fbpx
Home
|
อาชญากรรม

พริตตี้สาวป่วยขาลีบ ยอมรับเคยใช้สารเสพติดจริง

Featured Image
พริตตี้สาวป่วยขาลีบ ยอมรับเคยใช้สารเสพติดจริง แต่ปฎิเสธไม่ได้ใช้ยาใน รพ.และให้เพื่อนพาหนี ด้านเพื่อนเชื่อสาเหตุป่วยเกิดจากใช้สารเสพติดมานานเป็น 10 ปี ขอให้เข้ารับการรักษา

 

 

ทีมข่าวลงพื้นที่ อยู่ภายในซอยเอกชัย 33 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง ลักษณะเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ซึ่งเป็นที่บ้านของ น.ส.ประภัสสร หรือ นิดหน่อย กรณีมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้เข้าช่วยเหลือ น.ส.ประภัสสร ปากชำนิ หรือ นิดหน่อย พริตตี้สาว อายุ 31 ปี ที่ขอความช่วยเหลือให้พาไปรักษาตัวหลังป่วยซํบผอมจนเดินไม่ได้โดยไม่ทราบสาเหตุ อีกทั้งยังไม่มีเงิน ไม่มีญาติ แต่ล่าสุด เพจโซเชียลมีเดียได้เปิดเผยแชทสนทนาระหว่างพื้นที่คนดังกล่าวกับเพื่อน ซึ่งคาดว่าอาการป่วยน่าจะเกิดจากการใช้สารเสพติดเกินขนาดขนาดมากกว่าทำให้เรื่องดังกล่าวเป็นที่สับสนของประชาชนที่ติดตามข่าวและหน่วยงานที่เข้าไปช่วยเหลือ

 

ล่าสุด น.ส.ประภัสสร ได้เปิดเผยกับทีมข่าวหลังออกจาก รพ.และรักษาตัวอยู่ภายในบ้าน โดยการตระโกนคุยผ่านรั้วประตูบ้าน ได้ยอมรับว่าที่ผ่านมาเคยมีการใช้สารเสพติดแต่ข่าวที่ออกมาว่ามีความพยายามให้เพื่อนไปส่งสารเสพติดให้ที่โรงพยาบาลและให้เพื่อนไปรับออกจากโรงพยาบาลนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยมีทีมงานของมูลนิธิปวีณาไปรับมาส่งบ้านพัก ส่วนการรักษาที่โรงพยาบาล แพทย์ยังไม่ได้บอกรายละเอียดว่าตนเองเป็นโรคอะไร รวมถึงรายละเอียดอื่นๆยังไม่ขอเปิดเผยและขอเวลาพักผ่อนภายในบ้านก่อน

 

ด้าน นางสาวเอ เพื่อนของพริตตี้คนดังกล่าวเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวผ่านทางโทรศัพท์ ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าพริตตี้คนดังกล่าวใช้สารเสพติดนั้น ตนเองคาดว่าน่าจะใช้มาเกิน 10 ปี แต่น่าจะใช้อย่างหนักในช่วง 1-2 ปีนี้ จนทำให้ร่างกายเปลี่ยนสภาพไปได้ขนาดนี้ ส่วนอาการป่วยที่อ้างว่าเพราะเป็นโรค เกี่ยวกับถุงน้ำดี นั้นตนเองคิดว่า 90% เกิดจากการใช้ยา เพราะในโซเชียลมีเดียก็ปรากฏข่าวแบบนี้เยอะมาก และเป็นเหมือนโรคคู่กับผู้ที่มีอาชีพในสายบันเทิงหรือสายปาร์ตี้ที่เมื่อใช้ยาเสพติดและเกิดภาวะแทรกซ้อน ซึ่งตนเองก็ได้คุยกับคนรู้จักหรือเพื่อนเพื่อนหลายกลุ่มที่เคยอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน และผ่านมาได้ ซึ่งมองว่าอาการป่วยนั้นคุ้น ๆ น่าจะเกิดจากสาเหตุเดียวกัน นอกจากนี้ยังมองว่าตัวพริตตี้คนดังกล่าวน่าจะรู้อยู่แล้วว่าเกิดขึ้นเพราะอะไรแต่ไม่กล้าพูดออกมามากกว่า

 

ส่วนเรื่องที่พริตตี้คนดังกล่าวขอให้เพื่อนนำยาไปส่งให้ที่โรงพยาบาลนั้น ไม่ทราบว่าคนกลุ่มใดไปรับออกจากโรงพยาบาลแต่ไม่ใช่กลุ่มเพื่อนใกล้ชิดแน่นอนเนื่องจากมีการส่งข่าวถึงกันโดยตลอด แต่ก่อนหน้านี้พริตตี้คนดังกล่าวเมื่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแล้ว ในวันเดียวกันก็ได้พยายามโทรหาเพื่อนให้นำยาไปส่งให้แต่ไม่มีใครกล้าไปหา อีกทั้งไม่ใช่คนในวงการจึงไม่รู้ว่าไปหายามาจากช่องทางใด จนกระทั่งเริ่มแชท Facebook ไปหาเพื่อนให้มารับออกจากโรงพยาบาล แต่ก็ไม่มีใครไปรับ จนล่าสุดได้มีเพื่อนไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล แต่ก็ไม่พบว่าพริตตี้คนดังกล่าวอยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว

 

ส่วนสาเหตุที่ตนออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ ที่จริงแล้วในช่วงแรกตนเองก็ไม่อยากยุ่งปล่อยให้ดำเนินการกันไป และตอนปรากฏเป็นข่าวว่ามีหน่วยงานต่างๆเข้าไปช่วยเหลือ ก็ยังคิดว่าพริตตี้คนดังกล่าวอยากหายและกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ แต่ตนเองมาติดต่อพี่ต้นอ้อหลังจากที่รู้ว่ามีการโอนเงินและไปใช้ในทางที่ผิด และคิดว่าเค้าก็จะวงเวียนอยู่ในวงจรแบบนี้ทำให้ตายไปอย่างช้าๆถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ดี จึงอยากให้คนที่โอนเงินไปช่วยเหลือหยุดโอนก่อน หากต้องการช่วยเหลือก็ให้ช่วยเหลือเป็นสิ่งของ เครื่องใช้ และอยากให้หน่วยงานที่ให้การช่วยเหลือทราบถึงประเด็นนี้จะได้ให้การรักษาอย่างถูกวิธี เช่น การบำบัดหรือให้ยา เพื่อให้มีชีวิตที่ดี

 

นางสาวเอยังขอฝากไปถึงเพื่อนว่าให้กลับมารักษาจัว เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับโอกาสแบบนี้ ยังมีอีกหลายคนที่เจ็บป่วยไม่มีเงินจะกิน หรือติดยาแต่อยากออกมาจากวงจรยาเสพติดแต่ไม่ได้รับโอกาส เมื่อเขามีโอกาสก็อยากให้คว้าไว้ ไม่มีใครไม่เคยผิดพลาด แต่เมื่อผิดพลาดแล้วก็ควรพยายามแก้ไขเชื่อว่าสังคมและเพื่อนทุกคนพร้อมจะเป็นกำลังใจ และให้โอกาส

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube