fbpx
Home
|
เศรษฐกิจ

เงินบาทสัปดาห์หน้า31.20-31.50/$-หุ้นลุ้น1,585จุด

Featured Image
กสิกรไทย มองกรอบเงินบาทสัปดาห์หน้าอยู่ที่ 31.20-31.50 บาท/ดอลลาร์ จับตาตัวเลขส่งออกเดือน เม.ย.ของไทย รวมถึงโควิด- 19 ขณะหุ้นไทยแนวรับ 1,530 และ 1,500 จุด แนวต้าน 1,570 และ 1,585 จุด

ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์หน้าระหว่างวันที่ 24-28 พ.ค.64 อยู่ที่ 31.20-31.50 บาท/ดอลลาร์ จากวันศุกร์ (21 พ.ค.) อยู่ที่ระดับ 31.36 บาท/ดอลลาร์ โดยมีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ข้อมูลการส่งออกเดือน เม.ย.ของไทย รวมถึงสถานการณ์โควิด- 19 ในประเทศ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ประกอบด้วย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ค., ยอดขายบ้านใหม่, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย, รายได้/การใช้จ่ายส่วนบุคคล และดัชนีราคา PCE/Core PCE Price Indices เดือน เม.ย., ดัชนีราคาบ้านเดือน มี.ค., ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/2564 (Preliminary) และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามตัวเลขกำไรภาคอุตสาหกรรมของจีน และสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในต่างประเทศด้วยเช่นกัน

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปรับตัวในกรอบแคบๆ โดยเงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อยช่วงต้นสัปดาห์ท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศ ซึ่งมีผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในระยะที่เหลือของปี ขณะที่ดอลลาร์ขยับแข็งค่าขึ้นหลังบันทึกการประชุมเฟดระบุว่า คณะกรรมการเฟดมีการหารือเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ และกรรมการบางท่านเสนอให้เริ่มหารือเกี่ยวกับการชะลอวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE

อย่างไรก็ดี เงินบาทฟื้นตัวแข็งค่ากลับมาได้ช่วงปลายสัปดาห์ หลังแรงซื้อสินทรัพย์เสี่ยงกระตุ้นให้มีแรงขายเงินดอลลาร์ที่เป็นสกุลเงินปลอดภัยออกมา

ขณะที่หุ้นไทยสัปดาห์หน้า บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,530 และ 1,500 จุด แนวต้านอยู่ที่ 1,570 และ 1,585 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์โควิด 19 ตลอดจนการควบคุมสถานการณ์การระบาดและการกระจายวัคซีนโควิด 19 ในประเทศและต่างประเทศ

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube