ตำรวจกองปราบเตรียมขอศาลออกหมายจับ “สันติ” มือฆ่าสองศพผัวเมียท้องแฝดที่ไต้หวันวันนี้ เชื่อยังกบดานในไทย
พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม ( รองผบก.ป.) เปิดเผยว่าวันนี้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามจะรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลอาญารัชดาออกหมายจับ นายสันติ ศุภอภิรดีไพลิน อายุ 35 ปี ในฐานความผิดฆ่าผู้อื่น
หลังตำรวจกองปราบปรามได้มีการเชิญผู้ช่วยทูตตำรวจไตหวัน ประจำประเทศไทยมาให้ข้อมูลรวมทั้งทางการไต้หวันได้ส่งพยานหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์และเอกสารต่างๆเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ นายสันติ ก่อเหตุฆาตกรรมกรมสองสามีภรรยาชาวไทยรวมทั้งลูกแฝดในท้องเสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยมที่ไต้หวันก่อนหลบหนีกลับมาหาที่ประเทศไทย
โดยตำรวจได้สอบปากคำบิดาของผู้เสียชีวิตในฐานะเป็นผู้เสียหายตามกฎหมายประกอบโดยพนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับวันนี้ (14มิ.ย.65)
สำหรับการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่า นายสันติ ได้เดินทางออกจากประเทศไทยไปไต้หวัน เมื่อวันที่ 6 เมษายน 65 และเดินทางกลับมาประเทศไทยเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.65 ที่สนามบินสุวรรณภูมิ จากนั้นได้นั่งเครื่องต่อไปยังจังหวัดเชียงใหม่ ก่อนจะเช่ารถแท็กซี่เดินทางไปบ้านเกิดที่ อ.ไชยปราการ จว.เชียงใหม่ ก่อนครอบ ครัวจะขับรถยนต์มารับที่บ้านพัก ต่อจากนั้นก็พบว่ารถยนต์คันดังกล่าวได้ขับมุ่งหน้าไปยังจังหวัดอุตรดิตติ์ ต่อเนื่องและพิษณุโลก ซึ่งล่าสุดตำรวจยังไม่พบตัวนายสันติ แต่เชื่อมั่นว่านายสันติ ยังอยู่ในประเทศไทย
จากการตรวจสอบพบว่า นายสันติ ถือหนังสือเดินทางสองสัญชาติ คือสัญชาติไทยและไต้หวัน เนื่องจากบิดาของนายสันติ ในอดีตเคยเป็นทหารกองพล 93 (นายพล ก๊กมินตั๋ง) จึงทำให้นายสันติ ได้รับสิทธิ์จากบิดามานานกว่า 10 ปี ในการถือสัญชาติ พร้อมกันนี้ยืนยันว่าตำรวจไม่ได้ทำงานล่าช้า เพราะตั้งแต่ทราบเรื่องก็ได้มีการประสานงานกับทางการไต้หวันทันที
สำหรับเหตุฆาตกรรมครั้งนี้แม้ว่าจะเกิดนอกราชอาณาจักรไทย แต่เนื่องจากผู้ก่อเหตุและผู้ตายเป็นคนไทย รวมทั้งผู้ก่อเหตุได้หลบหนีเข้ามาประเทศไทย ทางตำรวจไทยจึงสามารถดำเนินคดีตามมาตรา 8 ป.อาญา โดยมีผู้เสียหายตามกฎหมาย คือ พ่อแม่ ภรรยาและบุตร เข้าร้องทุกข์เพื่อให้ลงโทษกับผู้กระทำความผิด โดยการดำเนินการจะดำเนินคดีได้เช่นเดียวกับเหตุที่เกิดในเมืองไทย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
