fbpx
Home
|
เศรษฐกิจ

ผู้ว่าธปท.ไม่กังวลคลังกู้ดันหนี้อาจแตะ70%

Featured Image
ผู้ว่าฯธนาคารแห่งประเทศไทย ชี้ จีดีพี ไตรมาส 2 ดีกว่าที่คาด ยังคงเป้าทั้งปีโตร้อยละ 0.7 ไม่กังวลคลังกู้กระตุ้นเศรษฐกิจ แม้หนี้อาจแตะ 70%

 

นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เปิดเผยว่า สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 คาดว่าอาจมีความยืดเยื้อ และยอมรับว่าปัญหาเศรษฐกิจในครั้งนี้แก้ยากกว่า วิกฤตต้มยำกุ้งในปี 2540 เนื่องจากมีผลกระทบเป็นวงกว้างและเกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งการกู้เงินของภาคการคลังที่เป็นสิ่งที่จำเป็นในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านมาตรการต่างๆ ดังนั้นหากจะมีการกู้เงินของรัฐบาลจนทำให้มีหนี้สาธารณะขยับขึ้นไปที่ระดับร้อยละ 70 ต่อจีดีพี ก็ไม่น่ากังวล เพราะเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เศรษฐกิจทรุดตัวไปมากกว่านี้ แม้จะมีการกู้ที่สูงในระดับดังกล่าว แต่สภาพคล่องในระบบยังมีเพียงพอรองรับได้ และไม่กระทบกับเสถียรภาพของประเทศ แต่ภาคการคลังต้องมีแผนระยะยาวรองรับเพื่อดูแลหนี้ที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม แม้ตัวเลขเศรษฐกิจภายในไตรมาสที่ 2 ขยายตัวที่ระดับร้อยละ 7.5 แต่ทางธนาคารแห่งประเทศไทยยังคงเป้าอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจปีนี้ไว้ตามเดิมที่ได้ประมาณการณ์ไว้ที่ร้อยละ 0.7

ผู้ว่าฯธนาคารแห่งประเทศไทย ชี้ lockdown รอบนี้ยิ่งซ้ำเติมธุรกิจและภาคครัวเรือน ขณะการส่งออกปีนี้จะกลับมาขยายตัวดี แตะ 17.7%

นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เปิดเผยว่า การ lockdown รอบนี้ยิ่งซ้ำเติมธุรกิจ และภาคครัวเรือน ส่งผลให้ฐานะการเงินมีความเปราะบางสูงขึ้น เพราะเงินออมลดลงทุกครั้งที่การระบาดกลับมา สายป่านของครัวเรือนสั้นลงเรื่อย ๆ สะท้อนจากตัวเลขเงินฝากในบัญชีที่มียอดต่ำกว่า 50,000 บาท ที่ล่าสุดในเดือนพฤษภาคม 2564 ปรับลดลงเทียบกับปีก่อนเป็นครั้งแรก โดยหดตัวที่ร้อยละ 1.6 ขณะที่เงินฝากในบัญชียอดสูงกว่า 1 ล้านบาทยังขยายตัวได้ที่ร้อยละ 6.0 ใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิด ขณะที่หนี้สินก็มีสัญญาณเพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆเพื่อชดเชยสภาพคล่องที่หายไป

อย่างไรก็ตาม ทางธนาคารแห่งประเทศไทยยังคงเร่งวางมาตรการโดยเฉพาะการหารือกับสถาบันการเงินในการปรับปรุงโครงสร้างลูกหนี้ ส่วนรายละเอียดจะเปิดเผยอีกครั้งในเร็วๆนี้

ขณะที่ ด้านการส่งออก แม้จะเติบโตได้ดีต่อเนื่องจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่ฟื้นตัวจากการได้รับวัคซีนที่เร็วให้กับประชากรได้ในสัดส่วนสูง โดยในปีนี้ มูลค่าการส่งออกคาดว่าจะเติบโตได้ถึงร้อยละ 17.7 จากปีก่อนหน้า ช่วยทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ถึงร้อยละ 6.9 แต่เมื่อหักการนำเข้าสินค้าที่ส่วนใหญ่ใช้ในการผลิตเพื่อส่งออกที่ส่งผลต่อ GDP ประมาณร้อยละ 6.4 ทำให้สุทธิแล้วช่วย GDP ได้เพียงร้อยละ 0.5 ซึ่งยังไม่สามารถชดเชยหรือเติมเต็มที่หายไปได้นอกจากนี้ การจ้างงานในภาคการส่งออกมีสัดส่วนเพียงร้อยละ 8 ของกำลังแรงงาน และที่ผ่านมายังไม่เห็นสัญญาณการจ้างงานเพิ่มขึ้น ทำให้การส่งออกสามารถพยุงเศรษฐกิจได้ไม่เต็มที่นัก

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube