Home
|
เศรษฐกิจ

“พาณิชย์”ลุย FTAs สร้างแต้มต่อเวทีการค้าโลก

Featured Image
กรมการค้าต่างประเทศ พร้อมยกระดับ FTAs รับปี 2566 อำนวยความสะดวกผู้ประกอบการ สร้างแต้มต่อในเวทีการค้าโลก

 

 

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 เป็นต้นไป การใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าภายใต้ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) จะมีการปรับปรุงพิกัดระบบฮาร์โมไนซ์ (HS)ใหม่ ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศเป็นหน่วยงาน มีอำนาจในการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Certificate of Origin: C/O) ภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTAs) ต่าง ๆ ของไทย ได้มีระบบการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า Form RCEP ที่พร้อมใช้งานได้ในวันที่ 1 มกราคม 2566 แล้ว โดยที่ความตกลง RCEP ถือเป็นความตกลงฉบับแรกจากความตกลง 14 ฉบับของไทยที่จะสามารถใช้ระบบใหม่ได้ส่งผลให้การจัดการเอกสารการส่งออก-นำเข้าต่าง ๆ รวมถึงการสืบค้นข้อมูลอัตราภาษีศุลกากรของผู้ประกอบการทำได้ง่ายขึ้น ช่วยลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นในการดำเนินพิธีการศุลกากรขาเข้าและขาออกได้

 

ปัจจุบันความตกลง RCEP มีผลบังคับใช้กับประเทศสมาชิกทั้งหมด 13 ประเทศ ได้แก่ บรูไน กัมพูชา สปป.ลาว สิงคโปร์ ไทย เวียดนาม ออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ มาเลเซีย และเมียนมา โดยในช่วงสามไตรมาสแรกของปี 2565 มีการสิทธิประโยชน์ทางการค้าภายใต้ความตกลง RCEP ทั้งในส่วนของการขอออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า Form RCEP และการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองของผู้ส่งออกที่ได้รับอนุญาต อยู่ที่ 742.85 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ไปยังประเทศสมาชิกทั้งหมด 8 ประเทศ

 

นอกจากนี้ ความตกลง RCEP จะมีผลบังคับใช้กับ อินโดนีเซีย เพิ่มขึ้นอีก 1 ประเทศตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2566 เป็นต้นไป ซึ่งอินโดนีเซียนับเป็นประเทศที่ 14 จากสมาชิก RCEP 15 ประเทศ ที่ความตกลง RCEP ได้มีผลบังคับใช้แล้ว คงเหลือเพียงฟิลิปปินส์ประเทศเดียวที่ยังดำเนินการตามกระบวนการภายในไม่แล้วเสร็จ จึงยังไม่สามารถใช้สิทธิพิเศษลดภาษีในการนำเข้า-ส่งออกภายใต้ความตกลง RCEP ได้

 

อย่างไรก็ตาม ในปี 2566 กรมการค้าต่างประเทศยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับ FTAs อีกหลายฉบับ เช่น ความตกลงว่าด้วยการค้าสินค้าของอาเซียน หรือ ATIGA และเจรจาเพื่อจัดทำ FTAs กับประเทศคู่ค้าใหม่ ๆ (อาเซียน-แคนาดา ไทย-สมาคมการค้าเสรียุโรป (EFTA) และไทย-ตุรกี) โดยมุ่งเน้นกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้าที่สอดคล้องกับกระบวนการผลิตของไทยและแนวปฏิบัติที่อำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการใช้สิทธิประโยชน์

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube