ปรากฏการณ์ชายหาดทะเลปราณบุรีเป็นสีเขียวมรกต ตามขั้นบันไดเขื่อนกันคลื่น ระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร เตือนอันตรายห้ามลงไปเหยียบ
ที่บริเวณชายหาดปราณบุรี ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นประจำของทุกปี ระหว่างเดือน ธ.ค –ก.พ.ของทุกปี บริเวณเขื่อนกันคลื่นเป็นขั้นบันได จะแปรสภาพเป็นสีเขียวมรกตเป็นแนวยาวระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร สาหร่ายสีเขียวเกาะติดบนขั้นบันไดเขื่อนกันคลื่นน้ำทะเลท่วมถึง เมื่อกระทบเกลียวคลื่นจะระยิบระยับสวยงาม มีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ประชาชน ลงมาเดินเที่ยวและพบว่าตามขั้นบันไดกลายเป็นสีเขียวยาวตลอดแนวชายหาด ซึ่งหากจะมาเที่ยวชม หรือถ่ายภาพ
ต้องมาช่วงเวลาที่น้ำทะเลลดลง ตั้งแต่ช่วงเที่ยงถึงเย็นจึงจะมองเห็นได้ชัดเจนและสวยงาม ระหว่างนี้จะพบว่ามีนักท่องเที่ยวเกิดอุบัติเหตุลงไปเหยียบสาหร่ายแล้วลื่นล้มได้รับบาดเจ็บบ่อยครั้ง จนทำให้หน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ได้นำป้ายมาเตือนอันตราย มาติดตั้งไว้ตลอดแนว ตั้งแต่ต้นเดือน ธ.ค. องค์การบริหารส่วนตำบลปากน้ำปราณและเทศบาลตำบลปากน้ำปราณ
ได้นำป้ายไวนิลมีข้อความภาษาไทย อังกฤษ (Please beware of moss) “ระวังลื่นตะไคร่น้ำ” มาตั้งไว้ริมชาดหาดเป็นระยะๆเพื่อเตือนไม่ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว อย่าลงไปเหยียบตะไคร่น้ำเพราะจะทำให้เกิดอุบัติเหตุลื่นล้มได้รับบาดเจ็บได้ ขณะมีป้ายเตือนก็ยังผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่เรื่อยๆ
นายพรหมสิงห์ สิงหเสนี อาสาสมัครอนุรักษ์พิทักษ์สิ่งแวดล้อมทะเลปราณบุรี กล่าวว่า จะมีบางช่วงคือตั้งแต่เดือน ธ.ค. ถึง ก.พ.ในระหว่าง 3เดือนนี้จะเกิดอุบัติบ่อย คือว่านักท่องเที่ยวที่เดินลงมาบนขั้นบันไดจะมองไม่ค่อยเห็นในช่วงที่บันไดลื่น จะลงมาชมชาดหาดแล้วลื่นซึ่งอุบัติเหตุที่เจอหัวแตก แขน ขาถลอก ส่วนที่นักท่องเที่ยวเนื่องจากเป็นสาหร่ายเป็นช่วงฤดูเกิดสาหร่ายในพื้นที่ที่มาเกาะบนบันได โดยมีหน่วยงานนำป้ายเตือนมาติดตั้งไว้เป็นระยะแต่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยสังเกต
ฝากเตือนนักท่องเที่ยวถ้าต้องการที่จะมาถ่ายรูปต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะฉะนั้นจะเกิดอุบัติเหตุลื่นล้มได้รับบาดเจ็บขึ้นได้ ถ้าเกิดอุบัติสามารถติดต่อได้ที่ กลุ่มไลน์ จิตอาสาอบต.ปากน้ำปราณ หรือ 1669
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
