พายุฤดูร้อนพัดถล่มหลายจังหวัด เสาไฟฟ้าหักโค่น ต้นไม้ล้มทำคนตาย บ้าน วัด โรงเรียน เสียหายยับ – เจ้าหน้าที่เร่งสำรวจช่วยเหลือซ่อมแซม
พายุฤดูร้อนได้พัดถล่มอย่างรุนแรงในพื้นที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ส่งผลทำให้มีเสาไฟฟ้าล้มจำนวน 8 ต้น ที่บริเวณถนนสาย พิมาย ชุมพวง เขตรอยต่อ อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าต้องงดจ่ายกระแสไฟฟ้าชั่วคราว เพื่อเร่งทำการแก้ไขด่วน เนื่องจากเสาไฟฟ้าล้มเอนเข้ามาใกล้ช่องจราจร เสี่ยงเกิดอันตรายเสาไฟฟ้าโค่นล้มใส่ผู้ขับขี่สัญจรผ่านบริเวณดังกล่าวได้ นอกจากนี้ แรงลมพายุ ยังพัดเอาป้ายหาเสียงของผู้สมัครนายกเทศมนตรีและผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลฯ ที่ตั้งเรียงหลายจุดในเขตเทศบาลฯ ล้มพังทั้งแถบ
ในขณะที่พื้นที่ ต.ท่าลาด อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา กู้ชีพโรงพยาบาลชุมพวงและกู้ภัยสว่างเมตตาธรรมสถาน จุดอำเภอชุมพวง ได้รับแจ้งอุบัติเหตุต้นไม้ล้มทับรถจักรยานยนต์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หมดสติไม่รู้สึกตัว ที่บริเวณถนนในหมู่บ้านโคกตอง ตำบลท่าลาด อำเภอชุมพวง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่า ผู้บาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย รูปร่างสมส่วน สวมเสื้อโปโลสีแดง กางวอร์มสีดำ รองเท้าผ้าใบสีเทา มีอาการบาดเจ็บสาหัส มีแผลที่ใบหน้า และคาดว่าจะทนพิษบาดแผลไม่ไหว ได้เสียชีวิตลงก่อนที่ทีมกู้ชีพกู้ภัยจะไปถึง ทราบชื่อคือ นายสังวาลย์ ผ่องปัญญา อายุ 38 ปี ชาวบ้านหมู่ 17 ตำบลท่าลาด อำเภอชุมพวง จังหวัดนครราชสีมา เมื่อพนักงานสอวน สภ.ชุมพวงมาถึงจุดเกิดเหตุ ได้ให้ทีมกู้ชีพโรงพยาบาลชุมพวง นำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลชุมพวง หาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมกับตรวจสอบที่เกิดเหตุ และ สอบปากคำพยาน ประกอบสำนวนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
ส่วนพื้นที่เขตเมืองนครราชสีมา ก็ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อนเช่นกัน โดยเวลาประมาณ 20.15 น. วานนี้ อาสากู้ภัยสว่างเมตตาธรรมสถาน จุดจอหอ ได้รับแจ้งเหตุป้ายหาเสียงเลือกตั้งเทศบาลฯ หลุดปลิวไปโดนประชาชนที่ขี่รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน ขณะกำลังขับอยู่บนถนนสุรนารายณ์ ช่วงหน้าศูนย์ ปภ.เขต 5 นครราชสีมา ทำให้รถจักรยานยนต์ล้มคว่ำ ผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย มีบาดแผลที่บริเวณศีรษะ ใบหน้าและตามลำตัวหลายแห่ง อาสากู้ภัยต้องเร่งให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาล ก่อนนำส่งรักษา รพ.มหาราชนครราชสีมา ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนคราชสีมา ได้ตรวจสอบหาสาเหตุเบื้องต้น พบว่า ป้ายหาเสียงการเลือกตั้งเทศบาลฯ ที่ติดอยู่บริเวณริมทางเป็นการชั่วคราว ได้ถูกแรงลมพายุฤดูร้อนพัดปลิวลอยไปกระแทกเข้ากับผู้ขับขี่สัญจรบริเวณนั้น จนทำให้เกิดอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งจะได้ประสานแจ้งไปยังผู้สมัครเลือกตั้งฯ รวมถึงผู้รับเหมาหรือผู้ที่ติดตั้งป้ายหาเสียง ให้มาตรวจสอบและรับทราบข้อกล่าวหาฐานกระทำโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ
ขณะที่ตำบลโนนจาน อำเภอบัวลาย จังหวัดนครราชสีมา แรงลมพายุได้พัดกระหน่ำทำบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างเสียหายอย่างหนัก โดยเฉพาะที่วัดห้วยม่วง แรงลมพัดหลังคากุฎิเจ้าอาวาสและหลังคาศาลาพักศพได้รับความเสียหาย พังครืนลงมาทั้งหลัง ในขณะที่โรงเรียนบ้านห้วยม่วง ซึ่งอยู่บริเวณใกล้กันก็ได้รับผลกระทบ บริเวณอาคารเรียน 1 ชั้นที่ 2 ซึ่งเป็นห้องเรียนของนักเรียนชั้น ป.1 ถูกแรงลมพัดผนังห้องและหน้าต่างพังทะลุเข้ามาด้านใน โชคดีที่ช่วงเกิดเหตุเป็นตอนเย็น นักเรียนกลับบ้านหมดแล้ว จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่สื่อการเรียนการสอนความเสียหายเกือบหมด
จากการสำรวจเบื้องต้น ยังพบว่า มีสิ่งปลูกสร้าง ทั้งบ้านเรือน ยุ้งฉาง และคอกสัตว์เลี้ยง ได้รับความเสียหายมากกว่า 10 หลังคาเรือน รวมไปถึง ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ปลูกตามริมทาง ก็ทนแรงพายุไม่ไหว โค่นล้มทับถนน กีดขวางเส้นทางการจราจรหลายจุด และยังส่งผลทำให้กระแสไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง ซึ่งอยู่ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าสำรวจความเสียหาย เพื่อเยียวยาช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบต่อไป แต่ทั้งนี้ ชาวบ้านเกรงว่าจะมีพายุฤดูร้อนเข้ามาอีกรอบ จึงช่วยกันเก็บข้าวของไว้ในที่ปลอดภัย ส่วนบ้านหลังไหนที่เสียหายไม่มาก ก็รีบซ่อมแซมให้มั่นคงแข็งแรง เพื่อเตรียมการรับมือกับพายุที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอีกในช่วงเย็นวันนี้
พายุฤดูร้อนถล่ม 9 อำเภอ เสาไฟฟ้าโค่นล้มบ้านเรือนเสียหายกว่า 200 หลัง – ผวจ.ศรีสะเกษ สั่งทุกอำเภอเร่งสำรวจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณถนนข้างที่ว่าการ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ได้เกิดลมพายุฤดูร้อนพัดโหมกระหน่ำอย่างรุนแรง ทำให้ต้นไม้โค่นล้มลงและได้ดึงเอาเสาไฟฟ้าจำนวน 5 ต้นโค่นล้มโดนเสาไฟฟ้าได้ล้มทับตู้ยามของตำรวจ สภ.ขุขันธ์ พังเสียหายทั้งหลังขณะที่บริเวณถนนด้านหลัง ร.ร.อนุบาลศรีประชานุกูล ลมพายุได้พัดต้นไม้โค่นล้มหลายต้นและได้ดึงเอาเสาไฟฟ้าโค่นล้มขวางถนนจำนวน 4 ต้น โดยที่ไม่มีผู้ได้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ขณะเดียวกัน ที่บ้านหนองม่วง ต.ทุ่ม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้เกิดพายุพัดโหมกระหน่ำอย่างรุนแรงทำให้บ้านเรือนของชาวบ้านโดนลมพายุพัดเอาหลังคาบ้านที่เป็นหลังคาสังกะสีปลิวลอยไปไกล บ้านบางหลังโดนลมพัดเอาหลังคาลอยปลิวไปทั้งหลัง ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านได้รับความเสียหาย ต้นไม้ขนาดใหญ่โค่นล้มลง ชาวบ้านต้องพากันเดินตามหาสังกะสีหลังคาบ้านเพื่อนำเอาสังกะสีที่พอจะใช้งานได้มาทำการซ่อมหลังคา เนื่องจากเกรงว่าฝนจะตกลงมาอีกทำให้ข้าวของเสียหายมากกว่าเดิมมีชายคนหนึ่งชื่อ นายอนุรักษ์ สุนทอง อายุ 21 ปี โดนสังกะสีตกใส่ศีรษะได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนที่ ร.ร.บ้านหนองม่วงหนองแวง ต.ทุ่ม อ.เมืองลมพายุได้พัดถล่มอย่างหนัก
นายจรัส งอมสงัด อายุ 76 ปี อยู่บ้านเลขที่ 166 ม.8 ต.ทุ่ม อ.เมือง ซึ่งถูกลมพายุพัดบ้านพังเสียหายยับเยินทั้งหลัง กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนเองกำลังนั่งดูทีวีอยู่ในบ้าน ปรากฏว่าทันใดนั้นได้เกิดมีลมพายุพัดกระหน่ำเข้ามาที่บ้านของตนเองอย่างรุนแรง ช่วงแรกไม่รู้สึกอะไรแต่พอเห็นหลังคาบ้านและคอกไก่โดนลมพัดกระหน่ำปลิวลอยไปพังเสียหายยับเยิน ทำให้ตนรู้สึกตกใจมาก
นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า การเกิดเหตุวาตภัยขึ้นในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ครั้งนี้ได้รับรายงานจาก นายบุญประสงค์ นวลสายย์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในเบื้องต้นได้รับผลกระทบจำนวน 9 อำเภอ 11 ตำบล 29 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 178 หลัง คอกสัตว์ 12 หลัง และโรงเรียนอีก 2 แห่ง ประกอบด้วย อ.ศรีรัตนะ อ.เมืองศรีสะเกษ อ.ไพรบึง อ.เบญจลักษ์ อ.โนนคูณ อ.ขุขันธ์ อ.วังหิน อ.ขุนหาญ และ อ.กันทรลักษ์
