รู้ก่อนติดตั้ง! เลือกเครื่องกรองน้ำใช้ในบ้านอย่างไร ให้ได้น้ำสะอาด ดื่ม ใช้อย่างปลอดภัยมากขึ้น

ปัญหาน้ำไม่สะอาด เป็นปัญหาที่พบเจอได้บ่อยๆ ในครัวเรือน ส่งผลเสียต่อชุมชนและสุขภาพ โดยอาจปนเปื้อนสารเคมี แบคทีเรีย และโลหะหนักในน้ำได้ การใช้เครื่องกรองน้ำ จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้เราสามารถเข้าถึงน้ำสะอาด แถมยังคุ้มค่าในการใช้งานระยะยาว เพราะระบบของเครื่องกรองน้ำ เป็นเสมือน ด่านคัดกรอง ช่วยปกป้องสุขภาพ และยืดอายุการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องสัมผัสน้ำในบ้านได้  

ทั้งนี้ การจะเลือกเครื่องกรองน้ำมาติดตั้งไว้ใช้ในบ้านทั้งที การดูที่ราคาหรือขนาดอาจไม่เพียงพอ แต่ต้องเช็กคุณสมบัติ คุณภาพการกรองอย่างละเอียดถี่ถ้วนด้วย เพื่อสร้างความมั่นใจว่าเราจะได้รับน้ำสะอาด ปลอดภัยจากสารปนเปื้อน และคุ้มค่าการลงทุนมากที่สุด บทความนี้จะพาทุกคนไปเรียนรู้วิธีเช็กก่อนซื้อเครื่องกรองน้ำใช้ในบ้านอย่างปลอดภัย กรองน้ำสะอาด ดื่มได้ทุกวัน! 

1. ตรวจเช็กคุณภาพของแหล่งน้ำ

การเลือกเครื่องกรองน้ำใช้ในบ้านที่เหมาะสมที่สุดเริ่มต้นจากการวิเคราะห์คุณภาพของแหล่งน้ำที่ใช้งานอยู่ เนื่องจากน้ำแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกันอย่างมาก ทั้งในเรื่องของสี กลิ่น รสชาติ ความขุ่น และประเภทของสารปนเปื้อน ก่อนการตัดสินใจซื้อจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทราบว่าบ้านใช้น้ำจากแหล่งใด ไม่ว่าจะเป็น น้ำประปาที่อาจมีปัญหาเรื่องคลอรีนและตะกอน หรือน้ำบาดาล/น้ำกร่อยที่มักมีปัญหารุนแรงกว่า เช่น มีปริมาณหินปูนสูง (น้ำกระด้าง) เหล็ก สนิม และเชื้อโรค การทราบคุณภาพน้ำที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณเลือกระบบกรองที่ตรงจุด ตัวอย่างเช่น หากน้ำมีความกระด้างสูง หรือมีสารเคมีละลายน้ำในปริมาณมาก การเลือกใช้เครื่องกรองระบบ Reverse Osmosis (RO) หรือ Ultrafiltration (UF) ซึ่งสามารถกรองได้ละเอียดสูงจะช่วยกำจัดแร่ธาตุและสารเคมีที่ไม่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. เช็กประเภทของระบบกรอง

การเช็กประเภทของระบบกรองน้ำถือเป็นขั้นตอนสำคัญ เพราะแต่ละเทคโนโลยีถูกออกแบบมาด้วยคุณสมบัติและประสิทธิภาพในการกำจัดสิ่งปนเปื้อนที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งการเลือกควรสอดคล้องกับคุณภาพน้ำและวัตถุประสงค์ในการใช้งานเป็นหลัก สำหรับน้ำที่มีสารปนเปื้อนสูง โลหะหนัก หรือความเค็ม ระบบที่แนะนำคือ Reverse Osmosis (RO) สามารถกำจัดสิ่งเจือปน รวมถึงเชื้อโรคและสารเคมีอันตรายได้ดี แต่มีข้อจำกัดคือระบบนี้จะกรองแร่ธาตุที่มีประโยชน์ออกไปด้วย ในขณะที่ระบบอย่าง Ultrafiltration (UF) และ UV (Ultraviolet) จะเหมาะกับแหล่งน้ำที่ค่อนข้างสะอาดอยู่แล้ว โดยระบบ UF จะเน้นการกรองตะกอน อนุภาคขนาดเล็ก และเชื้อโรคบางชนิด ส่วนระบบ UV จะเน้นที่การฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสเป็นหลัก และระบบ NANO Filtration ซึ่งเป็นทางเลือกที่สามารถกรองสิ่งปนเปื้อนได้ละเอียด แต่ยังคงแร่ธาตุที่มีประโยชน์ไว้ได้ ดังนั้น การทำความเข้าใจความสามารถเฉพาะตัวของแต่ละระบบ จะช่วยให้สามารถลงทุนกับเครื่องกรองที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานน้ำในบ้านได้อย่างคุ้มค่า

3. จำนวนสมาชิกในบ้าน

จำนวนคนภายในบ้านเป็นอีกตัวกำหนดที่สำคัญในการเลือกขนาด ความจุ และอัตราการกรอง (Flow Rate) ของเครื่องกรองน้ำใช้ในบ้าน หากเลือกขนาดที่เล็กเกินไป อาจทำให้น้ำที่กรองได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน หรือทำให้เครื่องกรองทำงานหนักและเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควรจะเป็น สำหรับครอบครัวขนาดเล็ก (2-3 คน) อาจเลือกเครื่องกรองน้ำขนาดเล็กหรือกลางที่มีอัตราการกรองไม่สูงมาก เพื่อประหยัดพื้นที่ติดตั้งและลดค่าใช้จ่ายทั้งด้านราคาและพลังงาน ส่วนครอบครัวขนาดใหญ่ (4-6 คนขึ้นไป) หรือบ้านที่มีผู้สูงอายุและเด็ก ซึ่งมีการใช้น้ำอย่างต่อเนื่องตลอดวัน ควรเลือกเครื่องกรองน้ำขนาดใหญ่ (Large Capacity) หรือระบบที่มีอัตราการกรองน้ำสูง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะมีน้ำสะอาดบริสุทธิ์พร้อมใช้สำหรับการอุปโภคและบริโภคอย่างเพียงพอ และสามารถรองรับการใช้งานพร้อมกันหลายจุดได้อย่างไม่ติดขัดตลอดทั้งวัน

4. ราคาและค่าบำรุงรักษา

นอกเหนือจากราคาของเครื่องกรองน้ำแล้ว สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือ การประเมินค่าใช้จ่ายรวมในระยะยาว หรือค่าบำรุงรักษา ซึ่งรวมถึงค่าไส้กรองที่ต้องเปลี่ยนตามรอบระยะเวลา ค่าอะไหล่ หรือสารกรองที่สึกหรอ และค่าแรงบริการของช่างเทคนิค การซื้อเครื่องกรองน้ำที่มีราคาเริ่มต้นต่ำมาก แต่อาจมีราคาไส้กรองทดแทนที่สูง หรือหาซื้อยากในภายหลัง อาจกลายเป็นการสร้างภาระค่าใช้จ่ายที่สูงเกินความจำเป็นในระยะยาวได้ โดยอาจพิจารณาถึงราคาเครื่องที่เหมาะสมกับงบประมาณ ควบคู่ไปกับความง่ายและความประหยัดในการดูแลรักษา เมื่อรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดในรอบปีแล้ว ควรอยู่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการได้ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะมีน้ำสะอาดปลอดภัยใช้บริโภคและอุปโภคได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่สร้างภาระทางการเงินที่ไม่คาดคิดในอนาคต

5. ขนาดและพื้นที่ติดตั้ง

ขนาดของเครื่องกรอง ควรเลือกให้มีความเหมาะสมและลงตัวกับพื้นที่ติดตั้งภายในบ้าน เครื่องกรองที่ดีไม่ควรใหญ่หรือเล็กจนเกินไปจนทำให้เกิดปัญหาในการจัดวางหรือการใช้งานจริง การวางแผนตำแหน่งติดตั้งล่วงหน้าจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เช่น หากคุณมีพื้นที่จำกัดในห้องครัว อาจเลือกเครื่องกรองแบบติดตั้งใต้ซิงก์ ที่ช่วยประหยัดพื้นที่บนเคาน์เตอร์ หรือหากเน้นความสวยงามและใช้งานง่ายในบริเวณเตรียมอาหาร อาจเลือกแบบวางบนเคาน์เตอร์ที่มีดีไซน์ทันสมัย นอกจากนี้ ตำแหน่งที่เลือกควรเป็นบริเวณที่สามารถเข้าถึงได้สะดวกทั้งสำหรับการเชื่อมต่อระบบประปา การติดตั้งเดินท่อระบายน้ำ และที่สำคัญที่สุดคือความสะดวกในการเข้าถึงเมื่อต้องทำการบำรุงรักษาหรือเปลี่ยนไส้กรองตามรอบ เพื่อให้การใช้งานในระยะยาวเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่ยุ่งยากนั่นเอง 

 

ก่อนการเลือกเครื่องกรองน้ำใช้ในบ้าน ควรเริ่มจากคุณภาพของแหล่งน้ำที่อยู่อาศัย เลือกระบบกรองให้ถูกประเภท โดยเลือกให้เหมาะกับจำนวนคนในบ้าน ขนาดและตำแหน่งที่ติดตั้ง รวมถึงราคา ค่าดูแลรักษา เพื่อให้ได้เครื่องกรองน้ำใช้ในบ้านอย่างคุ้มค่า กรองน้ำสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากที่สุด สำหรับครัวเรือนไหนที่ กำลังมองหาเครื่องกรองน้ำมีคุณภาพ เหมาะสำหรับใช้ในบ้าน Safety Drink ศูนย์รวมเครื่องกรองน้ำและอุปกรณ์ระบบน้ำครบวงจร ยินดีให้บริการ เราจำหน่ายเครื่องกรองน้ำหลากหลายประเภท ครอบคลุมทุกการใช้งานของลูกค้าทุกระดับ ไม่ว่าจะกรองเพื่อใช้ดื่ม หรือกรองสิ่งสกปรกน้ำประปา-บาดาลก่อนเข้าบ้าน รวมไปถึงทีมช่างติดตั้งมืออาชีพที่วางใจได้