“จุรินทร์”ปลดล็อกด่านชายแดนแก้ปัญหามังคุด

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปลดล็อกด่านชายแดนแก้ปัญหามังคุด สถานการณ์เริ่มคลี่คลายส่งออกได้ดีขึ้น

 

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงสถานการณ์มังคุด ขณะนี้ว่า สถานการณ์ดีขึ้นบ้างแล้ว มังคุดต้องแยกเป็น 2 ส่วน คือ มังคุด ภาคตะวันออก ที่ได้ออกไปหมดแล้ว ตั้งแต่เดือน 1-2 เดือนที่ผ่านมา ช่วงนี้คือมังคุดใต้ออกช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม ซึ่งช่วงล็อกดาวน์ ทำให้ล้งส่วนใหญ่ที่อยู่ภาคตะวันออกพาแรงงานไปคัดเกรดและรับซื้อที่ภาคใต้ไม่ได้ราคาจึงตกลง โดยได้เรียกประชุมล้งทั่วประเทศและประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีและตลาดปลายทางที่มีมังคุดเยอะ เช่น นครศรีธรรมราช ชุมพร รวมทั้งผู้ส่งออกประชุมพร้อมกันกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ล้งพาแรงงานเคลื่อนย้ายไปจังหวัดชุมพรจังหวัดนครศรีธรรมราชสะดวกขึ้น และทั้งสองจังหวัดก็ยินดีอำนวยความสะดวกให้ล้ง ทำให้ราคาเพิ่มจาก 3-7 บาท เป็นกิโลกรัมละ 13-15 บาทโดยเฉลี่ย และได้เร่งรัดขอให้ศูนย์การค้าต่างๆห้างสรรพสินค้าในพื้นที่ภาคอื่นๆรวมทั้ง กรุงเทพมหานคร ช่วยซื้อมังคุดมากระจายสินค้ารวมทั้งที่มีมาตรการเชิงรุกล่วงหน้าที่กระทรวงพาณิชย์นำโมเดิร์นเทรดทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้ากับเกษตรกรสามารถดำเนินการได้ถึง 20,000 ตัน ตอนนี้สถานการณ์คลี่คลายขึ้น ทั้งนี้พาณิชย์จังหวัด ได้ช่วยกันประสานงานรับซื้อมังคุดจากภาคใต้เปิดช่องทางระบายในจังหวัดภาคอื่นๆด้วย และตอนนี้สามารถช่วยกันสั่งซื้อผ่านไปรษณีย์ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆที่มีการขายตรงชาวสวนมังคุดจำนวนหนึ่งสามารถขอสติกเกอร์ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดหรือไปรษณีย์ต้นทางเพื่อใช้บริการกล่องส่งฟรีไปยังผู้บริโภคที่สั่งซื้อโดยตรงได้

สำหรับการส่งออก ในช่วงที่มังคุดภาคใต้ออกได้เจอปัญหาซ้ำซ้อนหลายปัญหาทั้งตลาดในประเทศ ทั้งไม่มีล้งไปรับซื้อเพราะขาดแรงงานและตลาดส่งออกที่ต้องใช้รถขนตู้คอนเทนเนอร์ผ่านสปป.ลาว-เวียดนามไปด่านจีน ช่วงเวลานั้นเกิดปัญหาที่ทางจีนติดขัดเรื่องแรงงานที่ด่านและปัญหาอื่นๆ ทำให้รถที่เข้าไปจีนต้องติดขัด ก็ได้ให้ทูตพาณิชย์และทูตเกษตรต้องแก้ปัญหาอำนวยความสะดวก ตอนนี้เริ่มคล่องตัวขึ้นแล้ว

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news