ชัชชาติ จับมือ ตำรวจนครบาล บริหารแบบไร้รอยต่อ – พร้อมให้ความร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ปชช. ย้ำการชุมนุมเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน
วันนี้ (1 ส.ค.65) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประชุมหารือร่วมกับคณะผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ณ ห้องประชุมชั้น 31 อาคารธานีนพรัตน์ กทม.2
นายชัชชาติกล่าวหลังการหารือว่า ประเด็นที่หารือกันล้วนเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน เป็นการบริหารแบบไร้รอยต่อซึ่งมีทั้งหมด 8 ประเด็นคือ 1 การจราจร ซึ่งกทม.จะรับผิดชอบดูแลบนฟุตบาททางเดิน สัญญาณไฟ และเรื่องกล้อง CCTV ส่วนทางด้านตำรวจดูบนท้องถนนและการควบคุมสัญญาณไฟ
ซึ่งวันนี้ได้คุยกันในหลายมิติประเด็นสำคัญเลยคือการนำเทคโนโลยีมาใช้เกี่ยวกับการควบคุมไฟจราจร และทางตำรวจจะระบุจุดเสี่ยง จุดที่รถติด และจุดที่มีน้ำท่วมขัง
ซึ่งพิกัดทั้งหมดทางตำรวจจะมีข้อมูลที่ละเอียดส่วนทางกทม.จะรีบดำเนินการแก้ไข 2 เรื่องรักษาความปลอดภัย ทั้งร่างกายและทรัพย์สินประชาชน จะเพิ่มมาตรการต่างๆ และอยากจะติดตั้งกล้อง CCTV เพิ่ม ทางตำรวจเองก็ได้มีข้อมูลว่าพื้นที่ไหนที่ควรจะมีกล้องเพิ่มจากที่เดิมมีอยู่ 50,000 ตัว
โดยจะเอาระบบ AI มาช่วยวิเคราะห์ด้วย ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาการทำงานของเจ้าหน้าที่และได้ข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นรวมทั้งจัดเลือกอาสาสมัครชุมชนเพื่อเป็นเครือข่ายในการช่วยดูแลชุมชนให้เข้มแข็งซึ่งจะมีคณะทำงานย่อยอีกชุดหนึ่ง 3 เรื่องยาเสพติด ทางกทม. มีคลินิกช่วยคนติดยาเสพติดอยู่ 20 แห่ง ตามหลักคือถ้ามีผู้ติดยาฯ ตำรวจต้องนำส่งสถานบำบัดของกทม. ซึ่งปัจจุบันมีปัญหาเรื่องเวลาเปิด- ปิด อาจจะมีการขยายเวลาให้เหมาะสม
โดยเอาเครือข่ายของชุมชนเป็นตัวช่วยและจะมีคณะทำงานย่อยอีก 1 ชุดมาดูแล 4 เทคโนโลยีสารสนเทศหรือว่า AI เราจะเพิ่มคุณภาพของ CCTV ให้ดีขึ้นเพราะข้อมูล Big Data มาแชร์กัน และมีกล้องของเอกชนมาเป็นแนวร่วมกัน 5 การชุมนุม
ในที่สาธารณะซึ่งเห็นตรงกันว่าการจัดชุมนุมในที่สาธารณะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน และการเคลียร์พื้นให้เป็นสิ่งที่ดีทำให้ประชาชนไม่ออกไปอยู่บนพื้นที่กีดขวางการจราจรหรืออาจจะไม่สะดวกกับการชุมนุมและที่ผ่านมาในช่วงเดือนกว่าผลที่ออกมาค่อนข้างน่าพึงพอใจ 6 เรื่องสถานบริการ เรื่องของการสร้างความเดือดร้อนรำคาญในอนาคตอาจจะดูถึงเรื่องโซนนิ่งให้เหมาะสม
กทม. ในฐานะที่เป็นเจ้าของบ้านจะทำข้อเสนอแนะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องการทำโซนนิ่งว่าปัจจุบันนั้นเหมาะกับสภาพความเป็นจริงหรือไม่ 7 การประชุม APEC ที่กทม. เป็นเจ้าภาพร่วมกับหลายหน่วยงานเป็นเรื่องที่ละเอียดเพราะมีพนักงานนกทม.เป็นหมื่นคนอยู่ในพื้นที่และพนักงานในพื้นที่จะดูเรื่องของความปลอดภัย
ส่วนตำรวจจะจัดอบรมและเพิ่มทักษะในการช่วยดูแลผู้มาเยือนซึ่งเป็นแขกอาคันตุกะระดับโลก กว่า 20 ประเทศ 8 เรื่องแอปทราฟฟี่ฟองดูว์ จะขยายผลโดยมีตำรวจมาร่วมด้วยในการแจ้งเหตุต่างๆ
ซึ่งประเด็นทั้งหมดไม่ได้ใช้งบประมาณเพิ่มเติมแต่เป็นเรื่องที่ปฏิบัติและทำมาอยู่แล้ว หลายเรื่องเริ่มลงมือทำได้เลย เช่นเรื่องการอบรมพนักงานเก็บขยะ กวาดขยะ แต่ในบางเรื่องอาจจะต้องแบ่งเป็นระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว ส่วนเรื่องที่ต้องใช้งบประมาณอาจจะต้องมีการวางแผนการใช้งบประมาณระยะยาว ซึ่งถือว่าเป็นจุดที่ดี
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
