fbpx
Home
|
ภูมิภาค

หมอขอนแก่นเตือนกินปูนาดิบเสี่ยงพยาธิปอด

Featured Image
หมอขอนแก่น เตือนกิน ปูนาดิบ ดอง เสี่ยงพยาธิกินปอด หลังพบคนไข้จากประเทศเพื่อนบ้านเข้ารับการรักษา

 

 

 

 

 

 

วันที่ 26 ก.ย. 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโลกโซเชียลมีเดียและเพจต่างๆทั่วทั้ง จ.ขอนแก่น ได้เผยแพร่ภาพจากผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ “Suraphan Charoentanyarak ” ซึ่งก็เป็นเฟสบุ๊คของ นพ.สุรพันธ์ เจริญธัญรักษ์ นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ สาขาอายุรกรรมโรคระบบทางเดินหายใจและวิกฤติทางเดินหายใจ รพ.ขอนแก่น ซึ่งโพสต์ภาพปูนาพร้อมภาพเอกซเรย์ปอดของผู้ป่วย พร้อมข้อความระบุว่า ” ตั้งสติก่อนกิน ตำปูปลาร้าดิบ คนไข้ เด็กชาย อายุ 15ปี จากประเทศลาว ดื่มสุราใช้บุหรี่ไฟฟ้า ไม่มีโรคประจำตัว เจ็บหน้าอกชายโครงด้านขวาล้าง ปวดไปด้านหลัง 10วัน

 

 

 

ไปหาคลีนิคฉีดยากล้ามเนื้ออักเสบ 4วันต่อมาไข้สูงหนาวสั่นไอ ปวดมากขึ้นจนนอนไม่ได้ มา รพ. เอ็กซเรย์ปอด โพรงฝีหนองในปอดขวา 10เซนติเมตร และได้สอบถามประวัติว่ากินของดิบมั้ย ตอนปกติไม่กิน แต่ตอนเมาไม่รู้ สงสัย กลุ่ม parasites ทำ bronchosccope ล้าง ดูwet smear เท่านั้นแหละครับ ว้าวุ่นเลย เต็มไปด้วย #paragonimus วิ่งไปมา เต็มไปหมด

 

 

 

มันเป็นพยาธิชนิดหนึ่งที่ อาศัยในปูน้ำจืด แถวบ้านเรา ชอบเอาไปใส่ตำปูปลาร้า คิดว่าดองเค็มแล้วพยาธิมันตายแต่มันไม่ตาย คนกินเข้าไป พยาธิ ไชออกมาจากลำไส้ ขึ้นไปตับ ขึ้นไปในปอด เกิดโพรงฝีในปอด”

 

 

 

ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวได้ประสานไปยังนพ.สุรพันธ์ เจริญธัญรักษ์ นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ สาขาอายุรกรรมโรคระบบทางเดินหายใจและวิกฤติทางเดินหายใจ รพ.ขอนแก่น ทราบว่า พยาธิที่เข้าไปในปอดของผู้ป่วย ว่า พยาธิชนิดนี้อยู่ในปูน้ำจืด หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าปูนา ที่ชอบนำมาทำปูดองแล้วเอามาตำใส่กับส้มตำปูปลาร้า ส่วนการที่พยาธิเข้าไปในปอดของคนนั้น

 

 

 

จนกลายเป็นฝีในปอด เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง แต่กรณีเด็กอายุ 15 ปีชาว สปป.ลาวที่ติดเชื้อจากพยาธิในปูนานั้น เป็นพยาธิคนละแบบ ไม่ได้พบเจอบ่อยมาก ซึ่งเชื้อแบคทีเรียดังกล่าวก่อให้เกิดฝีในปอดส่วนใหญ่จะเกิดจากการสำลักอาหาร หรือคนที่ดื่มสุราแล้วเกิดการสำลัก และกรณีเด็กอายุ 15 ปีมาพบแพทย์ด้วยอาการเจ็บชายโครงทางด้านขวา ซึ่งแพทย์วินิจฉัยเริ่มแรกว่าเป็นกล้ามเนื้ออักเสบหรือปวดหลัง แต่คนไข้ไปหาหมอตามคลินิกแล้ว ฉีดยาแก้ปวดแล้ว แต่อาการไม่ดีขึ้น มีอาการไอและมีไข้สูงจึงมาพบแพทย์ที่ รพ.ขอนแก่น

 

 

 

 

 

“จากการตรวจสอบโดยการเอกซเรย์แพทย์พบว่าเป็นโพรงฝีในปอด จึงทำเอกซเรย์คอมพิวเตอร์เพิ่มเติมพบว่าเริ่มมีฝีที่ในตับ จากนั้นทำการตรวจเสมหะเบื้องต้นและทำการส่องกล้องตรวจ ก็พบตัวพยาธิซึ่งพยาธิชนิดนี้มีวงจรชีวิตปกติอยู่ในตัวปูน้ำจืด หากมีการนำปูน้ำจืดมาทำอาหารโดยไม่ปรุงสุก ก็จะทำให้พยาธิที่อยู่ในปูนน้ำจืดนี้สามารถเข้าสู่ร่างกายได้โดยระบบลำไส้ทางการกิน

 

 

 

แต่เนื่องจากร่างกายมนุษย์ไม่ได้วงจรชีวิตปกติของพยาธิ ตัวพยาธิเองจึงพยายามหาทางออกจากร่างกายโดยพยาธิพยายามไชขึ้นมาออกจากลำไส้ทะลุเข้ามาที่ตับและทะลุกระบังลมเข้ามาที่ปอดจึงทำให้เกิดมีโพรงฝีที่ปอดและมีน้ำในช่องปอดเนื่องจากกระบังลมทะลุเกิดจนเกิดภาวะไอเป็นเลือดได้”

 

 

 

นพ.สุรพันธ์ กล่าวต่ออีกว่า ส่วนพยาธิที่จะสามารถเข้าสู่ร่างกายได้นั้นจะขึ้นอยู่กับจังหวะและปัจจัยหลายอย่าง เช่นมีประวัติเรื่องของการกินอาหารที่มีไข่พยาธิในตัวพยาธิเข้าไปหรืออยู่ในภาวะที่ภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำจนไม่สามารถขับถ่ายพยาธิออกไปได้จากร่างกายในระบบปกติ ทั้งนี้ยังขึ้นอยู่กับปริมาณและจำนวนครั้งของการกินอีกด้วย โดยกลุ่มคนที่มีโอกาสเสี่ยงในการรับเชื้อพยาธิคือกลุ่มคนที่ทานปูดิบหรือปูดองที่มากับส้มตำ อย่างไรก็ตามขอฝากเตือนผู้ที่ชอบบริโภคของดิบทั้งหมด ไม่ได้เน้นเฉพาะที่ปูนา

 

 

 

แต่เน้นที่เนื้อสัตว์ทั้งหมดควรปรุงสุกเพราะอาหารดิบทั้งหลายจะมีจะมีตัวเชื้อก่อโรค ไม่ว่าจะเป็นแบคทีเรียหรือพยาธิซึ่งพยาธิเองก็มีหลากหลายชนิดการแสดงของโลกก็ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นการป้องกันที่ดีที่สุดคือการปรุงให้สุกก่อนที่จะนำมารับประทานจะเป็นการดีที่สุด ส่วนการแสดงอาการของโรคนั้นตัวพยาธิแต่ละชนิดก็ไม่เหมือนกันการแสดงของโรคก็จะต่างกันอยู่ที่ว่าพยาธิไปทำอันตรายต่อร่างกายที่จุดใดอวัยวะส่วนใดของร่างกายส่วนการทานยาฆ่าพยาธินั้นการรักษาการใช้ยาฆ่าพยาธิแต่ละชนิดก็ไม่เหมือนกัน

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

 

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube