Home
|
ไลฟ์สไตล์

ฉีดฟิลเลอร์เติมเต็มล่องลึก ปรับรูปหน้า รู้ข้อควรระวัง และการเลือกคลินิก

Featured Image

ฟิลเลอร์ เป็นหัตถการด้านความงามที่ช่วยแก้ปัญหาโครงหน้าและผิวพรรณได้อย่างรวดเร็ว ตั้งแต่การเติมเต็มร่องลึก ปรับรูปหน้า ไปจนถึงช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด จึงไม่แปลกใจที่การฉีดฟิลเลอร์จะได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง

แต่อย่างไรก็ตาม แม้ฟิลเลอร์จะเป็นหัตถการที่ค่อนข้างปลอดภัยแต่ก็ยังมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ ซึ่งหนึ่งในปัญหาที่หลายคนกังวลและพบได้บ่อย คือ ฟิลเลอร์ฉีดแล้วไหล ซึ่งส่งผลต่อรูปหน้าและความมั่นใจในระยะยาว เราเลยจะพาทุกคนไปทำความเข้าใจตั้งแต่พื้นฐานว่าฟิลเลอร์คืออะไร ใช้แก้ปัญหาอะไรได้บ้าง ไปจนถึงการอธิบายภาวะฟิลเลอร์ไหล และแนวทางการแก้ไขอย่างถูกต้อง

ทำความรู้จัก ฟิลเลอร์ ช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง

ฟิลเลอร์ หรือสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) ที่ถูกออกแบบมาให้ปลอดภัยและสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ เมื่อแพทย์ทำการฉีดเข้าไปใต้ผิวหนังก็จะช่วยเติมเต็มร่องลึก เพิ่มความอิ่มฟู และปรับโครงหน้าให้สมดุลมากขึ้น 

ฉีดฟิลเลอร์ช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง

  • เติมเต็มร่องลึก ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก
  • ลดความหมองคล้ำและความโทรมบริเวณใต้ตา
  • ปรับรูปคางให้ยาวและได้สัดส่วน
  • เติมขมับให้ใบหน้าดูเต็ม ไม่ตอบ
  • ปรับสันจมูกให้ดูมีมิติโดยไม่ต้องผ่าตัด
  • ช่วยยกกระชับบางตำแหน่ง เช่น แก้มที่เริ่มหย่อนคล้อย

ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่ต้องออกแบบเฉพาะบุคคล ไม่สามารถฉีดเหมือนกันทุกคนได้

ฟิลเลอร์ มีความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนอะไรบ้าง

แม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์จะเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูง หากเราใช้ฟิลเลอร์แท้และทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ แต่ก็ยังอาจเกิดผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อนได้ในบางกรณี การที่เราเข้าใจลักษณะของภาวะแทรกซ้อนแต่ละแบบ จะช่วยให้สามารถแยกแยะอาการปกติออกจากอาการผิดปกติได้ โดย ฟิลเลอร์ อาจมีภาวะแทรกซ้อน ดังนี้

  1. บวม ช้ำ ในช่วงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์

อาการบวมและช้ำหลังฉีดฟิลเลอร์ถือเป็นผลข้างเคียงที่พบได้ตามปกติ เนื่องจากการใช้เข็มหรือคานูลาสอดเข้าไปในชั้นผิว ทำให้หลอดเลือดฝอยเกิดการกระทบกระเทือน โดยลักษณะอาการที่พบได้ ได้แก่

  • บวมเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด
  • มีรอยช้ำหรือรอยเข็ม
  • รู้สึกตึงผิวในช่วง 1-3 วันแรก

ซึ่งทั่วไปแล้วอาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นเองภายใน 3-7 วัน หากอาการบวมไม่รุนแรงขึ้น ไม่มีอาการปวดผิดปกติ หรือผิวไม่เปลี่ยนสีผิดปกติ จะไม่ถือเป็นภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย

  1. ฟิลเลอร์เป็นก้อน

ฟิลเลอร์เป็นก้อน คือ ภาวะที่ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อนเล็ก ๆ ใต้ผิวหนัง ทำให้เมื่อคลำแล้วรู้สึกสะดุดหรือนูนไม่เรียบ ซึ่งสาเหตุที่พบบ่อย ได้แก่

  • ฉีดฟิลเลอร์ตื้นเกินไป
  • ใช้ฟิลเลอร์ที่เนื้อแข็งเกินสำหรับตำแหน่งนั้น
  • เกิดพังผืดจากร่างกายตอบสนองต่อฟิลเลอร์

ลักษณะสำคัญของภาวะนี้ คือ ก้อนมักไม่เคลื่อนที่ไปมา และมักเห็นชัดในบางมุมหรือบางท่าทาง ซึ่งจะแตกต่างจากฟิลเลอร์ไหล โดยการรักษาภาวะนี้อาจใช้การนวดโดยแพทย์ หรือฉีดสลายฟิลเลอร์ในกรณีที่ก้อนไม่ยุบเอง

  1. ฟิลเลอร์ไม่เรียบ

ฟิลเลอร์ไม่เรียบ เป็นภาวะที่ผิวบริเวณที่ฉีดดูเป็นคลื่น ไม่เนียนสม่ำเสมอ แม้จะไม่เป็นก้อนชัดเจนก็ตาม มักเกิดจาก

  • การกระจายตัวของฟิลเลอร์ไม่สม่ำเสมอ
  • ฉีดฟิลเลอร์ในชั้นผิวที่ไม่เหมาะสม
  • ผิวบางมาก ทำให้เห็นขอบฟิลเลอร์ได้ง่าย

โดยภาวะนี้อาจสังเกตได้ชัดเมื่อแสงตกกระทบหรือในบางองศาใบหน้า หากเป็นไม่มากแพทย์จะแก้ไขด้วยการเกลี่ยเพิ่มเติม แต่หากฟิลเลอร์ไม่เรียบแบบชัดเจน อาจต้องพิจารณาสลายและฉีดฟิลเลอร์ใหม่อย่างเหมาะสม

  1. ฟิลเลอร์ไหล

ฟิลเลอร์ไหล คือ ภาวะที่ฟิลเลอร์เคลื่อนตัวออกจากตำแหน่งที่ฉีดไว้เดิม อาจไหลขึ้น ไหลลง หรือกระจายออกด้านข้าง ทำให้รูปหน้าผิดรูปหรือไม่สมดุล สาเหตุที่พบได้ เช่น

  • เลือกชนิดฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับตำแหน่ง
  • เทคนิคการฉีดไม่ถูกต้อง
  • ฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณมากเกินไป
  • การกด นวด หรือดูแลตัวเองไม่เหมาะสมหลังฉีด

โดยลักษณะเด่นของภาวะนี้ คือ เมื่อกดผิวจะรู้สึกเหมือนมีของเหลวเคลื่อนที่ได้ ซึ่งควรได้รับการประเมินและรักษาโดยแพทย์เท่านั้น

  1. รูปหน้าผิดสัดส่วนหลังฉีดฟิลเลอร์

โดยภาวะรูปหน้าผิดสัดส่วนนี้อาจเกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่สอดคล้องกับโครงสร้างใบหน้าของแต่ละบุคคลได้ เช่น

  • เติมฟิลเลอร์มากเกินไปในบางตำแหน่ง
  • เน้นจุดใดจุดหนึ่งมากเกิน ทำให้เสียสมดุลโดยรวม
  • ฟิลเลอร์ไหลหรือไม่เรียบร่วมด้วย

ทำให้ผลที่ตามมา คือ ใบหน้าดูแข็ง ไม่เป็นธรรมชาติ หรือดูเปลี่ยนไปจากเดิมมาก ซึ่งมักต้องแก้ไขด้วยการปรับแผนการรักษาใหม่ หรือสลายฟิลเลอร์บางส่วนเพื่อให้รูปหน้ากลับมาสมดุล นั่นเอง

เลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์อย่างไรให้ปลอดภัย

สิ่งสำคัญที่สุดที่ช่วยลดความเสี่ยงของฉีดฟิลเลอร์แล้วไหลหรือแม้กระทั่งเป็นก้อน คือ การเลือกคลินิกเสริมความงามและแพทย์ที่เชี่ยวชาญเชื่อถือได้ รวมไปถึงการเลือกฟิลเลอร์ที่ใช้และเทคนิคการฉีดเลยด้วย ดังนี้

  1. ต้องใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่าน อย. เท่านั้น

โดยผู้รับบริการควรขอดูกล่องฟิลเลอร์จริง ล็อตสินค้า วันหมดอายุ และให้แพทย์แกะกล่องต่อหน้าเพื่อความมั่นใจ

  1. ฉีดกับแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์

โดยแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านผิวหนังหรือด้านปรับรูปหน้าเฉพาะจะเข้าใจชั้นผิว ชนิดฟิลเลอร์ที่เหมาะสม และเทคนิคฉีดที่ลดความเสี่ยงในการไหลได้ดีที่สุด

  1. คลินิกมีมาตรฐานและอุปกรณ์ครบ

เช่น มีเครื่อง Ultrasound รองรับกรณีฟิลเลอร์ผิดตำแหน่ง มีห้องหัตถการสะอาด และมีทีมแพทย์พร้อมให้คำแนะนำหลังทำอย่างใกล้ชิด

  1. ดูรีวิวจากเคสจริง

ควรเลือกรีวิวที่มีรูปก่อน-หลังจากเคสผู้เข้ารับบริการจริง ไม่ใช่ภาพจากอินเทอร์เน็ต และให้ดียิ่งขึ้นควรเป็นเคสที่มีปัญหาคล้ายกับตัวเราเองได้

  1. มีการประเมินใบหน้าอย่างละเอียดก่อนฉีด

โดยแพทย์ที่ดีจะไม่ฉีดตามความต้องการของผู้เข้ารับบริการเพียงอย่างเดียว แต่จะประเมินความเหมาะสมโดยคำนึงความปลอดภัยก่อนเสมอ

สรุป

การฉีดฟิลเลอร์สามารถให้ผลลัพธ์ที่สวย ปลอดภัย และเป็นธรรมชาติได้ หากเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน ฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และดูแลตัวเองตามคำแนะนำอย่างเหมาะสม การที่เรารู้จักสังเกตอาการผิดปกติหลังฉีดฟิลเลอร์ตั้งแต่ระยะแรก จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดฟิลเลอร์ไหลหรือแม้กระทั่งภาวะอื่น ๆ และทำให้การฉีดฟิลเลอร์ยังคงเป็นหัตถการที่สร้างความมั่นใจในผลลัพธ์ได้ในระยะยาว

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube