รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ชี้ ไทยยังต้องเผชิญความท้าทาย 4 ด้าน จับมือเอกชนดันส่งออก เพิ่มเม็ดเงินหมุนเศรษฐกิจ
จากงานสัมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่40 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวปาฐกถาพิเศษ “Enhancing Trade Facilitation for Thailand Competitiveness : เปิดการค้าไทย มิติใหม่สู่สากล” ว่า สถานการณ์โลกและประเทศไทยเวลานี้ยังเผชิญปัญหาและสิ่งท้าทาย อย่างน้อย 4 เรื่อง คือปัญหาโควิด 19 ที่จากการติดตามสถานการณ์ยังต้องระมัดระวังเพราะการแพร่ระบาดยังไม่หมดไปและไม่มีใครสรุปได้ว่าจบลงเมื่อไหร่
ปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์ ที่เชื่อว่าจากนี้จะร้อนแรงขึ้น การเมืองจะมีการแบ่งขั้วอย่างชัดเจน บังคับให้ประเทศต่างๆต้องเลือกข้าง ระหว่างรัสเซียกับสหภาพยุโรป เป็นผลมาจากสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ทำให้เกิดวิกฤติอาหารและพลังงาน ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯและจีน ส่งผลให้เกิดปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบในการผลิตสินค้าหลายชนิด อาทิ เซมิคอนดักเตอร์ ที่มีผลต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ และคอมพิวเตอร์
รวมถึงการรวมตัวในRCEPของจีน และการสนับสนุนการรวมตัวในอินโด-แปซิฟิกของสหรัฐฯ ซึ่งจะทวีความสำคัญขึ้น เป็นโจทก์ให้ประเทศไทยต้องตัดสินใจ ซึ่งเวลานี้ประเทศไทยยังอยู่ทั้ง 2 วง โดย RCEP ตนเคยเป็นประธานในที่ประชุมจนประสบความสำเร็จ และวงของสหรัฐฯ ในอินโด-แปซิฟิก ล่าสุดไทยประกาศเข้าร่วม
สะท้อนถึงความต้องการพันธมิตรใหม่เพิ่มเติม และในอนาคตยังมีซาอุดิอาระเบีย ที่จะเป็นตลาดใหญ่ของไทย ทั้งการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยว โดยการหารือร่วมกันที่ผ่านมาทั้ง 2 ประเทศสามารถเป็นประตูการค้าระหว่างกันได้
ปัญหาการกีดกันทางการค้า จะมีรูปแบบใหม่เข้ามามากขึ้น ที่ไม่ใช่มาตรการภาษี ภาครัฐและภาคเอกชนต้องเตรียมรับมือ ซึ่งในการประชุมเอเปคไทยมีสัญญาณที่ดีหลายเรื่อง เช่น การยอมรับการขับเคลื่อน BCG Model การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับเอสเอ็มอีและไมโครเอสเอ็มอี และการให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจแบบยั่งยืน การใช้มาตรการคาร์บอนต่ำของการผลิตสินค้า
และสุดท้ายคือปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ที่ในปีนี้ IMF ประเมินว่าเศรษฐกิจโลกในปีนี้จะขยายตัวร้อยละ 3.2 และปีหน้าจะเหลือเพียงร้อยละ 2.7 อาจกระทบกับตัวเลขทั้งการค้าและลงทุน จำเป็นที่ภาครัฐและภาคเอกชนจะต้องร่วมมือกันในการรับมือแก้ไขปัญหาดังกล่าว
แต่หลักการของตนนั้น หากปัญหาที่ไม่สามารถแก้ได้ ก็ต้องยอมรับและรอให้สถานการณ์คลี่คลาย เช่น สงครามระหว่างประเทศ แต่สำหรับปัจจัยที่สามารถควบคุมได้ จะต้องเร่งผลักดันให้เต็มที่ โดยเฉพาะการส่งออกได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศและทุกหน่วยงานของกระทรวงพาณิชย์ เร่งหารือกับภาคเอกชนเพราะมั่นใจว่าการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด จะทำให้ประเทศไทยสามารถรับมือกับปัญหาและความท้าทายทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นได้ ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ทำให้ตัวเลขการส่งออกสามารถเติบโต และสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนเศรษฐกิจ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
