ตำรวจรู้เวลาตายของแตงโม ช่วงโรเบิร์ต ขับเรือ สอบปากคำกว่า 29 ปาก เร่งสอบอีก 8 ปาก ยังไม่แจ้งข้อหาใครเพิ่ม
พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 แถลงความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม นิดา กรณีตกเรือสปีทโบ๊ทจมแม่น้ำเจ้าพระยา เสียชีวิตเมื่อวันที่ 24 ก.พ.65 ขณะนั่งเรือเล่นกับเพื่อนอีก 5 คน ว่า ได้มีการสอบปากคำพยานที่อยู่ในเหตุการณ์และพยานแวดล้อมต่างๆแล้ว 29 ปาก และกำลังเชิญพยานแวดล้อมมาสอบปากคำอีก 8 ปาก และได้มีการตรวจและเก็บหลักฐานต่างๆตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุแล้วพร้อมกับยึดเรือลำดังกล่าวไว้เป็นของกลางในคดีอาญา จนกว่าคดีจะแล้วเสร็จ
ส่วนกรณีใบพัดเรือที่หล่นขณะนำเครื่องไปจำลองเหตุการณ์นั้นยืนยันว่าเป็นอุบัติเหตุและได้มีการงมขึ้นมาได้แล้ว ยืนยันไม่พบว่ามีการทำลายหลักฐานบนเรือแต่อย่างใด ส่วนกรณีการไปจำลองเหตุการณ์จริงโดยมีการนำผู้ที่อยู่บนเรือทั้ง5 คนไปจำลองเหตุการณ์ เป็นการนำชี้ประกอบคำให้การของแต่ละคน ซึ่งครบแล้ว ส่วนเมื่อวานได้นำเรือจริงไปทดสอบเพราะเรือมีระบบ GPS บันทึกข้อมูลเก่าไว้ จึงสามารถยืนยันว่าระบบใช้งานได้จริง วิ่งตามเส้นทางเดินเรือที่ปรากฏทั้งความเร็วและทิศทางตาม GPS หรือไม่
โดยการจำลองเหตุการณ์ไม่ได้มีการจำลองเรื่องการใส่และชุดแต่งกายของแตงโมแต่อย่างใด พร้อมส่งหลักฐานใบพัดเรือ หางเสือเรือที่อาจจะทำให้เกิดบาดแผลที่ขาของแตงโมไปตรวจพิสูจน์หมดแล้วซึ่งจะดูว่าบาดแผลเข้ากันได้หรือไม่แต่ยืนยันว่าแผลเกิดจากของมีคมแน่นอน
พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ระบุว่า ตำรวจทราบเวลาการเสียชีวิตของแตงโมแล้วที่แน่นอนแล้วคืออยู่ในช่วงเวลา 22.29 – 22.34 น.ของวันที่ 24 ก.พ. และช่วงที่แตงโม ตกจากเรือเป็นช่วงที่ นายโรเบิร์ตเป็นคนขับ ซึ่งได้มีการแจ้งข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต ส่วนพฤติกรรมพนักงานสอบสวนได้บรรยายในสำนวนไปแล้ว โดยขณะนี้ถึงแม้จะผ่านมาเกือบ 1 สัปดาห์แล้วตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง รวมทั้งเรื่องของ แซน ที่เป็นคนสุดท้ายอ้างว่าให้แตงโมจับขา ปัสสาวะก่อนตกเรือนั้นได้มีการสอบปากคำไปหมดแล้วเช่นกัน
ส่วนจะเข้าข่ายประมาทหรือไม่ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน แต่ยืนยันขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อหากับบุคคลใดเพิ่มเติม ยังคงมีผู้ถูกดำเนินคดีเพียง2คน สำหรับ โบ TK พนักงานสอบสวนเรียกมาสอบปากคำในฐานะพยานที่เป็นเพื่อนของแตงโมและกระติกว่าเหตุใดถึงมีการโทรหาเป็นคนแรกๆซึ่งยังตอบไม่ได้ต้องรอการสอบปากคำ
ส่วนกรณีมีบุคคลไม่หวังดีปล่อยข่าวว่ามอบเงิน 3 ล้านบาทให้ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรีเพื่อทำกิจการในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริงและการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นความผิดเพราะเป็นการใส่ร้ายทำให้องค์กรเสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งได้สั่งการให้ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี สืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยการกระทำครั้งนี้จะถือว่าเป็นการเตือนกับผู้ไม่หวังดีแต่หากพบว่ามีการกระทำความผิดอีกจะถูกดำเนินคดี
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
