สิ่งแวดล้อมโคราชชี้ฝุ่นPM2.5แนวโน้มสูงขึ้น
สิ่งแวดล้อมโคราช ชี้ ค่าฝุ่น PM 2.5 มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เตือนประชาชนเฝ้าระวัง หวั่นกระทบสุขภาพระบบทางเดินหายใจ
( 13 ธันวาคม 2566 ) นายธนัญชัย วรรณสุข ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 (นครราชสีมา) กล่าวถึงสถานการณ์ฝุ่นมลพิษในอากาศช่วงนี้ ว่า ในพื้นที่ดูแลสถานการณ์ฝุ่นมลพิษ PM 2.5 ยังไม่เกินมาตรฐาน 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จากการตรวจวัดค่าคุณภาพอากาศ ผ่านแอพพลิเคชัน Air4Thai พบว่า คุณภาพอากาศของ จ.นครราชสีมาในวันนี้ ณ สถานีสูบน้ำประตูพลแสน ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา คุณภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลาง ประชาชนทั่วไปสามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ตามปกติ แต่ประชาชนกลุ่มเสี่ยง หากมีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคือง ตา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยดัชนีคุณภาพอากาศวันนี้ ตรวจวัดได้ที่ 90 AQI (Air Quality Index) ส่วนค่าฝุ่น PM 2.5 ตรวจวัดได้ 35.0ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เพิ่มสูงขึ้นจากเมื่อหลายวันก่อน ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยของสภาพอากาศที่มีบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นแผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ทั้งนี้ ค่าฝุ่นมลพิษที่พุ่งสูงขึ้นจะมาจากปัจจัยการเผาของประชาชนมากกว่าปัจจัยสภาพอากาศ
เมื่อดูสถิติย้อนหลัง จังหวัดนครราชสีมา มักจะมีค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐานในช่วง 4 เดือนนี้ โดยเกินมาตรฐานอยู่ประมาณ 10-30 วัน และเมื่อดูย้อนหลัง 5 ปี คาดว่า ปีนี้ค่าฝุ่นมลพิษจะเกินมาตรฐานนานเกิน 30 วัน จากปัจจัยเรื่องการปรับค่ามาตรฐานใหม่ โดยฝุ่นมลพิษ PM 2.5 จากเดิมต้องไม่เกินมาตรฐาน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ปรับเป็น 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร รวมทั้ง อิทธิพลของเอลนีโญทำให้สภาพอากาศแห้งแล้ง เสี่ยงเกิดไฟลามไหม้ได้ง่ายขึ้น และยังมีปัจจัยอื่นๆ อีก ก็มีความเป็นไปได้ที่ค่าฝุ่น PM 2.5 จะคงตัว โดยอาจจะเกินค่ามาตรฐานเพียงนิดหน่อย ซึ่งที่ผ่านมา จังหวัดนครราชสีมาค่าฝุ่นจะเกินมาตรฐานไม่มากอยู่แล้ว แต่ถ้าเกินมาตรฐานก็ต้องแจ้งเตือนประชาชนให้ป้องกันตนเอง และหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายในที่โล่งแจ้ง
ซึ่งการเผาในที่โล่ง จะมีแหล่งกำเนิดใหญ่ๆ 2 แหล่ง ได้แก่ 1.พื้นที่ป่าไม้และอุทยานแห่งชาติ ซึ่งอยู่ในความดูแลของกรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และ 2.พื้นที่เกษตร ซึ่งจะมีทั้งพื้นที่ ส.ป.ก.และพื้นที่ที่มีโฉนด ถ้ามีการเผาใน 2 แหล่งนี้ ค่าฝุ่น PM2.5จะพุ่งสูงขึ้นทันที และถึงจะมีลมพัดเข้ามาในพื้นที่ แต่ก็ไม่ช่วยให้ค่าฝุ่นมลพิษลดลง นอกจากนี้ ยังเป็นช่วงฤดูเปิดหีบอ้อย จังหวัดนครราชสีมามีโรงงานน้ำตาลขนาดใหญ่อยู่ถึง 4 แห่ง ต้องรณรงค์ให้เกษตรกรงดเผาอ้อยก่อนตัด เพราะถ้าเผาจะเป็นปัจจัยเสริมทำให้ค่าฝุ่นพุ่ง รวมไปถึง การเผาตอซังข้าวหลังเก็บเกี่ยวด้วย จะต้องรณรงค์งดเผากันอย่างเข้มข้น ซึ่งทางจังหวัดฯ ออกประกาศห้ามเผาฯ เพื่อใช้มาตรการทางกฎหมายมาบังคับใช้ลงโทษผู้ที่ลักลอบเผา ส่วนการขอความร่วมมือทางจังหวัดฯ ดำเนินการมาตลอดอยู่แล้ว แต่ยังมีประชาชนหลายรายที่ไม่ให้ความร่วมมือ จึงต้องนำมาตรการทางกฎหมายมาบังคับใช้
ในประกาศห้ามเผาของจังหวัดฯ จะให้อำนาจการกำกับดูแลควบคุมตามลำดับกันไป ตั้งแต่นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้กำชับประชาชนห้ามเผาโดยพลการ ถ้าเกิดเหตุไฟไหม้ที่โล่งในพื้นที่หมู่บ้านใด ก็อยู่ในความรับผิดชอบของหมู่บ้าน-ตำบลนั้น ส่วนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะเข้ามาช่วยเรื่องการดับไฟ ควบคุมไฟไม่ให้ลุกลาม ถ้าพบผู้กระทำผิดก็ส่งให้ฝ่ายปกครองและตำรวจดำเนินการต่อ นำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษตามพระราชบัญญัติสาธารณสุข พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม แต่หากมีความจำเป็นจะต้องเผาขยะหรือพืชผลทางการเกษตร จะต้องยื่นหนังสือขออนุญาตไปทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ทราบก่อน ถ้าฝ่าฝืนจะมีโทษตามกฎหมาย ส่วนสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 (นครราชสีมา) จะร่วมมือกับสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดฯ รายงานสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ทราบทุกวัน และหากวันใดมีฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน ทางจังหวัดจะประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนได้รับทราบตามมาตรการที่กำหนดเอาไว้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





