แรงงานเขมร ทะลักชายแดน สระแก้ว ต้องการกลับภูมิลำเนา กว่า 200 คน วันนี้ยังพบผู้ป่วยรายใหม่ 382 ราย เฉพาะโรงเกลือ 301 ราย
นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เรียกประชุมด่วน สั่งนายอำเภอ 4 อำเภอ ที่มีเขตติดต่อประเทศกัมพูชา จัดเตรียมพื้นที่พักคอย สำหรับแรงงานชาวกัมพูชา ที่ต้องการเดินทางกลับภูมิลำเนา ล่าสุด มีแรงงานกัมพูชาหลบหนีจากแคมป์คนงาน ทยอยไปรอข้ามแดนที่อำเภอตาพระยา และอำเภออรัญประเทศ มากกว่า 200 คน
ขณะที่ทางจังหวัด ให้ใช้พื้นที่ นอแมนแลนด์ เป็นจุดพักคอยพร้อมทั้งสนับสนุนในเรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัย ระบบสาธารณสุข และอุปกรณ์ประกอบอาหาร แรงงานชาวกัมพูชากว่า 200 คน
กลุ่มนี้ เป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นหลังจาก ศบค.กลาง มีคำสั่งเพิ่มเติม ในการขยายเวลาล็อกดาวน์ออกไปอีก 14 วัน เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันนี้ 3 ส.ค.64 นอกจากการขยายเวลาล็อกดาวน์แล้ว
ในที่ประชุม ศบค. ยังเห็นชอบให้ยกระดับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือ พื้นที่สีแดงเข้ม จากเดิมที่ประกาศไปแล้ว 13 จังหวัด ให้เพิ่มอีก 16 จังหวัด รวมเป็นทั้งหมด 29 จังหวัด เพื่อสกัดกั้นการแพร่กระจายเชื้อ หลังจำนวนผู้ติดเชื้อในภาพรวมยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยผลสรุปในที่ประชุม เบื้องต้น ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เน้นย้ำให้นายอำเภอ ทั้ง 4 อำเภอติดกับชายแดนกัมพูชา ตั้งแต่อำเภอตาพระยา โคกสูง อรัญประเทศ และอำเภอคลองหาด ให้เร่งจัดเตรียมพื้นที่ไว้รองรับแรงงานชาวกัมพูชา อำเภอละ 1 จุด ส่วนแรงงานชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดสระแก้ว ต้องการเดินทางกลับไปยังประเทศกัมพูชา ขณะนี้มีอยู่ทั้งหมด 226 คน แบ่งเป็นที่อำเภอตาพระยา 200 คน และอำเภออรัญประเทศ 26 คน
โดยชาวกัมพูชา ทั้ง 200 คน ที่อำเภอตาพระยา เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ประสานงานร่วมกับฝ่ายกัมพูชา เบื้องต้นจะให้ใช้พื้นที่ นอแมนแลนด์ หรือ พื้นที่พิพาท(ยังไม่มีการชี้แนวเขตเป็นของไทยหรือกัมพูชา) เป็นจุดพักคอย โดยฝ่ายไทยจะดูแลในเรื่องความปลอดภัย ระบบสาธารณสุข และอำนวยความสะดวกในเรื่องภาชนะปรุงอาหาร
ส่วนฝ่ายกัมพูชาจะดูแลในเรื่อง ข้าวสารอาหารแห้ง และอาหารสดที่จะใช้ปรุงอาหาร รวมถึงหลังคาและฉากกั้น ที่ใช้บังแดดบังฝน เช่นเดียวกับชาวกัมพูชา 26 คนในอำเภออรัญประเทศ ได้กำหนดจุดพักคอยเอาไว้ ที่บ้านป้ายเขียว ตำบลทับพริก รอยต่ออำเภออรัญประเทศ กับคลองหาด ไปจนถึงวันที่ 12 สิงหาคม จนกว่ารัฐบาลกัมพูชา จะมีคำสั่งเพิ่มเติม
จากนั้น จังหวัดสระแก้ว จะต้องประชุมผ่านระบบคอนเฟอเรนซ์ รายงานไปยังศูนย์สั่งการชายแดน ที่มี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นผู้อำนวยการศูนย์ในวันที่ 6 สิงหาคมนี้ เพื่อกำหนดมาตรการ เตรียมรองรับชาวกัมพูชา ที่จะลักลอบเดินทางเข้ามาในจังหวัดสระแก้วเพิ่มขึ้น หลัง ศบค. ได้ขยายเวลาล็อกดาวน์ เพิ่มอีก 14 วัน รวมถึงเพิ่มกลุ่มจังหวัดสีแดงเข้ม โดยข้อมูลฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ ระบุว่า อาจมีแรงงานชาวกัมพูชา อีกจำนวนมาก ทะลักเข้ามาในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว เพิ่มเติมอีก
สำหรับสถานการณ์โรค COVID-19 จังหวัดสระแก้ว วันนี้ที่ 3 สิงหาคม 2564 จังหวัดสระแก้ว ยังพบผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ 382 ราย (ติดเชื้อในจังหวัด 331 ราย จากจังหวัดอื่น 51 ราย) ติดเชื้อจากต่างประเทศ 2 ราย เสียชีวิต 1 ราย
เฉพาะติดเชื้อในจังหวัด 331 ราย ที่อำเภออรัญประเทศ 318 ราย (เฉพาะชาวกัมพูชาใน 301 ราย) อำเภอเมืองสระแก้ว 6 ราย อำเภอวังน้ำเย็น 3 ราย อำเภอโคกสูง 3 ราย อำเภอวังสมบูรณ์ 1 ราย
ผู้เสียชีวิต 1 ราย (เป็นรายที่ 22 ของจังหวัดสระแก้ว) เพศชาย อายุ 81 ปีสัญชาติไทย ไม่ได้ประกอบอาชีพ ที่อยู่ขณะป่วย ตำบลสระแก้ว อำเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว ไม่มีโรคประจำตัว ประวัติเสี่ยงจากคนในบ้านและข้างบ้านป่วยด้วยโรค COVID-19 จึงมาตรวจ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2564 ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว
ผู้ป่วยใหม่สระแก้วสูงเป็นวันที่สอง คลัสเตอร์ตลาดโรงเกลือ พบอีก 308 ราย
จังหวัดสระแก้ว ผู้ป่วยยืนยัน 382 ราย เสียชีวิตอีก 1 ราย ส่วนใหญ่ยังเป็น คลัสเตอร์ตลาดโรงเกลือ พบทั้งชาวกัมพูชา และคนไทย ติดเชื้อเพิ่ม 308 ราย ส่วนคลัสเตอร์นักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพฯ ติดเชื้อขยายวงสู่คนในบ้าน และเพื่อนอีก 5 ราย
ส่วนพระที่ไปบิณฑบาตตลาดโรงเกลือ ติดเชื้อเพิ่มอีกราย อำเภอวังน้ำเย็น คนในครอบครัวติดจากผู้กลับมาจากตลาดสี่มุมเมือง และอำเภอโคกสูง ตำรวจ สภ.คลองลึก ไม่รู้ว่าติดเชื้อจากออกตรวจตลาดโรงเกลือ หรือภรรยา กลับจาก กทม.
นพ.ประภาส ผูกดวง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า วันนี้ (3 สิงหาคม 64) มีจำนวนผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ 382 ราย ยังคงสูงพอๆ กับเมื่อวานนี้ แยกเป็นติดเชื้อในจังหวัด 382 ราย และจากจังหวัดอื่น 51 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 2 ราย รวมทั้งสิ้น 384 ราย
มาจากระบบเฝ้าระวังในโรงพยาบาล การตรวจเชิงรุกในชุมชน มาตรการเฝ้าระวังในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงใน LQ ,คนไทยที่เดินทางมาจากประเทศเพื่อนบ้าน และคนสระแก้วที่กลับมารักษาที่บ้าน ผู้ติดเชื้อในจังหวัด 382 รายที่ อำเภออรัญประเทศ 318 ราย
เฉพาะที่ตลาดโรงเกลือ 301 ราย อำเภอเมืองสระแก้ว 6 ราย อำเภอวังน้ำเย็น 3 ราย อำเภอโคกสูง 3 ราย และอำเภอวังสมบูรณ์ 1 ราย มีผู้เสียชีวิต 1 ราย (เป็นรายที่ 22 ของจังหวัดสระแก้ว)
สำหรับข้อมูลผู้ป่วยยืนยันในวันนี้ ที่อำเภออรัญประเทศ 318 ราย เฉพาะตลาดโรงเกลือ 308 ราย เป็นชาวกัมพูชา จำนวน 301 รายและคนไทย 7 ราย ซึ่งผลการออกตรวจเชิงรุก Active case finding พื้นที่ตลาดโรงเกลือ 6 ตลาดระหว่างวันที่ 29-31 กรกฎาคม 64 ส่งตรวจไปจำนวน 2,342 ตัวอย่าง พบเชื้อ 757 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 32.32 สำหรับพื้นที่อื่นของอำเภออรัญประเทศ พบคลัสเตอร์นักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพที่ไปกินข้าวกับเพื่อนติดเชื้อแล้วนำไปแพร่ในครอบครัว 4 รายและเพื่อนชาย 47 ปีอีกรายรวมคลัสเตอร์นี้ติดเชื้อไปแล้ว 9 ราย
แล้วยังพบคนขับรถบรรทุกสินค้าเข้า-ออกอรัญประเทศ-ปอยเปตติดเชื้อจากพื้นที่เสี่ยงมา อีกรายเป็นคนขับรถบรรทุกปลา(รายที่สอง) ติดเชื้อจากเพื่อนร่วมงานที่เข้าไปรับปลาในปอยเปต ส่วนพ่อค้าขายข้าว กม.2 เป็นชาย 70 ปีติดเชื้อจากเดินทางไปซื้อของที่ตลาดเทศบาลเมืองอรัญญประเทศมาทำกับข้าว
ที่เหลืออีก 2 รายสัมผัสเชื้อจากผู้ป่วยยืนยันมา ได้แก่ พระ 43 ปี อยู่สำนักสงฆ์เทพนวนทิพย์ติดจากเพื่อนพระด้วยกันหลังไปบิณฑบาตที่ตลาดโรงเกลือมา ส่วนหญิง 42 ปี ลูกจ้างแขวงการทางสระแก้วก็ติดเชื้อจากเพื่อนร่วมงาน
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว กล่าวต่อว่า ที่อำเภอเมืองสระแก้ว 6 ราย พบสามีและลูกสัมผัสเชื้อร่วมบ้านจากหญิงขายกาแฟหน้าซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งในตัวเมืองสระแก้ว ในขณะที่คลัสเตอร์คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดสระแก้ว พบลูกชาย 3 ปีและหญิง 10 เดือนของเจ้าหน้าที่สำนักงานจังหวัดติดเชื้อจากพ่อ รวมผู้ติดเชื้อไปแล้ว 16 ราย แล้วยังพบยาย 62 ปี อยู่บ้านไม่ได้ไปไหน และตา 78 ปี อยู่ตำบลศาลาลำดวนติดเชื้อโดยไม่ทราบสาเหตุ
ส่วนที่อำเภอวังน้ำเย็นผู้ป่วยยืนยัน 3 รายใน 2 ครอบครัว ติดเชื้อเพิ่มจากพ่อแม่และญาติที่กลับมาจากตลาดสี่มุมเมือง จังหวัดปทุมธานี
สำหรับ อำเภอวังสมบูรณ์ภรรยา ติดเชื้อร่วมบ้านจากสามีที่ไปจังหวัดจันทบุรีและลพบุรี ส่วนอำเภอโคกสูง ชาย 39 ปี เป็นตำรวจ สภ.คลองลึก
ติดเชื้อจาก 2 สาเหตุ ทั้งออกตรวจตลาดโรงเกลือ ซึ่งกำลังมีการระบาดของโรคทุกวัน ในขณะที่ภรรยาก็เดินทางกลับมาจากกรุงเทพฯกลับไปแล้วไปตรวจพบเชื้อ ทำให้คนในบ้านทั้ง แม่ย่า 57 ปีและลูกสาว 4 ขวบติดเชื้อไปด้วย
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า สำหรับผู้เสียชีวิตรายที่ 22 ของจังหวัดสระแก้ว เพศชายอายุ 81 ปี สัญชาติไทย ไม่ได้ประกอบอาชีพ อยู่ที่ตำบลสระแก้ว อำเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว
ไม่มีโรคประจำตัว ประวัติเสี่ยงจากคนในบ้านและข้างบ้านป่วยด้วยโรค COVID-19 จากคลัสเตอร์ร้านซ่อมรถวานิชยนต์จึงมาตรวจ ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2564
ผลพบเชื้อจึงเข้ารับการรักษา แรกรับผู้ป่วยมีอาการเหนื่อย หอบ อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง เอกซเรย์ปอดพบว่ามีปอดอักเสบ ต่อมาแพทย์ได้ใส่ท่อช่วยหายใจเมื่อ 27 กรกฎาคม จนกระทั่งผู้ป่วยเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2564 ทีมแพทย์ได้วินิจฉัยสาเหตุการเสียชีวิตมาจากปอดอักเสบ ซึ่งเป็นผลมาจากการติดเชื้อCOVID-19 ประกอบกับไตวายเฉียบพลันและภาวะช็อกจากการติดเชื้อ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
