ผบช.น.แจงยิบปม “ผับจินหลิง” ชี้ สำนวนจากนี้ไป ขึ้นอยู่กับอัยการ เป็นผู้พิจารณา ยันไม่มีมวยล้มต้มคนดูแน่นอน
วันนี้ (15 ธ.ค. 65) เวลา 15.00 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. แถลงข่าวความคืบหน้าในกรณีทุนจีนสีเทาอันเนื่องมาจากการจับผับจินหลิง โดย พล.ต.ท.ธิติ แถลงว่า คดีนี้มีการสอบสวนความคืบหน้าเป็นขั้นเป็นตอน ปัจจุบันมีความคืบหน้าพอสมควร วันนี้จะพูดถึงกระบวนการที่ทำในปัจจุบัน และขั้นตอนต่อไปในอนาคต
ซึ่งเรื่องนี้เกิดจากการเข้าตรวจค้นสถานที่เกิด ‘ผับจินหลิง’ ตั้งแต่ 26 ต.ค.2565 และได้ทำการสืบสวนในสิ่งที่ได้รับข้อมูลว่ามีการลักลอบเสพยาเสพติดในสถานที่ดังกล่าว เมื่อเข้าตรวจค้น พบบุคคลหลายสัญชาติทั้ง จีน เวียดนาม กัมพูชาและไทยบางส่วน และได้จับตรวจสารเสพติด 104 ราย ซึ่งส่งไปตรวจที่ รพ.ธัญญลักษณ์ พบ สารเสพติดในร่างกาย 77 ราย ในที่นี้ พนักงานสอบสวน จับกลับไปฟ้องในคดีเสพยาเสพติด
ซึ่งผู้ต้องหา ปฏิเสธ 11 ราย และมี 1 รายซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีนี้นำตัวไปฟ้องเอง เนื่องจากได้รับเงินมาจากผู้มีอิทธิพลทางการเมืองให้เงินมาให้การช่วยเหลือผู้ต้องหา ซึ่งตอนนี้ได้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว และส่ง ปปช.ไปแล้ว ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือ ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจพยานหลักฐานเพิ่มเติมซึ่งข้อมูลอยู่ในสำนวนคดี จากนั้นส่งศาลตัดสินแล้วและให้ ตม.รับตัวกลับประเทศไปแล้ว
ทั้งนี้ในคดีนี้มีบุคคลที่เกี่ยวข้องหลายสัญชาติ พบว่าเข้าข่ายตาม พรบ.ป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติ จึงส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดพิจารณา โดยอัยการสูงสุดได้แต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาคดีดังกล่าว เป็นคดีการกระทำผิดในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
โดยแต่งตั้งนายสมเกียรติ คุณวัฒนานนทบุรี รองรับการสูงสุดเป็นหัวหน้าคณะทำงาน เร่งสำนวนให้ทันในกรอบฝากขังผู้ต้องหา รวมทั้ง บก.น.6 ได้ดำเนินการรายงานรายละเอียดเกี่ยวกับคดีในเรื่องของการกระทำความผิดตาม พรบ.ป้องกันและปราบการฟอกเงินให้ ปปง.ทราบแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาดำเนินการ
ส่วนกรณีที่ DSI รับทำคดีนี้เป็นคดีพิเศษ เป็นเพียงความผิดในฐานแกเงินเท่านั้น ซึ่งในควาสผิดฐานนี้มีโทษจำคุก 5 ปี ส่วนความผิดในฐานอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งมีโทษสูงทั้งประหารชีวิตและจำคุกตลอดชีวิต
ส่วนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังต้องดำเนินการสอบสวนและดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายต่อไป กรณีที่สังคมตั้งคำถามว่าทำไมไปดำเนินคดีกับคนที่เป็นยาม ทางตำรวจขอชี้แจงว่าบุคคลนั้นไม่ใช่ยามแต่เป็นคนที่ถูกจ้างไว้ดูแลสถานที่ดังกล่าว ซึ่งในขณะที่เจ้าหน้าที่ตรวจค้น เขาเป็นคนที่บอกว่าเป็นคนดูแล เจ้าหน้าที่จึงต้องทำแจ้งข้อหาตามขั้นตอน ต่อมาได้ประกันตัว และเข้ามาเป็นพยานอีกครั้ง ซึ่งให้ความร่วมมือดีจนทำให้เจ้าหน้าที่มีข้อมูลในคดีมากขึ้น
ส่วนที่นายชูวิทย์บอกว่าเป็นพยานเปื้อน เพราะช่วงแรกพยานรายนี้ไม่ยอมให้ความร่วมมือแต่ต่อมาหลังจากได้ประกันตัวแล้วให้ความร่วมมือดี ตำรวจชี้แจงว่า ไก้มีการพูดคุยจนพยานไว้วางใจ และยอมให้ข้อมูลซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มีการบันทึกเสียงยืนยันว่ามีสติสัมปชัญญะครบถ้วนดี ส่วนบุคคลที่ตรวจไม่พบยาเสพติด ได้กันไว้เป็นพยาน
รวมทั้งตรวจในรายละเอียดของโทรศัพท์มือถือ ดูแอปพลิเคชันหรือไม่นั้น ผบช.น. ยืนยันอย่างหนักแน่นว่ามี แต่อยากให้ทำความเข้าใจว่าคนที่ไม่ได้เป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติดโดยตรง เราจะเปิดโทรศัพท์ต้องได้รับความยินยอมก่อน คนที่ให้ความร่วมมือนั้น ตรวจสอบแล้ว ตำรวจเห็นข้อมูล ส่วนจะเจอรายละเอียดไม่ว่าจะเป็นข้อมูล หรือรูปภาพอะไรนั้นอยู่ในสำนวนคดี อีกอย่างวีแชท เป็นภาษาต่างประเทศต้องมีการแปล ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากนี้ตนจะเอกสารให้ทางอัยการดู และวิเคราะห์ว่าจะใช้ข้อมูลอย่างไร
สำหรับประเด็นรถหรูบางคัน บางส่วนเจ้าหน้าที่ไม่ได้ตรวจด้านในรถ พร้อมกับมีรายงานว่ามียาเสพติดและเงินสดอยู่ โดยให้เหตุผลเจ้าหน้าที่ไม่มีกุญแจรถ ผบช.น. กล่าวว่า รถยังอยู่ คันที่เปิดและตรวจไม่ได้ ได้ทำหนังสือถึงกรมการขนส่งทางบก / กรมศุลกากร ให้ตรวจสอบแล้วว่าใครสั่งเข้ามา นำเข้ามาด้วยวิธีใด จดทะเบียนโดยชื่อใคร ฯลฯ เพื่อเชื่อมโยงให้เห็นว่าใครเป็นผู้ดำเนินการ และเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติจริงหรือไม่
เมื่อถามว่าต้องมีการชี้แจงหรือพูดคุยกับนายชูวิทย์ ให้ชัดเจนหรือไม่ เนื่องจากว่ามีการออกมาตั้งคำถามทางคดีนี้ ผบช.น. บอกว่า ขอตัวทำงานดีกว่า พร้อมบอกว่าจะทำให้ดีที่สุด ส่วนจะเชิญตัวนายชูวิทย์ มาให้ปากคำในฐานะพยานหรือไม่ เพราะนายชูวิทย์เองนั้นกล่าวเอาไว้ว่าพร้อมมาเป็นพยานปากสำคัญในคดี
พล.ต.ท.ธิติ กล่าวว่า ตอนนี้ขึ้นอยู่กับอัยการ ซึ่งตนจะนำคำถามนี้สื่อสารไปยังผผู้ใหญ่ หากเห็นว่าเป็นสิ่งที่เหมาะ เห็นว่าเป็นประโยชน์หลายๆด้าน คงให้ตนดำเนินการ อย่างไรก็ตาม สำนวน ณ จากนี้ไป ขึ้นอยู่กับพนักงานอัยการ จะเป็นผู้พิจารณาคดีเป็นหลัก
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
