กรมเจรจาฯ เผย อียูเคาะข้อสรุปมาตรการปรับคาร์บอนฯ เตรียมบังคับใช้ 1 ต.ค. 2566
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการออกมาตรการปรับคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดน (Carbon Border Adjustment Mechanism: CBAM) ของสหภาพยุโรป (อียู) ว่า ล่าสุด การประชุม 3 ฝ่าย ระหว่างคณะกรรมาธิการยุโรป รัฐสภายุโรป และคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป ได้ข้อสรุปให้ขยายขอบเขตการบังคับใช้ CBAM จากเดิม 5 กลุ่มสินค้า ได้แก่ เหล็กและเหล็กกล้า อะลูมิเนียม ซีเมนต์ ปุ๋ย และไฟฟ้า ให้เพิ่มเป็น 7 กลุ่มสินค้า โดยรวมไฮโดรเจนและสินค้าปลายน้ำบางรายการ อาทิ น็อตและสกรูที่ทำจากเหล็กและเหล็กกล้า การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อม อาทิ ก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการผลิตไฟฟ้าที่ใช้ในการผลิตสินค้า ซึ่งได้ข้อสรุปในรายละเอียดสำคัญของมาตรการดังกล่าวแล้ว และจะเริ่มบังคับใช้มาตรการ CBAM ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังให้วันที่ 1 ตุลาคม 2566 ถึง 31 ธันวาคม 2568 (3 ปีแรก) เป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน ซึ่งผู้นำเข้าสินค้า 7 กลุ่ม มีหน้าที่รายงานข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของสินค้าที่ผลิต และเริ่มบังคับใช้มาตรการอย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 ซึ่งผู้นำเข้าจะต้องซื้อใบรับรอง CBAM ตามปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของสินค้านั้น โดยขั้นตอนต่อไป รัฐสภายุโรปและคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป ต้องเห็นชอบร่างกฎหมาย CBAM เป็นทางการ และคณะกรรมาธิการยุโรปต้องจัดทำกฎหมายลำดับรอง เพื่อกำหนดรายละเอียดในทางปฏิบัติก่อนที่มาตรการ CBAM จะมีผลใช้บังคับในเดือนตุลาคม 2566
กรมฯ ขอให้ผู้ประกอบการเตรียมความพร้อม โดยเฉพาะการคำนวณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิต ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่ต้องนำมารายงานอียูภายใต้มาตรการฯ และควรพิจารณาทางเลือกใหม่ในกระบวนการผลิต เพื่อให้ปล่อยคาร์บอนต่ำ นำพลังงานสะอาด และหมุนเวียนมาใช้ เพื่อลดภาระในการซื้อใบรับรอง CBAM ในอนาคต นอกจากนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย อาทิ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) กระทรวงพาณิชย์ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย อยู่ระหว่างการทำงานร่วมกันเพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ให้ผู้ประกอบการไทยต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews