ตร. ทลายโรงงานลักลอบผลิตยาแก้ไอปลอม จ.ภูเก็ต มูลค่าของกลางกว่า 30 ล้านบาท
วันนี้ (22 พ.ย. 64) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อมคณะทำงานผู้เกี่ยวข้อง แถลงจับกุมผู้ต้องหาลักลอบผลิตยาแก้ไอปลอม “DIPHENYL EXPECTORANT SYRUP เลขทะเบียนตำรับยา 2A 58/60” มูลค่าของกลางกว่า 30 ล้านบาท ภายหลังยาเสพติด 4×100 แพร่ระบาดกับกลุ่มวัยรุ่นทางภาคใต้ของประเทศ มีการใช้ยาแก้ไอผิดวัตถุประสงค์ โดยนำมาผสมน้ำอัดลมหรือผสมกับยาบางชนิด ดื่มเพื่อความมึนเมาและเสพติด
ภายหลังรับแจ้งเบาะแสจากผู้ผลิตยาน้ำแก้ไอยี่ห้อ “ไดเฟ็นนิล” เลขทะเบียนตำรับยา 2A 58/60 ว่า พบการจำหน่ายยาดังกล่าวที่ไม่ได้มาจากสถานที่ผลิตของตน ตร. จึงเร่งสืบสวนกระบวนการลักลอบผลิตและจำหน่ายยาแก้ไอพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดภูเก็ต โดยวันที่ 28 ต.ค. 64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. เข้าตรวจค้นอาคารแห่งหนึ่งไม่ทราบเลขที่ พบยาแผนปัจจุบันต้องสงสัยว่าอาจผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ. ยา พ.ศ. 2510 จำนวน 6 รายการ ทราบว่าผู้กระทำความผิดสั่งซื้อยามาจากนายธีรวัฒน์ (สงวนนามสกุล) จึงสืบสวนจนทราบแน่ชัดว่า อาคารโกดัง ซอยลักกงษี ตำบลรัษฎา อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต เป็นสถานที่ผลิต ขาย และจัดเก็บยาปลอม
วันที่ 17 พ.ย. 64 เจ้าหน้าที่นำหมายค้นเข้าตรวจค้นสถานที่ดังกล่าว พบการผลิตยาน้ำแก้ไอไดเฟ็นนิล DIPHENYL EXPECTORANT SYRUP เลขทะเบียนตำรับยา 2A 58/60 จำนวน 21,250 ขวด วัตถุดิบในการผลิต จำนวน 16 รายการ ฉลากสติกเกอร์ ระบุ Diphenyl เลขทะเบียนตำรับยา 2A 58/60 140,000 ดวง ขวดเปล่าสีชา 7,237 ขวด ฝาขวดมีสัญลักษณ์รูปไก่สีแดง 80,000 ฝา กล่องเปล่าสีน้ำตาล 1,840 ใบ แผ่นกันกระแทก 1,200 ชิ้น และเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ในการผลิต 7 รายการ โดยเจ้าของโรงงานยอมรับว่า สถานที่ดังกล่าวยังไม่ได้ขออนุญาตผลิตยา และของกลางทั้งหมดเป็นของตนที่ผลิตยาแก้ไอเพื่อส่งขายจริง ตร. จึงจับกุมและตรวจยึดของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 ฐาน “ผลิตยาปลอม” “ขายยาปลอม” “ผลิตและขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต” ต้องระวางโทษสูงสุด จำคุกตั้งแต่ 3 ปี ถึงตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 10,000 – 50,000 บาท
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
