ผตห.คดียาเสพติด พร้อมครอบครัวร้องกองปราบ เอาผิดชุดจับกุมในพื้นที่ปทุมธานี หลังอุ้มซ้อมทรมาน รีดทรัพย์ บังคับรับสารภาพ
วันนี้ (14 ก.พ.65) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมด้วยครอบครัวผู้ต้องหาคดียาเสพติด ที่ถูกจับกุมเมื่อปี 2550 เข้าแจ้งความกับตำรวจกองปราบปราม ให้ช่วยดำเนินคดี ชุดปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ประมาณ 8-12 นาย ใน 3 ข้อหา คือ ร่วมกันพยายามฆ่า, ร่วมกันปล้นทรัพย์ และร่วมกันพรากผู้เยาว์
หลังจาก 14 ปีที่แล้ว ชุดจับกลุ่มดังกล่าวได้บุกเข้ามาภายในบ้านและควบคุมตัวครอบครัวผู้ต้องหารวม 4 คน โดยกล่าวอ้างว่าภายในบ้านมียาเสพติด แต่เมื่อมีการตรวจค้นภายในบ้านก็ไม่พบของกลาง ตำรวจชุดดังกล่าวจึงควบคุมตัวปากคำขยายผลที่ ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี ก่อนจะแยกตัวตนเองและสามีไปแยกสอบ ที่เซฟเฮาส์แห่งหนึ่ง
โดยมีการใช้วิธีทรมานด้วยการช็อตไฟฟ้า รุมทำร้ายร่างกายและใช้ถุงพลาสติกครอบศีรษะ เพื่อให้รับสารภาพแล้วบอกที่ซ่อนยาเสพติด แต่ก็ไม่ได้รับสารภาพ จนกระทั่งชุดสืบสวนอีกชุดหนึ่ง พบของกลางยาเสพติดเกือบ 4,000 เม็ด ที่นอกรั้วบ้าน ตำรวจจึงนำตัวกลับมาที่บ้านและบังคับให้เซ็นรับทราบข้อกล่าวหา
ด้านสามี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว กล่าวว่า ได้มีการต่อสู้มาถึง 3 ศาล ซึ่งไม่ได้มีการยอมรับสารภาพแต่อย่างใด ก่อนจะพ้นโทษออกมา วันนี้จึงได้ตัดสินใจร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับหน่วยงานรัฐ แต่ก็ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจกองปราบปรามให้ช่วยเรื่องคดี ที่ถูกทำร้ายร่างกาย
ขณะที่นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ที่เดินทางมาแจ้งความในวันนี้ตั้งใจจะดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกาย พรากผู้เยาว์ ภรรยาและลูกของผู้ต้องหา จากการตรวจสอบพบว่าคดีดังกล่าวมีข้อพิรุธหลายอย่าง ตั้งแต่การเข้าตรวจค้นที่ไม่มีหมายคนและหมายจับ และคำให้การของผู้ต้องหาชาวลาวที่ซักทอดมายังหา ที่ยอมรับและเป็นเจ้าของยาเสพติด และมีการฟ้องซ้ำในชั้นอัยการทั้งที่ไม่ได้สอบปากคำเพิ่ม
และพบว่าในปีที่เกิดเหตุชุดจับกลุ่มดังกล่าวมีการจับกุมในลักษณะนี้หลายคดีแต่ก็ไม่เคยถูกดำเนินการทางวินัยหรืออาญา ซึ่งเบื้องต้น ทราบรายชื่อชุดจับกุมในคดีนี้เพื่อเตรียมเอาผิดย้อนหลังทั้งหมด
ทั้งนี้ นายอัจฉริยะ พร้อมด้วยครอบครัวผู้ต้องหาคดียาเสพติด ได้จำลองสถานการณ์จากการที่ถูกตำรวจชุดจับกุมดังกล่าวในลักษณะที่ใช้สายไฟช็อต ใช้ผ้าคาดตาและใช้ถุงขาวคลุมหัว ซ้อมจนสลบคาเท้า ให้สื่อมวลชนได้เห็นถึงพฤติกรรมดังกล่าวด้วย
ต่อมาทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลจาก พ.ต.ท.บุญยิ่ง บัณทิตไทย รอง ผกก.(สอบสวน)สถานีตำรวจภูธรธัญบุรี จ.ปทุมธานี ที่ถูกกล่าวอ้างถึง ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ถูกร้องเรียน ยืนยันตนเองและชุดจับกลุ่มในวันนั้นปฏิบัติตามหน้าที่อย่างถูกต้อง
ส่วนการแจ้งความกลับก็ถือเป็นสิทธิ์ ส่วนตัวก็จะสู้คดีต่อไป พร้อมย้ำชัดว่า ไม่มีการขู่บังคับยัดยาเสพติดให้ผู้ต้องหารวมถึงทำร้ายร่างกายและรีบทรัพย์ ตามที่ถูกกล่าวอ้างอย่างแน่นอน “ไร้สาระครับ ไร้สาระ เพราะศาลพิพากษาทุกอย่างจบหมดแล้ว ไม่เป็นไรครับ เขาอยากแจ้งเดี๋ยวเราค่อยไปว่าบนศาล ทำทุกอย่างถูกต้องตามข้อกฎหมาย” พ.ต.ท.บุญยิ่ง กล่าว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
