fbpx
Home
|
อาชญากรรม

ทลายแก๊งคนจีนปล่อยกู้ดอกเบี้ยโหดผ่านแอปฯ

Featured Image
ตม.ทลายแก๊งมังกรจีน ปล่อยเงินกู้ผ่านแอปพลิเคชั่น เรียกดอกเบี้ยโหด สูญกว่า 30 ล้านบาท รวบ 3 ผู้ต้องหา พร้อมของกลางจำนวนมาก

พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. แถลงผลการจับกุมแก๊งเงินกู้มังกรจีน ปล่อยเงินกู้ผ่านแอปพลิเคชั่น ดอกเบี้ยโหด สืบเนื่องจากมี ประชาชนเข้าร้องเรียนที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ว่ามีการปล่อยเงินกู้ผ่านแอปพลิเคชั่น NEGU, NICE LOAN, CASH CARD และ CASH LOAN โดยเรียกดอกเบี้ยสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด

ต่อมาตำรวจสืบสวนจนทราบว่าแอปพลิเคชั่นดังกล่าวมีกลุ่มคนจีนเป็นเจ้าของ โดยว่าจ้างคนไทยทำการปล่อยสินเชื่อเงินกู้และติดตามทวงหนี้ จึงนำกำลังเข้าจับกุมได้ที่บ้านพักย่านสาธุประดิษฐ์ 41 เขตยานนาวา พบคนไทยจำนวน 30 คน รวมทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ สมุดบัญชีธนาคาร พร้อมจับกุมตัว นายเหว่ย, นายหาย และนายยู โดยทั้ง 3 คนเป็นชาวจีน นอกจากนี้ยังได้ขยายผลเข้าตรวจค้นบริษัทย่านท่าข้าม ซึ่งเป็นเครือข่ายเดียวกัน พบของกลางจำนวนหนึ่ง

 

ทลายแก๊งคนจีนปล่อยกู้ดอกเบี้ยโหดผ่านแอปฯ

 

โดย พล.ต.ท. สมพงษ์ เปิดเผยว่าจากการสอบสวน ขบวนการนี้พบนายหวัง ชาวจีน เป็นผู้สั่งการจากประเทศจีนให้นายหาย ทำหน้าที่หาบัญชีธนาคารในประเทศไทยและโทรศัพท์มือถือที่ลงทะเบียนแอปพลิเคชั่นอินเตอร์เน็ตแบงก์กิ้ง และบัตรกดเงิน ซิมการ์ด เพื่อส่งไปยังประเทศจีนและทำหน้าที่เปิดบริษัทในประเทศไทยเพื่อรับสมัครงาน

ส่วนนายเหว่ยทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลแลกเปลี่ยนเงินข้ามประเทศ ส่วนนายยู ทำหน้าที่ดูแลระบบสินเชื่อและติดตามทวงหนี้

นอกจากนี้ ตำรวจยังได้ขยายผลพบมีผู้เสียหายมากกว่า 20,000 คน โดยพบเงินหมุนเวียนในบัญชีจากผู้กู้กว่า 30 ล้านบาท ซึ่งการกู้ในแต่ละครั้ง จะถูกหักค่าธรรมเนียม 30-35% เช่น กู้ 2,000 จะได้รับเงิน 1,300 บาท ส่วนอัตราดอกเบี้ยนั้นคิดเป็นร้อยละ 1 บาทต่อวัน และคิดค่าปรับ 100 บาท หากผู้กู้ผิดชำระ

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ตำรวจจะดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 3 ราย ในฐานความผิดฐานเกี่ยวกับการประกอบกิจการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับ อนุญาต และเรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube