นักศึกษาสาววิศวะไฟฟ้า ร้องเพจสายไหมฯถูกไรเดอร์พุ่งชนขณะข้ามทางม้าลายบาดเจ็บสาหัสต้องผ่าตัดดามเหล็กที่ขา ใช้ชีวิตลำบาก ส่วนคู่กรณีไม่เหลียวแล
ทีมข่าวลงพื้นที่พูดคุยกับ น.ส.นิภาดา ลาภพูล อายุ 20 ปี นักศึกษาคณะวิศวะไฟฟ้า ชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ย่านชลบุรี หลังเข้าร้องเรียนกับเพจสายไหมต้องรอดว่าถูกไรเดอร์ขับรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณขาขวาต้องใช้เหล็กดามและต้องมีไม้เท้าคอยช่วยเหลือ และมีบาดแผลที่ศีรษะ หลังมือ และเท้าซ้าย และที่ปากรวมกว่า 5 จุด โดยไม่ได้รับการช่วยเหลือเยียวยาจากคู่กรณีแต่อย่างใดจนเวลาผ่านมาเกือบ 2 เดือน
ผู้เสียหายเล่าว่าเหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 ส.ค.65 ขณะกำลังเดินข้ามทางม้าลายหลังมหาวิทยาลัยโดนย้ำว่าก่อนจะข้ามได้กดสัญญาณไฟคนข้ามทางม้าลาย พร้อมกับมองซ้ายและขวา ไม่พบว่ามีรถ
จนกระทั่งสัญญาณให้เดินข้ามได้ ก็เห็นว่ามีรถยนต์เก๋งสีขาวขับมาแล้วจอดจึงตัดสินใจเดินข้าม แต่ทันใดนั้นก็มีรถจักรยานยนต์ขับมาด้วยความเร็วพุ่งเข้าชนอย่างแรงจนสลบ และจำเหตุการณ์ไม่ได้ ยืนยันว่าตนเองไม่ได้ประมาทเพราะทำตามขั้นตอนของสัญญาณไฟทุกอย่าง รวมทั้งเส้นทางดังกล่าวก็ใช้อยู่เป็นประจำ ส่วนสัญญาณไฟคนข้ามมีตัวเลขนับถอยหลังแต่ไม่มีเสียงเตือน
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุทางคู่กรณีได้นำเอกสารเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลมาให้แต่ไม่มีการพูดคุยเรื่องการเยียวยาหรือให้การช่วยเหลือกับครอบครัวตนเองแต่อย่างใด ระยะเวลาผ่านมานานกว่า 2เดือน การรักษาพยาบาลยังคงมีอย่างต่อเนื่อง แต่ตนเองกลับต้องเป็นผู้ออกใช้จ่ายเองทั้งหมด ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุ โดยยอมรับว่าจนถึงขณะนี้ยังรู้สึกโกรธและจิตใจหดหู่ ผวา ไม่กล้าข้ามถนน อีกทั้งหลังอุบัติเหตุทำให้การใช้ชีวิตประจำวันเป็นไปอย่างยากลำบาก
จึงอยากฝากถึงผู้ใช้รถใช้ถนนควรใหเระมัดระวังและเคารพกฎจราจร ส่วนคนเดินเท้าก็อย่าชะล่าใจเพราะไม่เช่นนั้นภัยจะถึงตัวเรา ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ได้กระทำผิดอะไร
ส่วนเรื่องดังกล่าวได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.ราษฎรบูรณะแต่ตำรวจยังไม่ได้เรียกไปสอบปากคำแต่อย่างใด ด้าน น.ส.ปุญชรัสมิ์ คุ้มบัว น้าสาวเล่าให้ฟังว่า หลังเกิดเหตุการใช้ชีวิตของหลานเปลี่ยนไปหลายอย่างทำให้ยากลำบากต่อการใช้ชีวิต เพราะการบาดเจ็บต้องผ่าตัดใส่เหล็กอีกทั้งมีบาดแผลอื่นๆอีกหลายจุด เคราะห์ดีที่ไม่บาดเจ็บมากไปกว่านี้
แต่ค่าใช้จ่ายในการรักษาที่ผ่านมาก็ใช้สิทธิ์ พ.ร.บ.รถจักรยานยนต์ แต่เกินวงเงินจากนั้นได้ย้ายโรงพยาบาลไปยังสิทธิ์ของผู้ป่วย แต่ปรากฎว่าการรักษายังคงต้องดำเนินการไป แต่เอกสารคู่กรณีทางโรงพยาบาลยังได้ไม่ครบ
ทำให้ครอบครัวตัวเองต้องออกใช้ค่าใช้จ่ายเป็นเงินเกือบ 5หมื่นบาท ส่วนตัวหลานสาวมีสถานะขณะนี้เป็นลูกหนี้ของ รพ.ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายที่ต้องเดินทางไปหาหมอตามนัดอีก 1-2 ปี จนกว่าจะเอาเหล็กที่ดามขาออก จึงทำให้รู้สึกว่าครอบครัวตัวเองไม่ได้เป็นผู้ก่อแต่ต้องรับเคราะห์กรรมโดยที่ไม่มีการเยียวยาช่วยเหลือจากคู่กรณีเลย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
