fbpx
Home
|
เศรษฐกิจ

เจ้าท่าเร่งกู้เรือป.อันดามัน2อับปางกลางทะเลชุมพร

Featured Image
กรมเจ้าท่าเร่งกู้เรือ ป.อันดามัน 2 อับปางกลางทะเล จ.ชุมพร ตามข้อสั่งการนายกฯ

 

 

จากเหตุการณ์เรือ ป.อันดามัน 2 ทะเบียนเรือ 449201184 ขนาด 325 ตันกรอสประเภทการใช้บรรทุกน้ำมันเพื่อการประมง (น้ำมันดีเซลเป็นน้ำมันเบาสามารถระเหยและสลายตัวได้เร็ว) เจ้าของเรือชื่อ บริษัท ไทยแหลมทองค้าน้ำมันประมงจำกัดอับปางลงกลางอ่าวไทยเมื่อวันที่22 มกราคม2565 ที่ผ่านมา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ติดตามสถานการณ์และการดำเนินการกู้เรือป.อันดามัน 2 อย่างต่อเนื่องและกระทรวงคมนาคม โดยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ นาย อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการให้ กรมเจ้าท่า กำกับ ควบคุม การปฏิบัติการกู้เรือ ป.อันดามัน 2 ให้เกิดความปลอดภัย และเกิดผลกระทบกับประชาชน ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมทางทะเล ให้น้อยที่สุด

 

 

 

 

 

นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านปลอดภัย กล่าวว่า กรมเจ้าท่า มีหน้าที่กำกับดูแลด้านความปลอดภัยรวมถึงด้านสิ่งแวดล้อมทางทะเลได้เร่งดำเนินการตามข้อสั่งการของกระทรวงคมนาคม โดยได้เร่งรัด และออกคำสั่งให้เจ้าของเรือเข้าสำรวจตัวเรือ พร้อมกู้สินค้าและตัวเรือโดยด่วน ทั้งนี้ การกู้เรือทางบริษัทฯ ได้ทำการจ้างผู้เชี่ยวชาญเข้าดำเนินการภายใต้ความปลอดภัยและลดผล กระทบทางด้านแวดล้อมในทะเลให้น้อยที่สุด โดยกรมเจ้าท่า ได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อปฏิบัติการกู้เรือและขจัดมลพิษน้ำมัน เพื่อประเมินสถานการณ์ วางแผนการกู้เรือ และป้องกันผลกระทบสิ่งแวดล้อม กำหนดยุทธวิธีป้องกันและ ขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน

 

 

 

 

 

กรมเจ้าท่า โดยสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาชุมพร ได้ออกประกาศแจ้งเตือนให้ผู้ควบคุมเรือ เจ้าของเรือ หรือผู้ประกอบกิจการเดินเรือ ระมัดระวังในการเดินเรือ บริเวณอ่าวไทย จังหวัดชุมพร ละติจูด 10 องศา 36.06 ลิปดาเหนือลองจิจูด 99 องศา 38.35 ลิปดาตะวันออกและออกคำสั่งห้ามใช้เรือหากฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และออกคำสั่งให้เจ้าของเรือลำดังกล่าวเร่งดำเนินการกู้เรือพร้อมจัดหาทุ่นกักเก็บน้ำมัน(Boom) และน้ำยาขจัดคราบน้ำมัน (Dispersant) เพื่อใช้ในการปฏิบัติภารกิจดังกล่าว ตามมาตรการและแผนการดำเนินการป้องกันเหตุ ซึ่งอาจมีผลกระทบ ต่อสิ่งมีชีวิต สิ่งแวดล้อม หรือเป็นอันตรายต่อการเดินเรือ พร้อมบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองทัพเรือ จังหวัดชุมพร กรมควบคุมมลพิษ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ติดตามเฝ้าระวังคราบน้ำมัน โดยได้รับการสนับสนุนจากกองทัพเรือ ส่งยานสำรวจใต้น้ำ พบว่าสภาพตัวเรือไม่ได้รับผลกระทบต่อแรงดันใต้น้ำในส่วนของคราบน้ำมันประเมินจากภาพถ่ายของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) GISTDA การบินสำรวจโดยอากาศยานของกองทัพเรือ และการตรวจการณ์ทางทะเลด้วยเรือหลวงสงขลาและเรือหลวงบางระจัน ของกองทัพเรือ สำรวจบริเวณจุดพื้นที่เรืออับปางพบเพียงคราบน้ำมันเป็นฟิล์มบาง ๆ สามารถระเหยและสลายตัวได้เอง

 

 

สำหรับแผนการกู้เรือ บริษัท พี.เค.มารีนฯได้นำเรือบาสเครนพีเคมารีน 101 และเรือลากจูง พีเคมารีน11ติดตั้งอุปกรณ์และเตรียมความพร้อมตามแผนการกู้เรือโดยให้นักประดาน้ำสำรวจ ตรวจสอบตัวเรือ อุปกรณ์ และประเมินสถานการณ์ ซึ่งจากการสำรวจ พบว่าเรืออยู่ในลักษณะนอนตะแคงข้างกราบขวา กราบซ้ายตั้งขึ้น ซึ่งต้องนำเรือเครนเข้ายึดติดกับตัวเรือที่จม เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัว จากนั้นทำการเช็ก ฝาปิดวาล์ว อุดรอยรั่วของถังทุกจุด และทำการติดตั้งอุปกรณ์เพื่อทำการดูดน้ำมัน รวมถึงช่องระบายอากาศและจะเริ่มทำการดูดน้ำมันทีละถัง โดยเตรียมอุปกรณ์ เพื่อป้องกันเหตุฉุกเฉิน ได้แก่ ทุ่นกักเก็บน้ำมัน (Boom) น้ำยาขจัดคราบ (Dispersant )

 

 

ปัจจุบัน ได้ทำการสูบน้ำมันขึ้นจากเรือ ป.อันดามัน 2 เรียบร้อยแล้วรวมทั้งสิ้นจำนวน 4 ถังใหญ่โดยแบ่งเป็นถังย่อยดังนี้กราบซ้ายจำนวน 4 ถังกราบขวาจำนวน 4 ถังและได้ทำการสูบน้ำมันใส่เรือวีนัส 24 ทั้งหมดจำนวน 3 ถัง ได้ปริมาณน้ำมันรวมทั้งหมดโดยประมาณ 155,215 ลิตร บริษัทฯ สามารถควบคุมการกู้น้ำมันได้ตามแผนฯ ซึ่งไม่พบคราบน้ำมันในจุดที่เรือจม โดยได้วางแผนเพื่อดำเนินการกู้ตัวเรือในลำดับต่อไป จากการที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาชุมพร ได้ออกคำสั่งในการกู้เรือภายใน 15 วันตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม 2565 แต่ด้วยพื้นที่จุดที่เรือจมมีความลึกน้ำประมาณ 48 เมตร ประกอบกับขณะนี้สภาพอากาศไม่ปลอดภัยต่อการปฏิบัติภารกิจ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยในการดำเนินการตามแผนฯ บริษัทจึงได้ขอขยายระยะเวลาในการกู้เรือ โดยจะดำเนินการตามแผนการกู้เรือ หลังจากสภาพอากาศและคลื่นลมมีความปลอดภัย และเหมาะสมต่อการปฏิบัติงานโดยเร็วที่สุด พร้อมกันนี้ ได้สั่งการให้เรือตรวจการณ์เจ้าท่า 1302 และเรือตรวจการณ์ตำรวจน้ำพร้อมเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในกรณีฉุกเฉินตามแผนการกู้เรือ ทั้งนี้ ในพื้นที่ไม่พบคราบน้ำมันพื้นที่จุดที่เรือจม และไม่ได้รับรายงานว่าพบคราบน้ำมันบริเวณชายหาด หรือชายฝั่งใกล้พื้นที่จุดที่เรือจมแต่อย่างใด

 

 

รองอธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวเพิ่มเติมว่าการปฏิบัติภารกิจดังกล่าวได้มีดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอนรวมถึงการเตรียมตอบโต้ภาวะฉุกเฉินจากสถานการณ์ต่างๆซึ่งได้มีการฝึกร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆอยู่อย่างสม่ำเสมอ ด้วยเล็งเห็นถึงความสำคัญในการรักษาความปลอดภัยทางทะเล รวมถึงการดูแลป้องกันรักษาสภาพแวดล้อม ทางทะเล จากคราบน้ำมัน ไม่ให้กระทบกับสิ่งมีชีวิตใต้น้ำและประชาชน ซึ่งภารกิจการกู้เรือ ป.อันดามัน 2 เป็นการบูรณาการกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ภายใต้การกำกับ ดูแลของกรมเจ้าท่า ในฐานะหน่วยงานที่กำกับ ดูแล เกี่ยวกับความปลอดภัยในการเดินเรือ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลและนโยบายของรัฐบาล และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นว่าหน่วยงานภาครัฐสามารถเข้าดำเนินการจัดการแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนอีกด้วย

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube