่บ้านจมูก ได้กลิ่น, วันที่ 17 เม.ย.ไปตรวจที่ รพ.เพชรบูรณ์ พบผลบวก จึงตรวจซ้ำกระทั่งผลยืนยันติดโควิด แพทย์จึงเข้ารักษาตัวที่ รพ.เพชรบูรณ์

ผู้ว่าฯโคราช สั่งจับตาตั้งด่านเฝ้าระวังคัดกรองกลุ่มเสี่ยงสูงจาก 3 อำเภอ ป้องกันการแพร่ระบาดโควิด พร้อมสั่งปิดสำนักงานพาณิชย์จังหวัดชั่วคราว ยกระดับควบคุมการแพร่ระบาดของโรค

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า จากการสอบสวนโรคพบว่า ผู้ป่วยโรคติดเชื้อโควิด19 ระลอกใหม่ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ส่วนใหญ่มีความเกี่ยวพันกับคลัสเตอร์ สถานบันเทิงทางทีมสาธารณสุขได้เร่งลงพื้นที่สืบสวนโรคเพื่อค้นหาผู้ป่วยเชิงลึกจากคลัสเตอร์นี้  แต่ยังควบคุมได้ไม่ครอบคลุม ทำให้เกิดผู้ป่วยรายใหม่ต่อเนื่อง ทางจังหวัดฯ จึงต้องยกระดับมาตรการป้องกันและควบคุมไม่ให้โรคติดเชื้อโควิด19 แพร่กระจายไปในวงกว้างซึ่งที่ผ่านมา ได้สั่งจับตาเฝ้าระวังบุคคลที่เดินทางมาจากพื้นที่สีแดงควบคุมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ขอนแก่น ชลบุรี เชียงใหม่ ตราด นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ ภูเก็ต ระยอง สงขลา สมุทรปราการ สมุทรสาคร สระแก้ว สุพรรณ และจังหวัดอุดรธานี จะต้องรายงานตัว ตรวจคัดกรอง และดำเนินการตามมาตรการที่สาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด รวมไปถึง โรงแรม อพาร์ตเมนต์ รีสอร์ต สถานประกอบการโรงงานหรือสถานที่พักคนงานก่อสร้างในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ที่ให้บุคคลที่เดินทางมาจากจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดดังกล่าวเข้าพัก จะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนการตรวจติดตามโรค ตามมาตรการควบคุมโรคติดต่อของกระทรวงสาธารณสุข

ส่วนพื้นที่ 3 อำเภอของจังหวัดนครราชสีมา ที่พบการระบาดของโควิด19 สูง ได้แก่ ตำบลกลางดง และตำบลโป่งตาลอง อำเภอปากช่อง , ตำบลห้วยบงหรือตำบลใกล้เคียง อำเภอด่านขุนทด และอำเภอวังน้ำเขียว ได้มีประกาศสั่งการให้ตั้งด่านบูรณาการ เพื่อเฝ้าระวังและคัดกรองผู้มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคแล้ว นอกจากนี้ ได้มีคำสั่งปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรคติดต่ออันตรายด้วย โดยล่าสุด สั่งปิดชั่วคราวสำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา  ในกลุ่มทะเบียนธุรกิจและอำนวยความสะดวกทาการค้า แต่จะเปิดให้บริการบางประเภทเท่านั้น อาทิ การจดทะเบียนนิติบุคคล การให้บริการหนังสือรับรองนิติบุคคล และการยื่นเอกสารผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น

 

สธ.ตราด เตรียมค้นหาผู้ป่วยในเชิงรุก หลังสงกรานต์ ตั้งเป้าตรวจคัดกรองอย่างน้อย 1,800 ราย

เพจ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด ระบุว่า นายแพทย์ภาณุวัฒน์ โสภณเลิศพงษ์ นายแพทย์เชี่ยวชาญด้านเวชกรรมป้องกัน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตราด กล่าวระหว่างการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดตราด ว่า ปัจจุบันจังหวัดตราดมียอดรวมผู้ติดเชื้อจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) จากการระบาดระลอกใหม่เดือนเมษายน 2564 รวม 14 คน โดยหนึ่งในจำนวนนั้นเป็นพนักงานของรีสอร์ทในพื้นที่อำเภอเกาะกูด ดังนั้นเพื่อเป็นการค้นหาผู้ป่วยรายใหม่ในเชิงรุก ประกอบกับในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาพบว่ามีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาจากพื้นที่ต่าง ๆ จำนวนมาก สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตราด โดยความร่วมมือจากสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ และโรงพยาบาลทุกแห่ง จึงได้เตรียมออกสุ่มตรวจคัดกรองผู้ป่วยในเชิงรุก ในกลุ่มพนักงานสถานประกอบการ ร้านอาหาร ร้านค้าต่าง ๆ ในทุดพื้นที่ทั้ง 7 อำเภอของจังหวัดตราด ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป โดยตั้งเป้าดำเนินการสุ่มตรวจไม่น้อยกว่า 900 คนต่อสัปดาห์ หรือไม่น้อยกว่า 1,800 คน

ทั้งนี้ หากพบผู้ป่วยรายใหม่จะได้นำเข้าสู่กระบวนการรักษา และป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคในวงกว้างต่อไป จึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่จะเข้าดำเนินการดังกล่าว

จังหวัดระยอง ประกาศเกณฑ์การตรวจหาเชื้อ โควิด19

เพจ ศูนย์โควิด19 จังหวัดระยอง โพสต์ระบุว่าประกาศสถานที่เสี่ยงในพื้นที่จังหวัดระยอง ข้อมูล ณ 19 เมษายน 2564

เกณฑ์การตรวจหาเชื้อโควิด19 มีดังนี้
1. ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อระยะ 1 เมตร นาน 5 นาที โดยไม่สวมหน้ากากอนามัย
2. อยู่ด้วยกันกับผู้ติดเชื้อโดยไม่สวมหน้ากากอนามัยเกิน 15 นาที เช่น ห้องประชุม รถยนต์ รถตู้ ฟิตเนส
3. โดนผู้ติดเชื้อไอ จาม ใส่ โดยไม่ได้สวมหน้ากาก
4. อยู่ในสถานที่และเวลาเดียวกันกับผู้ติดเชื้อตามประกาศ

พัทยาเงียบเหงาไร้เงาผู้คนแม้ไม่ประกาศเคอร์ฟิว ถนนเส้นหลักและย่อยในพื้นที่ดูโล่ง-ชายหาดมีนทท.เล็กน้อย

ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ ศบค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ยืนยันว่า จะไม่มีการประกาศเคอร์ฟิวและล็อกดาวน์ ใดๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากเกรงว่า ประชาชนระดับรากหญ้าจะได้รับความเดือดร้อน โดยปรับสีของพื้นที่ทั่วประเทศ ได้แก่ สีแดง หรือพื้นที่ควบคุมสูงสุด จำนวน 18 จังหวัด และส้ม หรือ พื้นที่ควบคุมขั้นสูง จำนวน 59 จังหวัด โดยจะต้องทำปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดตามพื้นที่สีที่กำหนดไว้

ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งตกเป็น 1 ใน 18 ของพื้นที่สีแดง คือพื้นที่ควบคุมสูงสุดนั้น คณะควบคุมโรคจังหวัดชลบุรี จึงได้สั่งให้ปิด สถานบันเทิงอย่างผับบาร์ คาราโอเกะ โรงภาพยนตร์ โต๊ะสนุกเกอร์ สวนสนุก สถานการศึกษา ตลาดนัดพระเครื่อง รวมไปถึงร้านนวดต่างๆ ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้าปิดในเวลา 21.00 น.ร้านอาหารเปิดให้บริโภคได้ไม่เกิน 21.00 น.จากนั้นให้จำหน่ายได้ได้ในรูปแบบกลับไปทานที่บ้านถึงเวลา 23.00 น.ร้านสะดวกซื้อสามารถปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 04.00 น.ถึง 23.00 น.ห้ามจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวกันมากกว่า 50 คน งดใช้พื้นที่ชายทะเล ชายหาด อ่างเก็บน้ำ รวมกลุ่มสังสรรค์ รับประทานเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ทำให้ถนนเส้นหลักและย่อยในพื้นที่เมืองพัทยา ที่มีผู้คนสัญจรไปมาชุกชุมเช่น ถนนสุขุมวิท ถนนพัทยาสายสอง ถนนพัทยาสายสาม ถนนเลียบชายหาด แลดูโล่งแทบไร้ซึ่งการจราจร มีเพียงรถสัญจรไปมาปะปลายไม่กี่คันเท่านั้นรวมไปถึงบริเวณชายหาด ที่มักจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาพักผ่อนตั้งวงดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รับประทานอาหาร ก็มีเพียงนักท่องเที่ยวนั่งเล่นบนชายหาดบ้างเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารต่างพากันปิดบริการตามคำสั่ง ทำให้เมืองพัทยาดูเงียบเหงาไปอย่างผิดหูผิดตา ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีการประกาศเคอร์ฟิว คือห้ามมิให้ออกจากเคหสถานก็ตาม

 

พัทลุง อั้นไม่อยู่เชื้อโควิดแพร่ระบาดจากพิธีกรงานบุญภายในวัด 2 แห่งมีผู้ติดเชื้อ 7 ราย พระ-ชาวบ้านผวา

สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ 19 เมษายน 2564 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค โควิด19 ที่จังหวัดพัทลุงน่าเป็นห่วงเฉพาะวันนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มจำนวน 8 ราย ประชาชนต่างผวากับเชื้อร้าย ที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้บรรยากาศภายในเขตเทศบาลเมืองพัทลุงเงียบเหงา ร้านค้าและผู้ประกอบร้านอาหาร ร้านกาแฟ รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆต่างซบเซา เนื่องพื้นที่ของจังหวัดพัทลุงขณะนี้พบผู้ป่วยติดเชื้อรายวันยอดสะสมผู้ป่วยรายใหม่ระลอก เมษายน จำนวน 33 ราย เพิ่มมากที่สุดอำเภอเมืองพัทลุงจำนวน 7 ราย อำเภอควนขนุน 1 ราย

โดยไทม์ไลน์ของผู้ป่วยเพศชาย อายุ 65 ปี อำเภอเมืองพัทลุง ที่เป็นต้นตอการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด ทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มจำนวน 7 รายของอำเภอเมืองในวันนี้นั้น เนื่องจากผู้ป่วยดังกล่าวได้เดินร่วมงานศพญาติที่กรุงเทพมหานคร วันที่ 1 เมษายน และกลับพื้นที่จังหวัดพัทลุง วันที่ 4 เมษายน เริ่มมีอาการปวดเมื่อยตามตัว เจ็บคอ ไอเล็กน้อย หนาวๆร้อนๆ วันที่ 5 เมษายน พบแพทย์เอกชนแห่งหนึ่งระบุเป็นหวัดใหญ่ แต่ขณะเดียวผู้ป่วยเพศชาย อายุ 65 ปี ยังได้เดินทางไปเป็นพิธีกรงานบุญวัดคลองขุด วัดแหลมดิน ตำบลหานโพธิ์ อำเภอเขาชัยสน ในวันที่ 11 ,12 และ 13 ทำให้มีกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงจำนวนเกือบ60 รายและเป็นกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ จำนวน 115 ราย ซึ่งทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพัทลุงแนะนำ Self Quarantine แยกกักตัวเองและสังเกตอาการ ให้ปฏิบัติตัวตามมาตรการ DMHTT อย่างเคร่งครัด

ซึ่งวันนี้กลุ่มเสี่ยงสูงดังกล่าวที่ร่วมงานบุญทั้งพระสงฆ์และเณรพร้อมประชาชน ที่ร่วมงานไทม์ไลน์ผู้ป่วยต่างผวาแห่ตรวจหาเชื้อโรคโควิด ที่โรงพยาบาลพัทลุง และโรงพยาบาลใกล้ที่ตนเองอยู่อาศัยจำนวนมาก ทำให้ทีมแพทย์ พยาบาล พื้นที่ของจังหวัดพัทลุงต้องรับมือกับสถานการณ์โรคโควิด – 19 ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับการเดินมายังพื้นที่ของจังหวัดพัทลุงในขณะนี้ยังไม่มีด่านตรวจคัดกรองโรคโควิด – 19 บริเวณพื้นที่เข้า
จังหวัดแต่อย่างใด เพียงแต่หากบุคคลมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและงวดเข้ม 18 จังหวัด ต้องถูกกักตัว 14 วัน

ประชาชนปทุมธานียังตื่นตัว เข้าตรวจ โควิด19 จำนวนมาก ขณะ “บิ๊กแจ๊ส” รวมกับคณะสงฆ์สร้างโรงพยาบาลสนาม

