fbpx
Home
|
เศรษฐกิจ

พณ.ติดตามราคาผักหลังน้ำลดพบหลายชนิดถูกลง

Featured Image
พาณิชย์ติดตามสถานการณ์ผักหลังน้ำลด พบราคาผักหลายชนิดปรับตัวลดลงกลับสู่ภาวะปกติแล้ว

 

 

นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากช่วงที่ก่อนหน้านี้มีฝนตก น้ำท่วมขังในพื้นที่แหล่งผลิตผักหลายๆจังหวัด โดยเฉพาะในภาคกลาง ซึ่งกรมการค้าภายในได้ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน โดยเฉพาะสินค้าผัก และขณะนี้หลายพื้นที่น้ำลดลงเข้าสู่ภาวะปกติ วันนี้ (1 พฤศจิกายน 2565) จึงลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ผัก ณ ตลาดสี่มุมเมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นตลาดขายส่งผักขนาดใหญ่

 

พบว่า สินค้าผักส่วนใหญ่ที่ก่อนหน้านี้ปรับตัวสูงขึ้น ราคาได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ และหลายตัวราคาปรับลดลง เนื่องจากผลผลิตในช่วงฤดูหนาวมีการเจริญเติบโตดี ส่งให้มีผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น เช่น ขึ้นฉ่าย เดิมราคา 100-120 บาท ลดลงเหลือ 30-40 บาทต่อกก. ผักชีเดิมราคา 100-150 บาทลดลงเหลือ 50-60 บาทต่อกก. ถั่วฝักยาว เดิมราคา 60-70 บาท ลดลงเหลือ 45-50 บาทต่อกก. ผักกาดหอม เดิมราคา 80-100 บาท ลดลงเหลือ 30-35 บาทต่อกก. เป็นต้น และมีปริมาณเพียงพอกับความต้องการของประชาชน

 

 

รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตาม กรมฯจะติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิดต่อไป โดยมีเจ้าหน้าที่กรมการค้าภายใน และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดออกตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูแลให้ราคาขายปลีกสอดคล้องกับราคาต้นทุน และป้องปราบมิให้มีการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคากระทบต่อผู้บริโภค ทั้งนี้ขอเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการต้องปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน และไม่ฉวยโอกาสขึ้นราคาเกินสมควร จะมีโทษตามมาตรา 29 แห่งพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ

 

ซึ่งมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ และหากไม่ปิดป้ายแสดงราคาการจำหน่ายสินค้า มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท หากประชาชนผู้บริโภคพบเห็นการจำหน่ายสินค้าที่ไม่เป็นธรรม หรือการขึ้นราคาโดยไม่มีเหตุสมควร ขอให้แจ้งที่สายด่วน กรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube