fbpx
Home
|
เศรษฐกิจ

รบ.มั่นใจตั้งเป้าลดคาร์บอนเป็นศูนย์ในปี 2050

Featured Image
รัฐบาลมั่นใจเดินมาถูกทาง เป้าหมายลดคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2050 ทำได้ และยืนยันความน่าเชื่อถือทางการเงินของไทยยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ

 

ในงานสัมมนา “GO GREEN 2022 ขับเคลื่อนธุรกิจสีเขียว” นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ปาฐกถาพิเศษ “Kick Off ธุรกิจสีเขียว” ว่า ประเทศไทยเดินมาถูกทางแล้วในการประกาศเจตนารมณ์ในการประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 26 (COP26) ที่เมืองกลาสโกว์ โดยเป้าหมายมุ่งบรรลุการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี ค.ศ. 2050 หรือและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net-zero GHG emission) ภายในปี ค.ศ. 2065 จากปัจจุบันที่ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูง จำนวน 350 ล้านตันต่อปี โดย 250 ล้านตัน อยู่ในภาคครัวเรือน,ภาคขนส่ง และอีก 100 ล้านตัน อยู่ในภาคการผลิตกระแสไฟฟ้า โดยในแต่ละส่วนรัฐบาลมีแผนที่จะเดินหน้าในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ด้วยการเปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียน พลังงานสะอาด รถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงการปลูกป่าทดแทน ซึ่งจะต้องมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยในแต่ละแผนมีการกำหนดสัดส่วนและการใช้พลังงานทดแทนอย่างมีนัยสำคัญต่อการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของไทย

ซึ่งมั่นใจว่าประเทศไทยจะสามารถบรรลุตามเป้าหมายที่ได้มีการประกาศไว้ และเมื่อทำได้ประเทศไทยจากการเป็นประเทศผู้ก่อก๊าซเรือนกระจกจะเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลง และจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นเรียกการลงทุนในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตเข้ามายังประเทศได้มากขึ้นที่ในเวลานี้มองว่า โอกาสของประเทศไทยกำลังเปิดกว้าง ในอุตสาหกรรมที่มีการพัฒนารองรับการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า สถานีประจุไฟฟ้า สมาร์ตอิเล็กทรอนิกส์ การลงทุนโซลาร์เซลล์ ซึ่งในปี 2564 มีการขอรับส่งเสริมการลงทุนมากกว่าในช่วงก่อนเกิดโควิด-19แล้ว และในอนาคตเมื่อการลงทุนพัฒนาพลังงานหมุนเวียนเกิดขึ้นอย่างมั่นคงจะสามารถทำให้ประเทศไทยรับมือกับผลกระทบของวิกฤตพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากเกิดกรณีความไม่แน่นอนของพลังงานโลกอย่างเช่นในปัจจุบัน ซึ่งรัฐบาลพยายามหาทางออกให้ดีที่สุดเพื่อลดผลกระทบให้กับประชาชนในประเทศ และขอยืนยันว่าความน่าเชื่อถือทางการเงินของประเทศไทยยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ และวินัยทางการเงินยังคงเข้มแข็งเหมือนเดิม

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube