fbpx
Home
|
อาชญากรรม

“อัจฉริยะ” บุกจี้แพทยสภาฯ สอบจริยธรมแพทย์นิติเวชคดี “แตงโม”

Featured Image
อัจฉริยะ บุกแพทยสภา ยื่นหนังสือร้องสอบจริยธรรมแพทย์นิติเวชคดีแตงโม หลังลงความเห็นบาดแผลบนร่างเกิดจากใบพัด

วันนี้ (28 เม.ย. 65) ที่แพทย์สภากระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อ ศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภา ให้ตรวจสอบการให้ความเห็นและคำวินิจฉัยของแพทย์นิติเวชทุกคนและทุกสถาบันที่ให้ความเห็นต่อพนักงานสอบสวนในคดีนักแสดงสาว แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ ว่าเป็นผู้ประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม กรณีให้ความเห็นว่าบาดแผลที่ขาข้างขวา และบาดแผลอื่นๆถูกใบพัดเรือ

 

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า วันนี้ เดินทางมากล่าวโทษแพทย์นิติเวช ที่มีการวินิจฉัยเรื่องบาดแผลของแตงโม ฐานปิดจริยธรรมทางวิชาชีพเวชกรรม โดยสิ่งที่พบเห็นมีหลักฐานชัดเจนว่าบาดแผลครั้งแรกพบ 11 แผล ต่อมาเมื่อไปผ่าพิสูจที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์กลายเป็น 22 แผล จากนั้นวันที่แถลงข่าวสรุปสำนวนคดี เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ที่ผ่านมา กลับมีบาดแผลเพิ่มขึ้น 4 แผล ซึ่งไม่รู้ว่าเพิ่มขึ้นมาได้อย่างไร

 

โดยประเด็นดังกล่าวเป็นประเด็นสำคัญที่ทางแพทย์นิติเวชไม่ยอมบอกตั้งแต่แรก ว่าเหตุใดจึงพบบาดแผลเพียง 11 แผล ซึ่งเป็นบัตรแผลก้างปลา เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเกิดจากใบพัดเรือ

 

นอกจากนี้ ทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ยังมีการนำภาพบาดแผลของเว็บไซต์ต่างประเทศมาเปรียบเทียบกับบาดแผลของแตงโม เรียกว่าเป็นการแหกตาประชาชน เนื่องจากภาพบาดแผลดังกล่าว มีการยืนยันว่าเกิดจากมีด ซึ่งเมื่อนำมาอ้างอิงกับบาดแผลของแตงโมก็มีลักษณะคล้ายกันจึงไม่ใช่การโดนใบพัดเรือแน่นอน

 

สำหรับการแถลงข่าวสรุปสำนวนคดีครั้งล่าสุด ขอให้ประชาชนไปคิดกันดูว่าขนาดผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ยังแถลงข่าวโดยนำรูปมาแหกตาประชาชน รวมทั้งการเก็บพยานหลักฐานหลายครั้ง ชี้ชัดสอนให้เห็นแล้วว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งคณะไม่มีความชอบธรรม และไม่มีความยุติธรรมในการทำคดีดังกล่าวแล้ว

 

อย่างไรก็ตาม วันพรุ่งนี้ 13:00 น. จะเดินทางไปร้องกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เพื่อขอให้รับคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากส่อไปในเชิงเป็นการฆาตกรรมอำพราง โดยหากยังให้ทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เป็นผู้รับผิดชอบในคดีอยู่ มองว่าคดีดังกล่าวจะไม่ใช่การสืบสวนสอบสวนตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และไม่เป็นธรรม

 

หลังจากนี้จะดำเนินการเอาผิดมาตรา 157 และ 184 กับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และคณะแถลงข่าวแน่นอน โดยตอนนี้ยังรอคลิปวิดีโอทาง YouTube ที่ถูกลบออกไป โดยจะดำเนินการเอาผิดตั้งแต่ชั้นผู้บัญชาการ คณะทำงาน รวมไปถึงคณะแถลงข่าวทั้งหมด ในความผิด พรบ.คอมพิวเตอร์อีกด้วย

 

ทั้งนี้ หากมีการดำเนินการปิดปากตน ยืนยันว่ามีมาตรการในการตอบโต้อยู่แล้ว โดยตอนนี้มีประชาชนที่ให้กำลังใจ และมีทีมงานต่างๆร่วมช่วยแน่นอน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube