fbpx
Home
|
เศรษฐกิจ

พาณิชย์ชี้เป้าส่งออก “อาหารมังสวิรัติ” เจาะตลาดไต้หวัน

Featured Image
DITP ชี้เป้าส่งออก “อาหารมังสวิรัติ” เจาะตลาดไต้หวัน เป็นโอกาสของผู้ส่งออกไทยใช้ความได้เปรียบด้านความเชี่ยวชาญอาหาร ผลิตและส่งออกป้อนตลาด

 

 

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ล่าสุดได้รับรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมะนิลา ถึงผลการสำรวจตลาดอาหารมังสวิรัติในไต้หวัน พบว่าเป็นตลาดที่น่าสนใจ มีโอกาสเติบโตสูง เพราะผู้บริโภคในไต้หวันมีการรับประทานอาหารมังสวิรัติเป็นประจำคิดเป็นสัดส่วนประมาณ ร้อยละ 10 ของจำนวนประชากรทั้งหมด ซึ่งมีเหตุผล เพราะต้องการรักษ์โลก ต่างจากอดีตที่เป็นความเชื่อทางศาสนาและสุขภาพ จึงเป็นสินค้าที่ไทยมีโอกาสในการขยายตลาดส่งออกเข้าสู่ไต้หวันได้เพิ่มขึ้น

 

ทั้งนี้ ปัจจุบัน Plant-Based แบรนด์สินค้าเนื้อสัตว์จากพืชของไต้หวัน ซึ่งประสบความสำเร็จในการทำตลาดสหรัฐฯ จนสามารถเข้าวางขายสินค้าในเชนซุปเปอร์มาร์เก็ตชื่อดังอย่าง ALDI ได้สำเร็จ และได้หันมาจับมือกับคาร์ฟู ไฮเปอร์มาร์เก็ตยักษ์ใหญ่ในไต้หวัน ผลักสินค้าเนื้อสัตว์จากพืชแบบ Ready-to-cook คือ กะเพราหมู เนื้อย่างเกาหลี ไส้กรอกแบบยุโรป และลูกชิ้นแบบยุโรป เข้าสู่ตลาด อีกทั้งยังเตรียมที่จะวางตลาดสินค้าเนื้อสัตว์จากพืชรสต้มยำกุ้ง แกงเขียวหวาน ไก่ทอดตะไคร้ราดพริก ซึ่งต่างก็เป็นอาหารไทยที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในตลาดไต้หวัน

 

 

ขณะเดียวกัน Plant-Based ได้พัฒนาอาหารปรุงสำเร็จโดยใช้เนื้อสัตว์จากพืชแบบ Ready-to-cook รวม 9 เมนู จากเดิมที่บริษัทพัฒนาสินค้าจากผักเป็นหลัก เพื่อตอบสนองความต้องการบริโภคอาหารเจของผู้นับถือศาสนาพุทธนิกายมหายานและกลุ่มลัทธิอีก้วนเต้า แต่เนื่องจากรสชาติของอาหารจากผักส่วนใหญ่จะค่อนข้างจืดและไม่มีความหลากหลายทางรสชาติ ทำให้ยังไม่เป็นที่ยอมรับของตลาดส่วนใหญ่ บริษัทจึงพัฒนาสินค้าจนทำให้ได้เนื้อสัตว์จากพืชที่มีรสชาติอันหลากหลาย และประสบความสำเร็จในการรุกเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ ผ่านซุปเปอร์มาร์เก็ต ALDI เมื่อสองปีก่อน และด้วยความที่รสชาติคล้ายกับอาหารที่ไม่ใช่อาหารเจมากจนแยก ไม่ออก ทำให้สามารถสร้างยอดขายได้สูงถึงเกือบ 20,000 กิโลกรัม ในช่วงที่แรกที่เข้าสู่ตลาด

 

อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลก ทำให้ค่าขนส่งเพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก ทำให้บริษัทตัดสินใจชะลอการรับคำสั่งซื้อจากต่างประเทศและหันมารุกตลาดในประเทศแทน และหันมาร่วมมือกับคาร์ฟูที่ถือเป็นไฮเปอร์มาร์เก็ตยักษ์ใหญ่ที่มีสาขาอยู่มากมายทั่วไต้หวัน ผลิตเมนูอาหาร Ready-to-cook โดยบริษัทได้อาศัยกระแสความนิยมอาหารไทยในตลาดไต้หวันผลิตเมนูอาหารไทยเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และจากกระแสความต้องการบริโภคอาหารมังสวิรัติ จนทำให้ผู้ประกอบการในไต้หวันหันมาบุกเบิกตลาดสินค้ามังสวิรัติรสชาติไทยออกมาวางขายมากขึ้น โดยเฉพาะเมนูที่มีชื่อเสียง เช่น กะเพราหมู ต้มยำกุ้ง แกงเขียวหวาน จึงถือเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่จะใช้ความได้เปรียบในด้านความเชี่ยวชาญอาหารไทย พัฒนาสินค้าอาหารไทยมังสวิรัติมาวางขาย เพื่อตอบรับความต้องการอาหารมังสวิรัติในตลาดไต้หวันต่อไป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube