อัจฉริยะ ร้อง DSI เอาผิดน้องชายนักการเมือง ฉ. ร่วมแก๊งสวมสิทธิ์ตีนไก่ขายส่งจีน ความเสียหายหลายพันล้าน
วันนี้ (18 ธ.ค.66) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางมาร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีอาญา เฮียเก้า น้องชายอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับพวกนายทุนใหญ่ กรณีลักลอบนำเข้าสวมสิทธิ์ตีนไก่จากต่างประเทศเข้ามายังท่าเรือแหลมฉบังและท่าเรือคลองเตยโดยสำแดงเอกสารอันเป็นเท็จในการสำแดงเป็นปลาแซลมอน
มูลค่าความเสียหายหลายพันล้านบาท และสวมสิทธิ์ตีนไก่ไปยังประเทศจีนจนถูกยกเลิก สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจด้านการส่งออกอย่างร้ายแรง จึงขอให้อธิบดีดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ โดยมีนายธชิน ยศสิรสกุล เจ้าหน้าที่คดีพิเศษชำนาญการพิเศษเป็นผู้รับหนังสือแทน
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ขบวนการลักลอบนำเข้าตีนไก่สวมสิทธิ์จากต่างประเทศ โดยประเทศต้นทางเป็นประเทศบราซิลและอุรุกวัย จากนั้นเมื่อนำเข้ามาถึงท่าเรือแหลมฉบังและท่าเรือกรุงเทพ บริษัทชิปปิ้งเอกชนได้มีการสำแดงเท็จเป็นสินค้าประมงเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษี โดยสำแดงเท็จจากตีนไก่เป็นปลาแซลมอน จากนั้นนำไปเก็บไว้ที่ห้องแช่เย็นต่างๆ และสวมสิทธิ์โดยใช้ตราบริษัทชื่อดัง
ก่อนส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศจีน ซึ่งในวันนี้ตนได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานที่มีความประจักษ์ชัดเจนเหตุว่าใครบ้างที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเป็นแฟ้มจำนวน 3 แฟ้ม มีทั้งเส้นทางการเงิน รายชื่อนายทุน และผู้ที่เกี่ยวข้อง ที่ได้มอบให้กับดีเอสไอ ทั้งยังพบว่าขบวนการนี้มีการใช้บัญชีม้ามากกว่า 50 บัญชี
นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า จำนวนตีนไก่และปีกไก่ที่มีการนำเข้าตู้คอนเทเนอร์จากต่างประเทศมายังไทย ตั้งแต่ปี 2564 – ปัจจุบัน พบจำนวนหลายพันตู้ และมีการจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่รัฐตกตู้ละ 350,000 บาท มีการจ่ายให้กับ 3 หน่วยงาน คือ กรมปศุสัตว์ กรมศุลกากร และกรมประมง อย่างไรก็ตาม ตีนไก่และปีกไก่ที่ส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศจีน
ได้ถูกตีกลับเพราะทางจีนตรวจสอบพบว่าเป็นการสวมสิทธิ์ จีนสงสัยว่าโรงงานที่ส่งจัดจำหน่ายออกไปนั้นในหนึ่งวันมีการฆ่าไก่กี่ตัวและคำนวณว่าจะได้ตีนไก่กี่ขา จึงพบว่าไม่มีโรงงานตามนั้นจริง ไม่มีการฆ่าไก่จริง แต่เป็นการสวมสิทธิ์กล่าวอ้างบริษัทชื่อดัง เพราะภายในประเทศไทยจะมีบริษัทเพียงไม่กี่รายที่ได้รับสิทธิ์ให้ส่งจัดจำ
จำหน่ายตีนไก่ไปยังประเทศจีนนั้น พบว่าบริษัทบางส่วนไม่รับรู้ถึงการถูกแอบอ้างใช้สิทธิ์ แต่บางบริษัทก็รับรู้และรู้เห็น อย่างเช่นบริษัท ตะนาวศรีไก่ไทย จำกัด เพราะว่าเจ้าของได้เปอร์เซ็นต์
สำหรับกรณีของเฮียเก้าซึ่งเป็นน้องชายของนักการเมือง ฉ. นั้น นายอัจฉริยะ กล่าวว่า เฮียเก้าเป็นคนไทยสัญชาติจีน เป็นน้องชายของอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (พ่อเดียวกันแต่ต่างแม่) ถือเป็นเบอร์หนึ่งคุมกรมปศุสัตว์ ทั้งยังมีเจ้าที่ตำรวจระดับสูงยศพลตำรวจโทเป็นผู้ที่คอยช่วยอยู่เบื้องหลัง และที่ผ่านมามักจะมีนักการเมืองเข้าพบเฮียเก้ารายนี้เสมอ เพราะเฮียเก้ามีโควต้าการส่งออกตีนไก่และปีกไก่ไปจำหน่ายยังประเทศจีน
อย่างไรก็ตาม เฮียเก้าไม่เกี่ยวข้องกับตู้หมูเถื่อน 161 ตู้ที่ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ แต่จะมีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันกับขบวนการองค์กรอาชญากรรมกลุ่มใหม่ขนาดใหญ่ ที่มีตู้หมูกว่า 10,000 ตู้ ซึ่งอยู่ระหว่างรอให้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ
นายอัจฉริยะ กล่าวด้วยว่า ในการจับกุมตีนไก่เมื่อปี 2565 ในสมัยอดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เข้าไปจับกุมขบวนการสวมสิทธิ์ตีนไก่จัดส่งจำหน่ายประเทศจีน พบว่าในขั้นตอนนี้มีเจ้าหน้าที่ของดีเอสไอมีการเรียกรับเงินใต้โต๊ะ ซึ่งจริงๆแล้วจะต้องมีการรับเป็นคดีพิเศษ เพราะตู้ที่พบมีจำนวน 170 ตู้ ได้มีการอายัดไว้ที่ท่าเรือแหลมฉบังและท่าเรือคลองเตย
แต่ต่อมาไม่มีการดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น มีเพียงการแจ้งข้อกล่าวหาลหุโทษ แล้วก็ได้มีการนำ 170 ตู้ดังกล่าวออกจากท่าเรือ เเละนำตีนไก่และปีกไก่ภายในตู้คอนเทเนอร์ ไปฝากไว้ที่ห้องแช่เย็น ทำให้ตนเล็งเห็นว่าจะต้องให้เรื่องนี้ถูกรื้อสำนวนคดีอีกครั้ง โดยขอให้รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอคนปัจจุบัน รับคดีสวมสิทธิ์ตีนไก่เป็นคดีพิเศษ ซึ่งข้อมูลที่ตนรับรู้มา ทราบว่าพยานที่เคยจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ มีการจ่ายมากกว่า 50 ล้านบาท
นายอัจฉริยะ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับชิ้นส่วนตีนไก่ที่ถูกตีกลับจากประเทศจีน พบว่าของกลางทั้งหมดแทนที่จะถูกนำไปทำลาย แต่กลับมีการจ่ายเงินให้กับรองอธิบดีกรมปศุสัตว์รายหนึ่ง เพื่อขอไม่ให้มีการทำลายของกลางเกิดขึ้น โดยของกลางทั้งหมดถูกเก็บไว้ในห้องแช่เย็นตามที่ต่างๆ เพื่อรอดูว่าคดีความจะจบหรือว่าดำเนินการไปทางไหน เพราะอาจสามารถนำของกลางกลับมาวนขายได้ จึงขอให้ดีเอสไอดำเนินการตรวจสอบในเรื่องนี้ด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
