Home
|
อาชญากรรม

“บิ๊กโจ๊ก” ยื่นทวงถามเหตุผล รองปธ.ศาลปค.สูงสุดถอนตัวในคดี

Featured Image
“บิ๊กโจ๊ก” ยื่นหนังสือ ทวงถามเหตุผล รอง ปธ.ศาลปกครองสูงสุด ถอนตัวจากการพิจารณาคดี ขอคำตอบ 10 ธค. พร้อมขอให้องค์คณะ ทำคำพิพากษาเพื่อคืนความยุติธรรม

 

วันนี้ (8 ธ.ค.68) ที่ศาลปกครองสูงสุด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมา เพื่อติดตามความคืบหน้าที่เกี่ยวข้องกับคดีที่ตนยื่นฟ้อง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในกรณีที่มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนโดยมิชอบใน 2 ประเด็น

 

ประเด็นแรก คือได้ทำหนังสือสอบถามว่า ทำไมรองประธานศาลปกครองสูงสุดอาวุโสอันดับที่ 1 ถึงถอนตัวจากการพิจารณาคดีของตน ซึ่งประเด็นดังกล่าวสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ที่องค์คณะตุลาการศาลปกครองสูงสุด มีมติ 3 ต่อ 2 ตัดสินว่า คำสั่งของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาตินั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก่อนจะเกิดการแทรกแซงโดยรองประธานศาลปกครองสูงสุดรายหนึ่งที่อ้างว่า เป็นคำสั่งของประธานศาลปกครองสูงสุด เพื่อมาพลิกมติทำให้คำสั่งดังกล่าวชอบด้วยกฎหมาย ก่อนที่ในเวลาต่อมา ตนจะยื่นฟ้องประธานศาลปกครองสูงสุด และประธานแผนกฯ ตามความผิดตามมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญาต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง

 

ซึ่งภายหลัง มติขององค์คณะถูกเห็นแย้งโดยประธานแผนกฯ จึงต้องส่งเรื่องให้ประธานศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัย แต่เนื่องจากตนได้ยื่นฟ้องประธานศาลปกครองสูงสุดไปก่อนหน้านี้ ซึ่งถือว่ามีสถานะเป็นคู่ความในคดี ไม่สามารถจะพิจารณาคดีของตนได้ เลยถอนตัวไป คดีของตนจึงต้องตกไปยังรองประธานศาลปกครองสูงสุดอาวุโสอันดับ 1 ซึ่งตนก็มั่นใจว่าจะได้รับความเป็นธรรม

 

แต่ปรากฏว่าไม่นานมานี้ ตนทราบมาว่ารองประธานศาลปกครองสูงสุดอาวุโสอันดับ 1 รายนี้ถอนตัวที่จะรับพิจารณาคดีของตน จึงทำให้ตนเกิดความสงสัยว่า เพราะอะไรถึงถอนตัวหรือเกิดการกดดันภายในศาลปกครองจนนำมาสู่การถอนตัว

 

ตนเลยยื่นหนังสือถึงรองประธานศาลปกครองสูงสุดอาวุโสอันดับที่ 1 รายนี้ ให้ชี้แจ้งเหตุผลภายในวันที่ 10 ธันวาคม มิเช่นนั้นจะถือว่าปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบและจะยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในความผิดตามมาตรา 157 ต่อไป เพราะถือว่าไม่อำนวยความยุติธรรมให้แก่ตนเอง

 

ประเด็นที่สอง คือตนมายื่นขอให้ตุลาการศาลปกครองสูงสุดกว่า 60 คน ทบทวนมติการรับคดีของตนเข้าที่ประชุมใหญ่ เพราะเนื่องจากความพยายามของประธานศาลปกครองสูงสุด พร้อมพวกที่ต้องการจะแทรกแซง กดดันคดีของตน โดยใช้วิธีการที่รองประธานศาลปกครองสูงสุดอาวุโสอันดับ 1 ถอนตัว ก่อนจะลัดขั้นตอนนำคดีของตนขึ้นสู่ที่ประชุมใหญ่ เพื่อนำมาสู่การแทรกแซงและพลิกคำตัดสินให้คำสั่งให้ตนออกจากราชการ ไว้ก่อนนั้นชอบด้วยกฎหมาย ตนจึงมายื่นเพื่อให้ตุลาการศาลปกครองสูงสุดท่านอื่น ๆ ทบทวนมติดังกล่าวและไม่ให้ท่านตกเป็นเครื่องมือของคนบางกลุ่ม ซึ่งถ้าหากตุลาการทุกท่านยังฝืนที่จะรับคดีของตนไว้พิจารณา ในที่ประชุมใหญ่นั้น ตนก็เตรียมฟ้องดำเนินคดีตามมาตรา 157 กับตุลาการศาลปกครองสูงสุด ที่ลงมติในเสียงข้างมากทุกคนต่อไป

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube