“รุ้ง” ยอมรับ 3 เงื่อนไข พร้อมติดกำไล EM ขณะศาลนัดฟังคำสั่งกรณียื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวในช่วงบ่ายวันนี้
ศาลอาญานัดไต่สวนคำร้องขอปล่อยคราว นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง แกนนำกลุ่มราษฎร จำเลยในคดีชุมนุมปักหมุด หลังมารดายื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ 2 แสนบาท ไว้เมื่อวันที่ 30 เมษายน ที่ผ่านมา
โดยศาลได้เบิกตัว นางสาวปนัสยา หรือ รุ้งจำเลยที่ 5 มาไต่สวนร่วมกับพยานอีก 4 ปาก รวม 5 ปาก ซึ่ง น.ส.ปนัสยา ได้แถลงต่อศาล ว่าจะเคารพและปฏิบัติตามเงื่อนไขการขอปล่อยชั่วคราวที่ทนายความยื่นคำร้อง ประกอบด้วย 1.จะไม่กระทำการอันใดที่เป็นอันลบหลู่หรือดูหมิ่นต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ 2. ไม่เดินทางออกนอกประเทศเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาลก่อน และ3. จะเดินทางมาศาลทุกครั้งตามที่ศาลได้นัดหมาย พร้อมแต่งตั้งทนายความ ในกระบวนการพิจารณาทางคดี หลังถอนทนายความไปก่อนหน้านี้ และไม่ขัดข้องหากศาลจะให้ติดกำไลอิเล็กทรอนิกส์ (EM)
ต่อมาศาลได้เบิกตัว รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ บิดา มารดา ซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องมาไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราว โดยทั้งหมด ได้แถลงต่อศาลยืนยันว่าจำเลยมีความประพฤติเรียบร้อย และหากจำเลยได้ปล่อยชั่วคราว จะกำกับดูแลจำเลยให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขของศาลอย่างเคร่งครัด และที่ผ่านมาจำเลยไม่เคยต้องคำพิพากษาจำคุกมาก่อน
ด้านเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ทัณฑสถานหญิงกลาง แถลงต่อศาลว่าระหว่างถูกคุมขังจำเลยปฏิบัติตามระเบียบเป็นอย่างดี และทราบว่าไม่เคยทำผิดระเบียบในเรือนจำมาก่อน
หลังไต่สวนเสร็จสิ้นศาลได้อ่านรายงานกระบวนพิจารณา ว่าการนัดไต่สวนคำร้องคำร้องในวันนี้ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน จำเลยที่ 1 ซึ่งถูกส่งตัวกลับไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ และนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่ จำเลยที่ 17 ไม่ได้เบิกตัวมาศาล เนื่องจากจำเลยทั้งสองอยู่ระหว่างกักตัว เพราะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด 19 จึงให้เลื่อนการไต่สวนขอปล่อยชั่วคราวของจำเลยทั้งสองคน และให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์รายงานว่าจะนำตัวจำเลยทั้งสองคนมาไต่สวนได้เมื่อไร
ส่วนนางสาวปนัสยา จำเลยที่ 5 ศาลได้ไต่สวนพยานทั้ง 5 ปากเสร็จสิ้นแล้ว ขณะที่โจทก์ไม่คัดค้านการประกันตัว ศาลจึงนัดฟังคำสั่งคำร้องขอปล่อยชั่วคราวในช่วงบ่ายวันนี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
