fbpx
Home
|
อาชญากรรม

นพ.โอภาส แถลงสถานการณ์ โควิด19 หลังวันหยุดยาว

Featured Image
นพ.โอภาส แถลงสถานการณ์ โควิด19 หลังวันหยุดยาว แนะปชช.รับวัคซีนเข็มกระตุ้น ยืนยันปลอดภัยมากกว่าหากติดเชื้อ พร้อมให้ปฎิบัติตามมาตรการ 2U

 

 

 

วันนี้ (18 ก.ค.65) เวลา 11.30 น. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วย รศ.ดร.ชรินทร์ โหมดชัง ผู้เชี่ยวชาญด้าน Mathematic Modeling สำหรับโรคติดต่อ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล แถลงประเด็นสถานการณ์โควิด 19 การฉีดวัคซีน ประสิทธิผลวัคซีน และการใช้ LAAB ณ ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข อาคาร 5 ชั้น 7 สป.สธ.

 

นพ.โอภาสฯ กล่าวว่า ในขณะนี้หลายประเทศเริ่มไม่มีการรายงานข้อมูลโควิด 19 เป็นรายวัน ซึ่งตัวเลขผู้ติดเชื้อก็ยังค่อนข้างสูง แต่ผู้เสียชีวิตนั้นลดลง ทางแถบยุโรปแนวโน้มการเพิ่มขึ้นเริ่มทรงตัว แต่ในทางกลับกันสถานการณ์ทางฝั่งเอเชียไม่ว่าจะเป็น เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย สิงคโปร์ กลับมีแนวโน้มผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น

 

สำหรับผู้เสียชีวิตตามหลักข้อมูลที่ผ่านมาจะเป็นกลุ่มผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปและมีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรครวมทั้งคนท้องทั้งหมดจะเป็น 98 เปอร์เซ็นต์ และเป็นผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือได้รับวัคซีนไม่ครบถ้วน โดยที่น่าสนใจคือระยะหลังผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นเข็ม 3 ในกลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือผู้สูงอายุมีอัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น

 

โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วเกิน 3 เดือน จึงแนะนำว่าการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเข็มต่อไปควรห่างจากเข็มล่าสุด 3-4 เดือนเพราะยิ่งทิ้งระยะเวลานานภูมิคุ้มกันจะยิ่งลดลงและเสียชีวิตเพิ่มขึ้น

 

อีกกลุ่มหนึ่งที่สำคัญก็คือกลุ่มผู้ป่วยโรคไต และกลุ่มคนที่ผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะเนื่องจากเป็นกลุ่มคนที่ไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันโรคโควิด19 จากการฉีดวัคซีนปกติได้ ฉะนั้นทางกระทรวงฯ จึงมีแนวทางการจัดหาวัคซีนคุ้มกันสำเร็จรูป LAAB ให้กับประชาชนกลุ่มนี้ เพื่อลดจำนวนการเสียชีวิตโดยวัคซีนล็อตแรกจะมาทั้งหมด 7,000โดส ถึงไทยประมาณสัปดาห์หน้า ทั้งนี้การฉีดวัคซีนขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์และความเหมาะสมในการจัดสรรวัคซีน

 

ส่วนแนวทางการป้องกันหลังจากเทศกาลหยุดยาว ประชาชนส่วนใหญ่ได้เดินทางกลับภูมิลำเนา ทางนพ.โอภาสฯ แนะนำให้ประชาชนทุกคนช่วยกันถือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคล 2U นั่นก็คือ Universal Prevention ให้เว้นระยะห่าง ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

 

ขณะที่ร่วมกิจกรรมที่มีคนจำนวนมาก หรืออยู่ในสถานที่ปิด และกลุ่มเสี่ยง/กลุ่ม 608 ให้เร่งรับการฉีดวัคซีนตามมาตรการ Universal Vaccination เพื่อลดอาการป่วยหนักและเสียชีวิต หากพบการติดเชื้อโควิด19 โดยเฉพาะช่วง 2 สัปดาห์หลังวันหยุดยาว

 

ด้านหน่วยงานและสถานประกอบการหากพบพนักงานติดเชื้อโควิด19 ควรพิจารณาให้พนักงานแยกกักตัวที่บ้าน 7วันและหลังจากนั้นให้มาทำงานได้ปกติ ในช่วง 3 วันแรกให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา งดร่วมรับประทานอาหารกับผู้อื่นและเลี่ยงเข้าร่วมกิจกรรมกับคนจำนวนมากหรือ “WFH7+3 วัน” ได้ ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงสูงสามารถทำงานได้ตามปกติโดยสวมหน้ากากตลอดเวลาและเลี่ยงกิจกรรมกับคนจำนวนมาก

 

โดนขณะนี้กระทรวงฯ และรัฐบาลได้จัดเตรียมวัคซีนที่เพียงพอให้กับประชาชน ส่วนหากประชาชนมีความกังวลเรื่องผลข้างเคียง นพ.โอภาสฯ แจ้งว่าวัคซีนมีความปลอดภัยแน่นอนอาจจะมีผลข้างเคียงบ้างแต่ปลอดภัยค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับโอกาสที่จะติดเชื้อ และเชิญชวนประชาชน ผู้สูงอายุ ที่ฉีดวัคซีนเกิด 3 เดือนขึ้นไป ให้มาฉีดเข็มกระตุ้นได้ที่สถานบริการใกล้บ้าน

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube