สอบปากคำพยานกรณี ตร.ทุ่งคาโงก เรียกรับเงิน

พังงาเร่งสอบปากคำพยานรู้เห็นวันแรก กรณีตำรวจทุ่งคาโงกเรียกรับเงินแทนจับตรวจฉี่พบสีม่วง

 

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีข้อเท็จจริงหลังมีหนังสืออ้างเป็นตำรวจชั้นประทวน สภ.ทุ่งคาโงก ให้ตรวจสอบพฤติกรรมของ นายตำรวจชั้นสัญญาบัตร ตำแหน่งสารวัตรฝ่ายป้องกันและปราบปราม สภ.ทุ่งคาโงก อ.เมือง จ.พังงา

 

โดยระบุว่ามีการเรียกรับเงินแทนการจับกุมดำเนินคดี ต่อผู้ที่ตรวจปัสสาวะพบมีสารเสพติด บริเวณด่านตรวจสามแยกนบปริง ต.นบปริง อ.เมือง จ.พังงา อีกทั้งผู้ประกอบการแพปลา แจ้งต่อสื่อมวลชนว่ามีตำรวจตั้งด่านเรียกเงินแทนการจับกุม โดยเรียกเงินรายละ 5,000 -10,000 บาท และเรียกรับเงินแทนการจับกุม 30,000 – 50,000 บาท ในรายที่พบยาเสพติด

 

ล่าสุดทาง พล.ต.ต.ธรรมนูญ ประยืนยง ผบก.ภ.จว.พังงา ลงพื้นที่ประชุมข้าราชการตำรวจในสังกัด สภ.ทุ่งคาโงก เพื่อเร่งรัดการสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว พร้อมออกคำสั่งให้ พ.ต.ท.โชติพงศ์ เกศรินทร์ สวป.สภ.ทุ่งคาโงก ให้ช่วยการที่ ศปก. (ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ภ.จว.พังงา

 

จนกว่า กรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ที่มี พ.ต.อ.เสกสรร แก้วกระจ่าง รอง ผบก.ภ.จว.พังงา เป็นประธานฯ ทำการสอบข้อเท็จจริงเสร็จสิ้น เบื้องต้นได้เชิญพยานที่เกี่ยวข้องเข้าสอบปากคำร่วม 10 ราย ในวันแรก และจะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้อง ผู้ที่ถูกอ้างถึง และ แหล่งข่าวที่ให้ข่าวต่อสื่อมวลชนเข้าให้ปากคำในลำดับต่อไป

 

โดยทาง พล.ต.ต.ธรรมนูญ ประยืนยง ผบก.ภ.จว.พังงา กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวตนเองเข้าเร่งรัดความคืบหน้าหาข้อเท็จจริง พร้อมมอบขวัญกำลังใจ หากเป็นจริงตามกระแสข่าว ตนเองพร้อมดำเนินการอย่างจริงจังไม่เข้าข้างคนผิดหากประพฤติมิชอบ

 

ซึ่งต้องสืบสวนต่อว่ามีการกระทำเพียงคนเดียวหรือหลายคน ซึ่งหากพบว่ามีการเรียกรับเงินแทนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายจริง จะมีการตั้งกรรมการเอาผิดทางวินัยและทางอาญา อย่างแน่นอนตร.ภาค 5 แถลงผลกวาดล้างยานรกหลังจับคาด่านล้านเม็ด พบยังระบาดอื้อ วอนปชช.ร่วมแจ้งเบาะแสถึง ผบช.ภ.5 โดยตรง

 

พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 พร้อมด้วย พล.ท.บุญยืน อินกว่าง มทน.3/ผบ.ศป.บส.ชน., พล.ต.ศุภฤกษ์ สถาพรผล ผบ.กกล.ผาเมือง นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายไกรเลิศ ดาวเรือง ผอ.ป.ป.ส.ภาค 5 และเกี่ยวข้องร่วมกันแถลงผลการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ประมาณ 1,000,000 เม็ด จากที่หน่วยจับกุมสภ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

 

เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่ด่านตรวจยาเสพติดแก่งปันเต๊า ต.แม่นะ อ.เชียงดาว มีผู้ต้องหารวม 4 คน คือ นายอนิรุจ อายุ 33 ปี อยู่ ต.แหลมสัก อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ นางพัชราภรณ์ อายุ 38 ปีอยู่ ต.ตลาด อ.เมืองสุราษฎร์ธานีจ.สุราษฎร์ธานี นางธัญญลักษณ์ อายุ 31 ปี อยู่ ต.บางกุ้ง อ.เมืองสุราษฎร์ธานี นายปรีชา อายุ 29 ปี อยู่ ต.บางกุ้ง อ.เมืองสุราษฎร์ธานี

 

มีขยายผลออกหมายจับอีก 2 คน นายรัชต์รวีย์ มีภูมิลำเนาอยู่ ต.ศรีดงเย็น อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ (ยังหลบหนี) น.ส.ณัฐยา อยู่ ต.ศรีดงเย็น อ.ไชยปราการ (จับตัวได้วันที่ 3 พ.ค.65)

 

ผลการจับกุมคดีนี้ได้ของกลาง 1.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ประมาณ 1,000,000 เม็ด 2.รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ สีเขียว ทะเบียน เชียงใหม่ ข้อกล่าวหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครอง เพื่อการค้าโดยผิดกฎหมายและทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป”

 

อย่างไรก็ตามผลการจับกุมคดียาเสพติดของตำรวจภูธรภาค 5 ในห้วง ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2564 – 30 เมษายน 2565 สามารถจับกุมยาเสพติด 20,228 คดี, ผู้ต้องหา 16,469 ราย, คดีรายสำคัญ 107 คดี ตรวจยึดของกลางยาเสพติด ยาบ้า 112,893,628 เม็ด, ไอซ์ 702 กิโลกรัม, เฮโรอีน 47 กิโลกรัม, ฝิ่น 141 กิโลกรัม, เคตามีน 126 กิโลกรัม

 

ทั้งนี้ขอความร่วมมือประชาชนเพื่อร่วมกันสอดส่องดูแลบุตรหลาน บุคคลใกล้ชิด หรือบุคคลที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชน โดยสามารถแจ้งข้อมูลผ่านสายด่วน ยาเสพติด 1599, สายด่วน 191

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews