“ชูวิทย์”ฉะตำรวจสนับสนุนตู้ห่าวทำเครือข่ายเติบโต ยันพบนายกฯไม่ใช่หาทางลง
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองไทย แถลงสรุปผลพูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเรื่องทุนจีนสีเทา โดยได้เล่าไทม์ไลน์ตั้งแต่วันแรกที่มีการเปิดโปงจีนทุนสีเทาจนนำไปสู่การออกหมายจับ จนมีการดำเนินคดีกับนายตู้ห่าวและเครือข่าย พร้อมย้ำว่าตนเองเป็นประชาชนทำงานเพื่อประชาชนตนเองสู้ด้วยตัวเองคนเดียวไม่มีหน่วยงานรัฐสนับสนุน การออกมาเปิดโปงอยากให้ประชาชนได้เห็นการต่อสู้ระหว่างประชาชนกับหน่วยงานรัฐไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะทุกคนพยายามรักษาอำนาจตัวเองไว้ แต่ตนเองก็จะทุกอย่างเพื่อไปสู่เป้าหมาย โดยขณะนี้เป้าหมายกว่า 80% แต่ยังไม่ครบ 100 %
พร้อมย้ำว่าขบวนการนี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ ปี 63-64โดยมีตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเป็นจุดปล่อยคนจีนเข้ามาโดยเฉพาะ ตำรวจ 3 นาย รุ่นเดียวกับ บิ๊กโจ๊ก ซึ่งที่ผ่านมาได้ถาม ผบ.ตร.ว่าจัดการอะไรกับ ตม.และตั้งคำถามว่าบิ๊กโจ๊กทำอะไรกับเรื่องนี้บ้าง เกิดอะไรขึ้นกับองค์กรตำรวจที่เป็นองค์กรใหญ่ วันนี้จึงต้องการมาชำแหละให้เห็น เพื่อสะท้อนให้เห็นภาพทั้งหมดเพราะการเอาคนจีนเลวๆ เข้ามาถือเป็นภาระของประเทศ
นายชูวิทย์ กล่าวว่าต้นเหตุของเรื่องนี้มาจากเรื่องเดียวคือการร่วมกันทุจริตสังคมไทย เพราะการสนับสนุนมีตัวการ คือตู้ห่าว และจะมีผู้สนับสนุนคือตำรวจ ถ้าไม่มีตำรวจตู้ห่าวไม่โตขนาดนี้ ผู้สนับสนุนที่สองคือหน่วยงานรัฐและเครือข่ายนักการเมือง เป็นเหตุผลว่าฝ่ายค้านและรัฐบาลถึงเงียบเพราะขบวนกนี้แทรกแซงทั้งหมด ตนเองจึงต้องมาจุดเทียนเพราะบ้านเมืองมืดมน
แต่กลับพบว่าทำอยู่คนเดียว อย่างเปล่าเปลี่ยว ส่วนที่คุยกับนายกวานรัฐมนตรีวานนี้ ประมาณ15 นาที นั้นเพราะหากนายกจัดการเรื่องนี้ไม่ได้ ตนเองก็ไม่รู้จะไปหาใครแล้ว และได้บอกว่าตนเองไม่ได้รับการช่วยเหลือจากใครเลย และเมื่อวานเป็นการเข้าถ้ำเสือทำให้พูดอะไรไม่ได้มาก พร้อมระบุวันนี้มองนายกเปลี่ยนไปเพราะเป็นนักการเมืองแล้ว จะแสดงบทบาทแบบเดิมไม่ได้ แต่ต้องรับฟังเสียงของประชาชน เพราะฐานเสียงที่จะสนับสนุนคือประชาชน จึงต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ข้างประชาชนได้บอกว่าหากนายกเดินสายการเมืองแล้วก็ต้องจัดการเรื่องจินเทาให้ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า การไปพบนายกรัฐมนตรีเป็นการหาทางลงให้ตัวเองหรือไม่ นายชูวิทย์ กล่าวว่าคนดีแบบตนเองทำไมต้องมาเจอคำถามแบบนี้ ซึ่งหากสงสัยก็ขอให้ดูสิ่งที่ตนเองทำให้สังคมมาอย่างโดดเดี่ยว หากตนเองจะลงจะไปเดือดร้อนใคร เพราะไม่มีหน้าที่และไม่ได้ไปกินเงินเดือนใคร และไม่ได้จะเล่นการเมือง หากจะลงจะไปหนักหัวใคร การที่ประชาชนอย่างตนเองได้พบนายกก็อยากจะถามว่า
นายกฯปกครองประชาชนแบบทหารไม่ได้ ซึ่งนายกรับปากว่าจะทำให้เร็วที่สุด ส่วนเรื่องบัสตู้ห่าว ที่มีหลานนายกเกี่ยวข้อง ทราบว่านายกสั่งการผบ.ตร.ใหัตรวจสอบแล้ว ส่วน ผบช.น.อยู่ที่จเรตำรวจ ตนเองไม่สามารถไปเรียกร้องหรือกำหนดเวลาได้ แต่จุดประสงค์คืออยากให้รับฟังและให้ประชาชนเห็นว่าจะสู้กับรัฐต้องรู้เท่าทันอำนาจหน้าที่และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เชื่อว่าการรับปากของนายกไม่ใช่การแก้เก้อ เพราะคนอย่างชูวิทย์ก็ไม่ใช่ธรรมดา
นายชูวิทย์ กล่าวว่าที่ผ่านมาไปร้องแต่ละหน่วยเหมือนจริงใจ แต่ก็เหมือนถูกหลอกการมาร้องนายกครั้งนี้จะจริงใจหรือไม่ มองว่าประชาชนมักจะถูกหลอกเสมอ จึงต้องมีการติดตามประกบตลอด ไม่ใช่ยื่นแล้วรอให้เขาทำแต่ต้องมีการติดตามอย่างใกล้ชิด และไม่กลัวการติดตามจากหน่วยงานที่มีการกล่าวอ้างถึงที่ผ่านมาเมื่อทราบว่าเรื่องติดขัดหน่วยงานไหนตนเองจึงกล้าเข้าไปสอบถาม
ทั้งนี้ ในการแถลงข่าว นายชูวิทย์ ยังได้เปิดคลิปวิดิโอ การเข้าสถานบันเทิงของทุนจีนสีเทาที่เป็นเครือข่ายของนายตู้ห่าว จะไม่ถูกตรวจค้นละเอียดส่วนแขกที่มาเที่ยวจะถูกตรวจอย่างละเอียดเมื่อพบว่ามีการพกยาเสพติดเข้ามาก็จะบอกผู้จัดการคือนาย หวง ไทเฮาซึ่งถูกจับกุมไปแล้วมาจัดการเพราะสถานบันเทิงของตนเองมียาเสพติดจำหน่ายอยู่แล้ว
พร้อมเปิดแผนผังขบวนการของนายตู้ห่าวที่มีมือซ้ายมือขวาพร้อมจะขึ้นมาทำหน้าที่แทนทำให้ขบวนการนี้ยังเติบโตอยู่ได้ ส่วนพยานคดีจินหลิงที่มีพนักงานเสิร์ฟมีหญิงบริการหลานคนแต่กลับเหลือพยานเพียง2คนเท่านั้น และตั้งแต่เกิดเหตุยังไม่มีการดำเนินการกับ 5 เสือสน.ยานนาวา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
