ฉีดฟิลเลอร์เติมเต็มล่องลึก ปรับรูปหน้า รู้ข้อควรระวัง และการเลือกคลินิก
ฟิลเลอร์ เป็นหัตถการด้านความงามที่ช่วยแก้ปัญหาโครงหน้าและผิวพรรณได้อย่างรวดเร็ว ตั้งแต่การเติมเต็มร่องลึก ปรับรูปหน้า ไปจนถึงช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด จึงไม่แปลกใจที่การฉีดฟิลเลอร์จะได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง
แต่อย่างไรก็ตาม แม้ฟิลเลอร์จะเป็นหัตถการที่ค่อนข้างปลอดภัยแต่ก็ยังมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ ซึ่งหนึ่งในปัญหาที่หลายคนกังวลและพบได้บ่อย คือ ฟิลเลอร์ฉีดแล้วไหล ซึ่งส่งผลต่อรูปหน้าและความมั่นใจในระยะยาว เราเลยจะพาทุกคนไปทำความเข้าใจตั้งแต่พื้นฐานว่าฟิลเลอร์คืออะไร ใช้แก้ปัญหาอะไรได้บ้าง ไปจนถึงการอธิบายภาวะฟิลเลอร์ไหล และแนวทางการแก้ไขอย่างถูกต้อง
ทำความรู้จัก ฟิลเลอร์ ช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง
ฟิลเลอร์ หรือสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) ที่ถูกออกแบบมาให้ปลอดภัยและสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ เมื่อแพทย์ทำการฉีดเข้าไปใต้ผิวหนังก็จะช่วยเติมเต็มร่องลึก เพิ่มความอิ่มฟู และปรับโครงหน้าให้สมดุลมากขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์ช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง

- เติมเต็มร่องลึก ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก
- ลดความหมองคล้ำและความโทรมบริเวณใต้ตา
- ปรับรูปคางให้ยาวและได้สัดส่วน
- เติมขมับให้ใบหน้าดูเต็ม ไม่ตอบ
- ปรับสันจมูกให้ดูมีมิติโดยไม่ต้องผ่าตัด
- ช่วยยกกระชับบางตำแหน่ง เช่น แก้มที่เริ่มหย่อนคล้อย
ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่ต้องออกแบบเฉพาะบุคคล ไม่สามารถฉีดเหมือนกันทุกคนได้
ฟิลเลอร์ มีความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนอะไรบ้าง
แม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์จะเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูง หากเราใช้ฟิลเลอร์แท้และทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ แต่ก็ยังอาจเกิดผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อนได้ในบางกรณี การที่เราเข้าใจลักษณะของภาวะแทรกซ้อนแต่ละแบบ จะช่วยให้สามารถแยกแยะอาการปกติออกจากอาการผิดปกติได้ โดย ฟิลเลอร์ อาจมีภาวะแทรกซ้อน ดังนี้
-
บวม ช้ำ ในช่วงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์
อาการบวมและช้ำหลังฉีดฟิลเลอร์ถือเป็นผลข้างเคียงที่พบได้ตามปกติ เนื่องจากการใช้เข็มหรือคานูลาสอดเข้าไปในชั้นผิว ทำให้หลอดเลือดฝอยเกิดการกระทบกระเทือน โดยลักษณะอาการที่พบได้ ได้แก่
- บวมเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด
- มีรอยช้ำหรือรอยเข็ม
- รู้สึกตึงผิวในช่วง 1-3 วันแรก
ซึ่งทั่วไปแล้วอาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นเองภายใน 3-7 วัน หากอาการบวมไม่รุนแรงขึ้น ไม่มีอาการปวดผิดปกติ หรือผิวไม่เปลี่ยนสีผิดปกติ จะไม่ถือเป็นภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย
-
ฟิลเลอร์เป็นก้อน
ฟิลเลอร์เป็นก้อน คือ ภาวะที่ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อนเล็ก ๆ ใต้ผิวหนัง ทำให้เมื่อคลำแล้วรู้สึกสะดุดหรือนูนไม่เรียบ ซึ่งสาเหตุที่พบบ่อย ได้แก่
- ฉีดฟิลเลอร์ตื้นเกินไป
- ใช้ฟิลเลอร์ที่เนื้อแข็งเกินสำหรับตำแหน่งนั้น
- เกิดพังผืดจากร่างกายตอบสนองต่อฟิลเลอร์
ลักษณะสำคัญของภาวะนี้ คือ ก้อนมักไม่เคลื่อนที่ไปมา และมักเห็นชัดในบางมุมหรือบางท่าทาง ซึ่งจะแตกต่างจากฟิลเลอร์ไหล โดยการรักษาภาวะนี้อาจใช้การนวดโดยแพทย์ หรือฉีดสลายฟิลเลอร์ในกรณีที่ก้อนไม่ยุบเอง
-
ฟิลเลอร์ไม่เรียบ
ฟิลเลอร์ไม่เรียบ เป็นภาวะที่ผิวบริเวณที่ฉีดดูเป็นคลื่น ไม่เนียนสม่ำเสมอ แม้จะไม่เป็นก้อนชัดเจนก็ตาม มักเกิดจาก
- การกระจายตัวของฟิลเลอร์ไม่สม่ำเสมอ
- ฉีดฟิลเลอร์ในชั้นผิวที่ไม่เหมาะสม
- ผิวบางมาก ทำให้เห็นขอบฟิลเลอร์ได้ง่าย
โดยภาวะนี้อาจสังเกตได้ชัดเมื่อแสงตกกระทบหรือในบางองศาใบหน้า หากเป็นไม่มากแพทย์จะแก้ไขด้วยการเกลี่ยเพิ่มเติม แต่หากฟิลเลอร์ไม่เรียบแบบชัดเจน อาจต้องพิจารณาสลายและฉีดฟิลเลอร์ใหม่อย่างเหมาะสม
-
ฟิลเลอร์ไหล
ฟิลเลอร์ไหล คือ ภาวะที่ฟิลเลอร์เคลื่อนตัวออกจากตำแหน่งที่ฉีดไว้เดิม อาจไหลขึ้น ไหลลง หรือกระจายออกด้านข้าง ทำให้รูปหน้าผิดรูปหรือไม่สมดุล สาเหตุที่พบได้ เช่น
- เลือกชนิดฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับตำแหน่ง
- เทคนิคการฉีดไม่ถูกต้อง
- ฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณมากเกินไป
- การกด นวด หรือดูแลตัวเองไม่เหมาะสมหลังฉีด
โดยลักษณะเด่นของภาวะนี้ คือ เมื่อกดผิวจะรู้สึกเหมือนมีของเหลวเคลื่อนที่ได้ ซึ่งควรได้รับการประเมินและรักษาโดยแพทย์เท่านั้น
-
รูปหน้าผิดสัดส่วนหลังฉีดฟิลเลอร์
โดยภาวะรูปหน้าผิดสัดส่วนนี้อาจเกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่สอดคล้องกับโครงสร้างใบหน้าของแต่ละบุคคลได้ เช่น
- เติมฟิลเลอร์มากเกินไปในบางตำแหน่ง
- เน้นจุดใดจุดหนึ่งมากเกิน ทำให้เสียสมดุลโดยรวม
- ฟิลเลอร์ไหลหรือไม่เรียบร่วมด้วย
ทำให้ผลที่ตามมา คือ ใบหน้าดูแข็ง ไม่เป็นธรรมชาติ หรือดูเปลี่ยนไปจากเดิมมาก ซึ่งมักต้องแก้ไขด้วยการปรับแผนการรักษาใหม่ หรือสลายฟิลเลอร์บางส่วนเพื่อให้รูปหน้ากลับมาสมดุล นั่นเอง
เลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์อย่างไรให้ปลอดภัย

สิ่งสำคัญที่สุดที่ช่วยลดความเสี่ยงของฉีดฟิลเลอร์แล้วไหลหรือแม้กระทั่งเป็นก้อน คือ การเลือกคลินิกเสริมความงามและแพทย์ที่เชี่ยวชาญเชื่อถือได้ รวมไปถึงการเลือกฟิลเลอร์ที่ใช้และเทคนิคการฉีดเลยด้วย ดังนี้
-
ต้องใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่าน อย. เท่านั้น
โดยผู้รับบริการควรขอดูกล่องฟิลเลอร์จริง ล็อตสินค้า วันหมดอายุ และให้แพทย์แกะกล่องต่อหน้าเพื่อความมั่นใจ
-
ฉีดกับแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์
โดยแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านผิวหนังหรือด้านปรับรูปหน้าเฉพาะจะเข้าใจชั้นผิว ชนิดฟิลเลอร์ที่เหมาะสม และเทคนิคฉีดที่ลดความเสี่ยงในการไหลได้ดีที่สุด
-
คลินิกมีมาตรฐานและอุปกรณ์ครบ
เช่น มีเครื่อง Ultrasound รองรับกรณีฟิลเลอร์ผิดตำแหน่ง มีห้องหัตถการสะอาด และมีทีมแพทย์พร้อมให้คำแนะนำหลังทำอย่างใกล้ชิด
-
ดูรีวิวจากเคสจริง
ควรเลือกรีวิวที่มีรูปก่อน-หลังจากเคสผู้เข้ารับบริการจริง ไม่ใช่ภาพจากอินเทอร์เน็ต และให้ดียิ่งขึ้นควรเป็นเคสที่มีปัญหาคล้ายกับตัวเราเองได้
-
มีการประเมินใบหน้าอย่างละเอียดก่อนฉีด
โดยแพทย์ที่ดีจะไม่ฉีดตามความต้องการของผู้เข้ารับบริการเพียงอย่างเดียว แต่จะประเมินความเหมาะสมโดยคำนึงความปลอดภัยก่อนเสมอ
สรุป
การฉีดฟิลเลอร์สามารถให้ผลลัพธ์ที่สวย ปลอดภัย และเป็นธรรมชาติได้ หากเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน ฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และดูแลตัวเองตามคำแนะนำอย่างเหมาะสม การที่เรารู้จักสังเกตอาการผิดปกติหลังฉีดฟิลเลอร์ตั้งแต่ระยะแรก จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดฟิลเลอร์ไหลหรือแม้กระทั่งภาวะอื่น ๆ และทำให้การฉีดฟิลเลอร์ยังคงเป็นหัตถการที่สร้างความมั่นใจในผลลัพธ์ได้ในระยะยาว





