fbpx
Home
|
เศรษฐกิจ

โควิดฉุดดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุนรอวัคซีนฟื้นศก.

Featured Image
สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เผย โควิด-19 ฉุดดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน หวัง ฉีดวัคซีนช่วยสถานการณ์คลี่คลาย หนุนเศรษฐกิจฟื้น

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยถึงดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) จากผลสำรวจในเดือนกรกฎาคมปี2564 พบว่า ดัชนีฯในอีก 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 64.37 ปรับตัวลดลง 39.3% จากเกณฑ์ทรงตัวเดือนก่อนมาอยู่ในเกณฑ์ซบเซา โดยนักลงทุนคาดหวังแผนการฉีดวัคซีนเพื่อคลี่คลายสถานการณ์โควิด-19 เป็นปัจจัยหนุนมากที่สุด รองลงมาคือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศและนโยบายภาครัฐ

สำหรับปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ สถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ระลอกปัจจุบันที่รุนแรงขึ้น รองลงมาคือความขัดแย้งระหว่างประเทศ และการถดถอยของเศรษฐกิจในประเทศ ขณะที่หมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุด หมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และหมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด คือ หมวดแฟชั่น

ทั้งนี้ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2564 สถานการณ์โรคระบาด โควิด-19ในประเทศมีผู้ติดเชื้อรายใหม่และผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นมาก รวมถึงความไม่ชัดเจนของการจัดหาและกระจายฉีดวัคซีน เป็นปัจจัยหลักที่กดดันต่อการเคลื่อนไหวของ SET index และปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของเดือน หลังจากมีการออกมาตรการ ล็อกดาวน์ เพื่อควบคุมการระบาด

ส่วนค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบให้กระแสเงินลงทุนของกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศทยอยไหลออกจากตลาดหุ้นไทยกว่า 17,700 ล้านบาทในเดือนกรกฎาคม

อย่างไรก็ตาม ตลาดทุนไทยยังได้แรงหนุนจากปัจจัยภายในประเทศ เช่นการประกาศมาตรการเยียวยากลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการ ล็อกดาวน์ และมาตรการลดค่าไฟฟ้าและน้ำประปา วงเงินรวม 42,000 ล้านบาทจากรัฐบาล ส่วน ปัจจัยภายนอก ประกอบด้วย การประกาศคงดอกเบี้ยนโยบายของ FED และ ECB เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจท่ามกลางความเสี่ยงที่ยังมีอยู่สูง ส่งผลให้ SET index ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2564 ปิดที่ 1,521.92 จุด ปรับตัวลดลง 4.15% จากเดือนก่อนหน้า

 

สภาธุรกิจตลาดทุนไทย คาด เศรษฐกิจครึ่งปีหลังติดลบ 0.4% ขณะที่ทั้งปีโต 0.6 % แนะขยายเพดานหนี้สาธารณะ รับแผนกู้เพิ่มอีก 1 ล้านล้าน คาด กนง.พรุ่งนี้ คงดอกเบี้ย

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย หรือ FETCO เปิดเผยว่า FETCO ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังจะขยายตัวติดลบ 0.4% ซึ่งสะท้อนว่าเศรษฐกิจไทยมีโอกาสสูงที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอยหากมาตรการล็อกดาวน์ลากยาวตลอดเดือนสิงหาคม ส่วนทั้งปีคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตอยู่ที่ 0.6 % โดยสาเหตุหลักที่กดดันเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวประกอบด้วย การจัดหาวัคซีนที่ค่อนข้างล่าช้า มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ขาดประสิทธิภาพ รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ ที่ยังทำน้อยเกินไปและช้าเกินไป รัฐบาลควรออกมาตรการใหม่ๆเข้ามากระตุ้นเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ ขณะที่พ.ร.ก. เงินกู้ 1 ล้านล้านบาทยังเบิกจ่ายไปเพียง 80% ส่วน พ.ร.ก. เงินกู้ 5 แสนล้านบาท แทบยังไม่ได้มีการนำไปใช้ ดังนั้นรัฐบาลควรจะดึงมาเต็มลงสู่ระบบเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ ให้ขยายเพดานหนี้หนี้สาธารณะเกิน 60% ต่อ GDP ให้สูงขึ้น “ชั่วคราว” เป็น 70-75%เพื่ออำนวยความสะดวกในการออกนโยบายด้านเศรษฐกิจ และควรวางแผนกู้เงินเพิ่มเติมอีก 800,000-1,000,000 ล้านบาท เพื่อไว้รองรับการแพร่ระบาดระลอกใหม่ ที่อาจเกิดขึ้นได้ และสำหรับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่

ส่วนการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินหรือ กนง. ในวันพรุ่งนี้ คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.5%

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube