fbpx
Home
|
อาชญากรรม

รวบ “เอกชัยเชียงคำ” เจ้าของแอปจำนำรถยนต์ลวงโลก

Featured Image
ลาดตระเวนออนไลน์สืบนครบาลรวบเอกชัยเชียงคำเจ้าของแอปพลิเคชันไลน์รับจำนำรถยนต์ลวงโลก

 

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล จับกุมตัว นายเอกชัย คนึงคิด อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีฉ้อโกง ได้ที่ ลานจอดรถ ของอพาตเม้นท์แห่งหนึ่ง ตำบล เชียงรากน้อย อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

 

หลังชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบสวนนครบาล IDMB กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ทำการสืบสวนจับกุมตัวคนร้ายที่เป็นตัวการในการก่อเหตุใช้แอปพลิเคชันไลน์ชื่อบัญชี “รับจำนำรถยนต์” ทักไปลวงผู้เสียหายซึ่งได้มีการไปโพสต์ประกาศตามหารถยนต์ส่วนตัว

 

ซึ่งหายไปเมื่อประมาณปี 2562 ในเพจซื้อขายรถยนต์มือสองต่างๆ พร้อมกับให้ข้อมูลติดต่อกลับไว้ เมื่อผู้ต้องหาเห็นโพสต์ประกาศตามหารถยนต์ของผู้เสียหาย จึงได้ใช้แอปพลิเคชันไลน์ชื่อบัญชี “รับจำนำรถยนต์” ทักไปแจ้งกับผู้เสียหายว่ารถยนต์คันที่ผู้เสียหายตามหานั้น ณ เวลานั้นอยู่กับตนโดยเป็นรถที่มีคนนำมาจำนำและหลุดจำนำแล้ว

 

ถ้าผู้เสียหายอยากได้รถคือให้ผู้เสียหายมาติดต่อรับด่วน โดยได้ให้ผู้เสียหายส่งเอกสารเกี่ยวกับรถคันดังกล่าวให้ แต่ต้องโอนเงิน จำนวน 75,000 บาท (โดยแบ่งเป็นเงินต้น 70,000 บาท และดอก 5,000 บาท) มาให้เพื่อรับรถคืน เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินจำนวน 75,000 บาท ให้คนร้ายครบ คนร้ายจึงได้ทำการปิดกั้นการติดต่อกับผู้เสียหาย

 

นอกจากนี้ จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ตลอดจนการซักปากคำรับสารภาพของผู้ต้องหายังพบข้อมูลว่า ณ ปัจจุบัน คนร้ายที่ถูกจับกุมยังมีพฤติกรรมสร้างบัญชีเฟซบุ๊กเข้าไปหลอกขายอาวุธปืนผิดกฎหมายในกลุ่มคนเล่นปืนกลุ่มต่างๆ เช่น กลุ่ม สมาคมคนรักปืน , กลุ่ม สมาคมคนรักอาวุธปืน V.1 ,กลุ่ม สหายคนรักปืน , กลุ่ม ชมรมคนรักลูกโม่ , กลุ่ม สมาคมคนรักGUN โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายก่อเหตุไปที่เพจที่มีจำนวนผู้สนใจติดตามจำนวนมาก และเป็นเพจมีความเคลื่อนไหวต่อเนื่อง

 

โดยเมื่อกลุ่มเฟซบุ๊กเกี่ยวกับอาวุธปืนต่างๆ มีการโพสต์ภาพอาวุธปืนลงในเพจแล้วมีผู้สนใจลงโพสต์ข้อความว่าสนใจ หรือต้องการอยากได้ปืนที่โพสต์นั้น ผู้ต้องหาก็จะทำการโพสต์ต่อข้อความที่มีผู้สนใจนั้น พร้อมกับส่งแนบลิ้งคิวอาร์โค้ตไลน์เพื่อให้ผู้สนใจแอดเข้าไปพูดคุย ก่อนที่ผู้ต้องหาจะหลอกให้โอนเงินสั่งซื้อและปิดกั้นการติดต่อกับเหยื่อที่หลงเชื่อ ที่ผ่านผู้ต้องหาก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้มาตั้งแต่ประมาณปี 2562

 

มีรายได้ต่อเดือนประมาณ 30,000 – 50,000 บาทต่อเดือน โดยเงินที่ได้จากการก่อเหตุจะนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และเล่นพนันออนไลน์ทั้งนี้ เมื่อปี 2560 ผู้ต้องหาที่ถูกจับเคยมีประวัติถูกจับกุมในข้อหา ฉ้อโกง (หลอกขายอาวุธปืนบีบีกัน) ท้องที่ สภ.สามชุก สุพรรณบุรี

พล.ต.ต.ธีรเดชฯ กล่าวเตือนภัยว่า ขอให้พี่น้องประชาชนทุกท่าน ตรวจสอบประวัติ ชื่อและเลขบัญชีธนาคารของผู้ขายทุกครั้งก่อนทำการโอน โดยสามารถตรวจสอบผ่านทางอินเทอร์เน็ตว่ามีชื่อหรือบัญชีธนาคารดังกล่าว แจ้งเตือนอยู่ในกลุ่มผู้หลอกลวงหรือไม่ หรือให้ถามความน่าเชื่อถือจากบุคคลที่เป็นที่ไว้วางใจในเพจเฟสบุ๊คหรือกลุ่มไลน์นั้นๆ เพื่อยืนยันก่อนทุกครั้ง

 

ซึ่งการหลอกลวงลักษณะนี้ไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายเป็นเงินเท่านั้น แต่กลุ่มมิจฉาชะเหล่านี้อาจจะนำข้อมูลออกสารสำคัญของผู้เสียหาย ไปใช้กระทำความผิดอื่นๆ จึงขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนทราบว่า หากท่านมีเบาะแสใด สามารถแจ้งมายังเฟซบุ๊ก เพจ สืบสวนนครบาล IDMB ได้ทันที

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

 

 

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube