ตร.แจ้ง2ข้อหาเจ้ามือพนันปั่นสามแปด หลอกผู้เสียหายในงานวัดสูญ3แสน
คนงานที่อยู่ระหว่างรื้อถอนเต็นท์ขายอาหารและพนันปั่นสามแปด ที่มีผู้เสียเล่นเสียเงินจำนวนมากในงานประจำปีของวัดคู้บอน ที่จัดอยู่รอบๆวัดคู้บอน เขตคันนายาว จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
โดยชาวบ้านในพื้นที่เล่าให้ฟังว่าช่วงที่มีการจัดงานวัดได้เข้ามาเดินซื้ออาหารและพบว่าจัดให้มีการเล่นการพนันกันจริง ซึ่งมีทั้งโปปั่น และปั่นสามแปด โดยจะมีหน้าม้ามาชักชวนประชาชนที่เดินผ่านไปมาเข้าร่วมเล่น แต่เนื่องจากตนทราบว่าที่ผ่านมามีคนเคยถูกหลอกเสียเงินจำนวนมากจึงไม่เข้าไปเล่นแต่อย่างใด ส่วนที่มีผู้เสียหายเป็นจำนวนเงินหลานแสนบาทนั้นก็ไม่ทราบในรายละเอียด
ขณะที่พระลูกวัดคู้บอน ให้ข้อมูลว่าทางวัดไม่เกี่ยวข้องกับการพนันที่เกิดขึ้น ตามที่ผู้เสียหายได้ไปแจ้งความไว้ที่ สน.คันนายาว แต่อย่างใด แต่ยอมรับว่าวัดได้มีการจัดงานวัดประจำปี โดยกิจกรรมอื่นๆจะมีขบวนคาราวานมาจัดแสดงสินค้าและมหรสพต่างๆ ติดต่อกับสำนักงานเขต เพื่อมาจัดกิจกรรมดังกล่าวในวัด โดยไม่รู้ว่ากิจกรรมต่างๆเหล่านั้นจะมีการพนันด้วยหรือไม่
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ทางวัดเสื่อมเสียชื่อเสียงจึงมอบหมายให้ไวยาวัจกร ประสานกับตำรวจ สน.คันนายาว เพื่อติดตามผู้จัดการและผู้เกี่ยวข้องมาสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ส่วนเจ้าอาวาสวัดคู้บอน แจ้งว่ามีกิจนิมนต์นอกวัด ไม่ทราบว่าจะกลับเข้ามากี่โมง
ล่าสุดพล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เปิดเผยความคืบหน้ากรณีมีแก๊งมิจฉาชีพลักลอบจัดให้มีการเล่นการพนันภายในงานประจำปีวัดคู้บอน ติดกับ สน.คันนายาว และมีการล่อลวงบังคับผู้เสียหายสาวรายหนึ่งให้เล่นการพนัน จนสูญเงินเกือบ 3 แสนบาท ที่มีการแจ้งความไปเมื่อช่วงสายวานนี้ว่า เบื้องต้นหลังตำรวจ สน.คันนายาวรับแจ้งความ ก็ได้มีการเชิญตัวผู้จัดงานวัดดังกล่าวมาสอบปากคำ จนทราบชื่อเจ้ามือพนันดังกล่าว ตำรวจจึงไปเชิญตัวเจ้ามือมาสอบปากคำแล้วเมื่อวานนี้
เบื้องต้น เจ้ามือพนันรับสารภาพว่าได้ลักลอบจัดให้มีการเล่นการพนันจริงตามที่ผู้เสียหายแจ้งความ และจะมีการไปเจรจาค่าเสียหายกับผู้เสียหาย เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สน.คันนายาวจึงแจ้งข้อหาลักลอบจัดให้มีการเล่นการพนัน และฉ้อโกง 2 ข้อหา ส่วนพฤติกรรมการกักขังผู้เสียหายด้วยการให้กลุ่มชายฉกรรจ์มายืนปิดล้อม จนทำให้ผู้เสียหายหนีออกมาจากวงพนันไม่ได้นั้น ยังต้องสอบสวนและหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม
ส่วนจะมีการแจ้งข้อหากับผู้จัดงานหรือไม่นั้น ยังคงต้องรอขยายผลเพิ่มเติมว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง รู้เห็น หรือเข้าข่ายความผิดใดเพิ่มเติมหรือไม่ หากพบว่าเข้าข่ายความผิด ก็จะดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายแน่นอน
ผู้สื่อข่าวมีข้อมูลจากทีมงานเพจสายไหมต้องรอดว่าขณะนี้ทางผู้เสียหายยังไม่ได้รับการติดต่อจากผู้ต้องหาเรื่องการเจรจาค่าเสียหาย หรือการคืนเงินแต่อย่างใด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