พายุฤดูร้อน ถล่มครบุรี โคราช บ้านเสียหายยับเกือบ 20 หลัง เจ้าหน้าที่เร่งสำรวจความเสียหาย
นางสาวออระยา เหลืองกระโทก กำนัน ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลจระเข้หิน ออกสำรวจความเสียหายของบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่บ้านไผ่ หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 6 ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี หลังจากได้รับผลกระทบจากลมพายุพัดกระโชกอย่างรุนแรงเมื่อช่วงเย็นวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา จากการสำรวจในเบื้องต้น พบว่า ลมพายุได้พัดบ้านเรือนประชาชน 2 หมู่บ้านได้รับความเสียหายเกือบ 20 หลังคาเรือน มีบ้านเรือนเสียหายหนักประมาณ 4 หลังคาเรือน
โดยเฉพาะบ้านของนายบุญเดิม ห่ามกระโทก อายุ 51 ปี หลังคาบ้านชั้น 2 ถูกลมพัดปลิวหายไปเกือบหมดซึ่งนายบุญเดิม ฯ บอกว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์พายุที่รุนแรงที่สุดเท่าที่ตนเคยประสบมา วันนี้จึงต้องเร่งซ่อมแซมหลังคาบ้านโดยด่วน เนื่องจากสภาพอากาศครึ้มฝนตลอดทั้งวัน จึงเกรงว่าจะเกิดฝนตกลงมา และจะทำให้คนในบ้านลำบากไม่มีที่หลบฝน ซึ่งหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ฯ จะออกทำการสำรวจความเสียหายอย่างละเอียด เพื่อเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการโดยเร็ว
ผู้ว่ากาฬสินธุ์ สั่งนายอำเภอ 18 แห่ง เร่งสำรวจความเสียหาย เบื้องต้น บ้านพัง 112 หลัง ใน 14 อำเภอ
นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ สั่งการให้นายอำเภอทั้ง 18 แห่ง เร่งออกสำรวจความเสียหายจากพายุฤดูร้อน ตั้งแต่วันที่ 20 -22 มี.ค. 2563 โดยเบื้องต้น ได้รับผลกระทบ 14 อำเภอ 28 ตำบล และ 44 หมู่บ้าน จำนวน 122 ครัวเรือน ยังไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พร้อมกำชับให้ลงพื้นที่เพื่อให้กำลังใจผู้ประสบภัย เร่งดำเนินการช่วยเหลือและประสานการฟื้นฟูจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง พร้อมให้เฝ้าระวังต่อเนื่องตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา ที่ยังมีพายุฤดูร้อนในช่วงนี้
ขณะที่ อำเภอสหัสขันธ์ เบื้องต้นได้รับความเสียหายจากพายุฤดูร้อนมีบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหาย 20 หลังคาเรือน ในพื้นที่ 3 ตำบล 9 หมู่บ้าน ประกอบด้วย ต.สหัสขันธ์ ต.โนนแหลมทอง และต.นามะเขือ โดยนายตระกูล หนูนิล นายอำเภอสหัสขันธ์ ได้นำปลัดอำเภอ เจ้าหน้าที่ปกครอง จิตอาสาภัยพิบัติ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และ อปท.ในพื้นที่ลงสำรวจความเสียหายหลังพายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือนราษฎรเมื่อช่วงเย็นวันที่ 21 มี.ค. 64 ที่ผ่านมา พร้อมให้กำลังใจผู้ประสบเหตุทุกครัวเรือน
นายธนทร ศรีนาค หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.กาฬสินธุ์ ได้รายงานตัวเลขความเสียหายจากพายุฤดูร้อน ใน วันที่ 20 มี.ค. มีพื้นที่ได้รับความเสียหายจากพายุฤดูร้อน 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ห้วยเม็ก อ.เขาวง อ.กุฉินารายณ์ 9 ตำบล 11 หมู่บ้าน บ้านเรือนราษฎร 38 หลังคาเรือน ในขณะที่วันที่ 21 มี.ค. ที่ผ่านมา มีพื้นที่เสียหายจากพายุฤดูร้อน 14 อำเภอ 28 ตำบล 44 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหายจากพายุ 112 ครัวเรือน โดยพื้นที่ที่เสียหายจากพายุฤดูร้อน ประกอบด้วย อ.กมลาไสย อ.หนองกุงศรี อ.กุฉินารายณ์ อ.ยางตลาด อ.เมืองกาฬสินธุ์ อ.สหัสขันธ์ อ.ฆ้องชัย อ.นาคู อ.สมเด็จ อ.ดอนจาน อ.เขาวง อ.ห้วยเม็ก และ อ.ท่าคันโท
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