นายยงยุทธ มั่นบุปผชาติ นายกเทศมนตรีตำบลลำลูกกา ได้ประสาน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ในการจัดจุดตรวจคัดกรองโควิด เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจในการดำเนินชีวิต ในส่วนของที่ศูนย์อำนวยการป้องกันและควบคุมโรค ที่หน้าองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ตำบลบ้านฉาง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี ประชาชนจำนวนกว่า 1,000 คน ทยอยเข้ามาเข้าคิวรับการตรวจคัดกรองเจาะเลือดแรปบิทเทส หาเชื้อโควิดหลังจากที่ผ่านช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี มอบหมายให้นายณเรศ คุชิตา เลขานุการนายก อบจ.ปทุมธานี นำทีมและควบคุมวางแผนชุดฉีดพ่นฆ่าเชื้อโรคป้องกันโควิด-19 ยังสถานที่ต่าง ๆที่ประชาชนรองขอให้เข้าไปฉีดพ่นฆ่าเชื้อสร้างขวัญกำลังใจให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยง

 

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 มีการแพร่ระบาดไปอย่างรวดเร็ว ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีจัดได้จัดชุดตรวจแรปบิทเทสเพื่อตรวจคัดกรองเมื่อผลออกมาบวก จึงได้ส่งตรวจสวอพต่อที่โรงพยาบาลปทุมธานีและโรงพยาบาลประชาธิปัตย์ ทำให้ประชาชนมีความตื่นตัวเข้ามารับการตรวจเป็นจำนวนมากเมื่อเป็นลบก็ตื่นตัวในการระวังป้องกัน มองว่าสถานการณ์ดีขึ้นแล้ว โดยวันนี้ได้ไปตั้งจุดตรวจที่เทศบาลลำลูกกาด้วย

จังหวัดสุพรรณบุรี พบผู้ติดเชื้อโควิด 13 ราย ยอดป่วยสะสม 174 ราย

เพจเกาะติดสถานการณ์ สุพรรณบุรีCovid-19 โพสต์ระบุอัปเดตล่าสุด 19 เมษายน 2564 เวลา 14:23 น. พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 13 ราย ป่วยสะสม 174 ราย เข้าเกณฑ์เฝ้าระวังโรค (สะสม) 17,828 ราย ส่งตรวจไม่พบเชื้อ 17,654 ราย หายแล้ว 52 ราย พบมากใน 10 อำเภอดังนี้

อำเภอ เมืองสุพรรณบุรี 100 ราย
อำเภอ เดิมบางนางบวช 6 ราย
อำเภอ ด่านช้าง 6 ราย
อำเภอ บางปลาม้า 9 ราย
อำเภอ ศรีประจันต์ 6 ราย
อำเภอ ดอนเจดีย์ 9 ราย
อำเภอ สองพี่น้อง 24 ราย
อำเภอ สามชุก 6 ราย
อำเภอ อู่ทอง 6 ราย
อำเภอ หนองหญ้าไซ 2 ราย

 

ผู้ติดเชื้อโควิด จ.นราธิวาส พุ่งอีก 15 ราย! ยอดสะสมเพิ่มเป็น 386 ราย ขณะจุฬาราชมนตรีประกาศงดการละหมาดวันศุกร์

วันนี้ (19 เมษายน 2564) สำนักงานสาธารณสุขจัวหวัดนราธิวาส ได้สรุปข้อมูลสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ ซึ่งพบผู้ป่วยยืนยันรายใหม่เพิ่มอีก 15 ราย เป็นผู้ป่วยจากสถานที่เพื่อเข้ารับการตรวจพิสูจน์ โคกยามู ที่อยู่ในการควบคุมของสำนักงานคุมประพฤติ จ.นราธิวาส โดยคณะอนุกรรมการฟื้นฟุสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด จ.นราธิวาส ทำให้ขณะนี้ยอดสะสมของผู้ติดเชื้อ Covid-19 ในพื้นที่ จ.นราธิวาส เพิ่มสูงขึ้นเป็น 386 รายแล้ว ขณะที่ผู้ป่วยรักษาหาย จำนวน 44 ราย ผู้เสียชีวิต 1 ราย

โควิดนราฯพุ่งอีก15ราย ยอดสะสม386ราย

สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้ง 15 รายในวันนี้ พบว่าตั้งแต่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 ระลอกใหม่เป็นต้นมา ไม่มีญาติหรือเพื่อนฝูงเดินทางเข้าเยี่ยมผู้ติดเชื้อทั้ง 15 รายนี้ ทำให้ไม่มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และหลังตรวจพบเชื้อ Covid-19 เจ้าหน้าที่ได้นำตัวทั้งหมดเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสนามแห่งที่ 2 แล้ว ขณะที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส ยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ Covid-19 อย่างเข้มข้น โดยได้กางเต็นท์ไว้ให้ด้านหน้าตัวอาคารของตึก Out patient department (OPD) หรือผู้ป่วยนอก สำหรับผู้ที่ต้องเข้าไปรับการรักษาโรคทั่วไป เพื่อลดความแออัดของผู้เข้ารับบริการ รวมทั้งกรณีผู้ป่วยที่หมอนัด หากต้องการรับยาเดิม ทางโรงพยาบาลจะจัดยาส่งไปให้ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ใกล้บ้าน เพื่อลดปริมาณของผู้เข้ารับการรักษารายวัน และเป็นการป้องกันความเสี่ยงของบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วยอาการทั่วไปอีกด้วย

นอกจากนี้จุฬาราชมนตรีจึงได้มีประกาศเรื่องมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVD-19) ว่าด้วย การงดปฏิบัติศาสนกิจและกิจกรรมในเดือนรอมฏอนที่มัสยิด อีกทั้งมติเห็นชอบให้จังหวัดนราธิวาสออกประกาศ ดังนี้
1.งดการละหมาดวันศุกร์ (ญุมอะฮ์) การละหมาดตะรอเวียะห์ การเอี๊ยะติก๊าฟ การออกดาวะห์หรือโยร์ที่มัสยิดหรือสถานที่อื่น และงดการจัดเลี้ยงละศีลอดที่มัสยิดหรือสถานที่จัดเตรียมไว้
2.หากมีข้อความในประกาศฉบับใดขัดหรือแย้งกับข้อความในประกาศฉบับนี้ ให้ใช้ข้อความในประกาศฉบับนี้แทน

 

 

นายก อบจ.พิจิตร นำทีมเร่งพ่นยาฆ่าเชื้อหลังพบผู้ป่วยโควิดรวม 7 ราย กลุ่มเสี่ยง 109 ราย

คืบหน้าล่าสุดจากการที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ระลอก 3 ช่วงเดือนเมษายน 64 จังหวัดพิจิตรมี ยอดสะสมพบผู้ป่วยโควิดรวม 7 ราย กลุ่มเสี่ยง 109 ราย ซึ่งส่วนใหญ่มีไทม์ไลน์เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงย่านทองหล่อในกรุงเทพฯ และร้านประชาชื่น ซึ่งเป็นผับอยู่หลังมหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก จึงทำให้ผู้ป่วยและผู้สัมผัสผู้ป่วยที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ความเสี่ยงสูง ส่วนใหญ่เป็นคนในวัยทำงานและนักศึกษา ล่าสุดเป็นเคสที่นักศึกษาสาวเรียนอยู่ที่พิษณุโลก บ้านอยู่ ต.คลองคะเชนทร์ อ.เมืองพิจิตร ไม่รู้ตัวว่าป่วยติดเชื้อโควิด จึงได้เดินทางมาร่วมงานบวชนาคที่บ้านเพื่อน ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.ย่านยาว และร่วมกินเลี้ยงโต๊ะจีนและแห่นาคไปอุปสมบทที่วัดหงษ์  ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.ย่านยาว จากนั้น 1-2 วันผ่านมาก็มีอาการป่วยเป็นรายที่ 7 ของจังหวัดพิจิตร

ล่าสุด พ.ต.อ.กฤษฎา ภัทรประสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตร นำเจ้าหน้าที่ อบจ.พิจิตร พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19  ณ บริเวณวัดหงษ์ ต.ย่านยาว อ.เมืองพิจิตร ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผู้ติเชื้อโควิดรายที่ 7 ของจังหวัดพิจิตร ได้ไปร่วมงานอุปสมบทเมื่อวันที่ 11 เมษายน ที่ผ่านมา

โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องพ่นละอองฝอย พ่นยาฆ่าเชื้อไปยังบริเวณที่มีการสัมผัสสูง เช่น ราวบันได ลูกบิดประตู รวมพื้นที่เสี่ยง ทั้งในพระอุโบสถและรอบนอกพระอุโบสถ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและคณะสงฆ์ในพื้นที่ดังกล่าว

สำหรับขณะนี้สถานการณ์ผู้ป่วยโควิด19 ของจังหวัดพิจิตร มีผู้ป่วยยอดสะสมปัจจุบัน จำนวน 7 ราย และมีกลุ่มผู้สัมผัสผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงจำนวน 109 คน ถูกนำตัวไปกักกันที่ Local Quarantine ที่มอนเทอเร่ย์ พาร์ค แอนด์รีสอร์ท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งสถานการณ์ล่าสุด 2 วันที่ผ่านมายังไม่พบผู้ป่วยเพิ่มแต่อย่างใด

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube