fbpx
Home
|
เศรษฐกิจ

แบงก์ในห้างพื้นที่สีแดงเข้ม29จว.กลับมาเปิดให้บริการ18ส.ค.

Featured Image
สาขาแบงก์ในห้างพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด กลับมาเปิดให้บริการ ย้ำรักษาระยะห่างสวมหน้ากาก เพื่อป้องกันความเสี่ยง

สมาคมธนาคารไทย ขานรับมาตรการผ่อนคลายของ ศบค. เปิดให้ธุรกิจธนาคารในห้างสรรพสินค้าในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด พิจารณาการกลับมาดำเนินการได้ ย้ำรักษาระยะห่างสวมหน้ากากอนามัยเมื่อเข้าไปใช้บริการ
เพื่อป้องกันความเสี่ยงและลดการแพร่กระจายเมื่อวันจันทร์ที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. มีมติปรับมาตรการจำหน่ายสินค้าจำเป็น/กิจการจำเป็น ในห้างสรรพสินค้า ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด โดยอนุญาตให้ธนาคารสถาบันการเงินที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ สามารถเปิดให้บริการได้ มีผลวันที่ 18 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป

โดยพิจารณาข้อปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค 26 ข้อ ของสมาคมศูนย์การค้าไทย สมาคมธนาคารไทยได้ประสานกับธนาคารสมาชิกเพื่อเตรียมพร้อมในการให้บริการของสาขา โดยคำนึงถึงความปลอดภัยทั้งของลูกค้าที่มาใช้บริการและพนักงานที่ปฏิบัติงาน ภายใต้การบริหารจัดการภายในสาขาและมาตรการ

ด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด จำกัดจำนวนลูกค้าและช่องให้บริการเพื่อลดความแออัด อย่างไรก็ตาม ธนาคารสมาชิกแต่ละธนาคารจะพิจารณาการเปิดสาขาตามความเหมาะสม และความเสี่ยงของแต่ละธนาคารรวมถึงประกาศของเจ้าของพื้นที่และการประกาศของจังหวัด โดยมีแนวทางในการเปิดให้บริการ ดังนี้
1. สาขาในห้างสรรพสินค้า สาขาในศูนย์การค้า และสาขาในคอมมูนิตี้มอลล์ ในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด
จะพิจารณากลับมาเปิดให้บริการ โดยให้บริการไม่เกิน 17.00 น.
2. สาขาในห้างสรรพสินค้า สาขาในศูนย์การค้า และสาขาในคอมมูนิตี้มอลล์ ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดนอกเขตพื้นที่
สีแดงเข้ม หรือพื้นที่ควบคุมอื่นๆ ยังคงเปิดให้บริการ แต่ไม่เกิน 17.00 น.
3. สาขาทั่วไปที่เป็นสาขา Stand Alone สามารถเปิดให้บริการตามปกติ 5 วัน หรือ 7 วันทำการ ขึ้นกับการพิจารณาของแต่ละธนาคาร แต่จะเปิดให้บริการไม่เกิน 15.30 น.
4. สาขาใน 3 จังหวัดภาคใต้ ประกอบด้วย ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เปิดให้บริการไม่เกิน 15.00 น

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube