fbpx
Home
|
อาชญากรรม

สปสช.มีมติแยกจัดสรรงบบัตรทองปี 66

Featured Image
“อนุทิน” เผย บอร์ด สปสช.มีฉันทามติ แยกจัดสรรงบบัตรทองปี 66 ชะลอเฉพาะงบส่วนส่งเสริมป้องกันโรคบางส่วน 5,100 ล้านบาท

 

 

วันนี้ (14 ธันวาคม 2565) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) กล่าวถึงกรณียังไม่มีการลงนามในร่างหลักเกณฑ์การบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือบัตรทอง ปีงบประมาณ 2566

 

เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องงบส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค (PP) ที่ให้ครอบคลุมสิทธิสวัสดิการข้าราชการและประกันสังคม อาจไม่ถูกต้องตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2548 ทำให้ยังไม่มีการจัดสรรงบประมาณลงไปยังหน่วยบริการ ว่า วันนี้ที่ประชุมบอร์ด สปสช. มีความเห็นเป็นฉันทามติว่า เรามุ่งหวังให้ประชาชนทุกคน ทุกสิทธิ สามารถได้รับบริการสุขภาพที่จำเป็น

 

โดยไม่มีอุปสรรคทางการเงิน และทุกฝ่ายจะดำเนินการร่วมกันให้บรรลุตามเป้าหมายนั้นโดยไม่ขัดกับกฎหมาย และเห็นด้วยที่ให้มีการทำความชัดเจนในประเด็นข้อกฎหมายว่ากองทุนหลักประกันสุขภาพฯ ครอบคลุมประชากรในส่วนใดบ้าง ตามมาตรา 5, 9, 10 และ 66 โดยปรึกษาคณะกรรมการกฤษฎีกาและเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ตามที่กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการไปเมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา

 

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ส่วนแนวทางแก้ไขปัญหาเพื่อลดผลกระทบหน่วยบริการ เนื่องจากยังไม่มีการจัดสรรงบประมาณบัตรทองปี 2566 นั้น บอร์ด สปสช. มีฉันทามติประกาศหลักเกณฑ์การดำเนินงานและบริหารจัดการกองทุนบัตรทองปี 2566 ตามที่เลขาธิการ สปสช. เสนอจากการหารือกับกระทรวงสาธารณสุข

 

โดยในหลักการให้เร่งจัดสรรงบส่วนใหญ่ 1.37 แสนล้านบาทให้กับหน่วยบริการต่างๆ ก่อน เพื่อไม่ให้กระทบกับการดูแลประชาชน และชะลอการจัดสรรงบประมาณในส่วนงบส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคบางส่วน วงเงิน 5,146.05 ล้านบาท ทั้งนี้ หน่วยบริการของกระทรวงสาธารณสุขจะจัดบริการให้ครอบคลุมประชาชนทุกคนที่อยู่ในความรับผิดชอบ และ สปสช.จะดำเนินการให้หน่วยบริการอื่นนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุขดำเนินการเช่นเดียวกัน เพื่อให้ไม่ให้มีช่องว่างในการบริการประชาชน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube