2 ตุลาคม วันไม่ใช้ความรุนแรงสากล
2 ตุลาคม วันไม่ใช้ความรุนแรงสากล
ปัญหาความรุนแรงในสังคม เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่ยังคงมีให้พบเห็นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการทำร้ายผู้อื่นด้วยคำพูดที่รุนแรง ด่าทอ เสียดสี หรือถึงขั้นใช้กำลังทำร้ายร่างกาย
เนื่องในโอกาสวันที่ 2 ตุลาคม วันไม่ใช้ความรุนแรงสากล จึงอยากจะพามาทบทวนถึงปัญหาความรุนแรง เพื่อให้ตระหนักถึงข้อเสียของการใช้ความรุนแรง และหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงเพื่อแก้ปัญหา
วันไม่ใช้ความรุนแรง คืออะไร
วันไม่ใช้ความรุนแรง (International Day of Non-Violence) เป็นวันที่ถูกกำหนดขึ้นมา เนื่องในวันคล้ายวันเกิดของ “มหาตมะ คานธี” ผู้นำการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องอิสรภาพของชาวอินเดีย และเป็นผู้ที่ริเริ่มปรัชญาและหลักการไม่ใช้ความรุนแรง หรือสันติอหิงสา
องค์การสหประชาชาติ จึงได้กำหนดวันที่ 2 ตุลาคม เป็นวันไม่ใช้ความรุนแรง เพื่อให้ผู้คนทั่วโลกตระหนักถึงการไม่ใช้ความรุนแรง และทำให้สังคมมีความสงบสุขมากขึ้น
วันไม่ใช้ความรุนแรง สำคัญยังไง
ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัญหาความรุนแรงเป็นปัญหาที่มีมาอย่างยาวนาน และยากที่จะแก้ไขให้หมดไป โลกยังเต็มไปด้วยสงคราม ความขัดแย้ง และการใช้กำลัง วันไม่ใช้ความรุนแรง จึงช่วยให้ผู้คนตระหนักถึงปัญหาความรุนแรงในสังคม รู้จักอดทนอดกลั้นมากขึ้น ใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ และเข้าใจหลักการไม่ใช้ความรุนแรงอย่างลึกซึ้ง
แนวทางการหลีกเลี่ยงความรุนแรงในชีวิตประจำวัน
แม้ว่าความรุนแรงจะเป็นปัญหาที่แก้ได้ยาก แต่เราสามารถลดความรุนแรงได้ด้วยการสื่อสาร ประนีประนอม และให้อภัย โดยอาจจะเริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น
- ลดการใช้ถ้อยคำรุนแรง หรือทำร้ายจิตใจ
- หลีกเลี่ยงการแก้ปัญหา โดยการใช้อารมณ์
- เมื่อเกิดความขัดแย้ง ให้ใช้สันติวิธีในการแก้ไข
- รู้จักเคารพผู้อื่น
- ยอมรับความเห็นต่าง
การเปลี่ยนพฤติกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ อาจไม่สามารถหยุดความรุนแรงได้ทั้งหมด แต่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างสังคมที่สงบสุขมากขึ้น
ปัญหาความรุนแรง เป็นปัญหาที่มีมาอย่างยาวนาน และยากจะแก้ไข 2 ตุลาคม วันไม่ใช้ความรุนแรงสากล จึงเป็นวันที่ทำให้ผู้คนตระหนักถึงปัญหาความรุนแรงมากขึ้น กลับมาทบทวนพฤติกรรมของตัวเอง เพราะในบางครั้งเราอาจใช้คำพูดรุนแรงทำร้ายผู้อื่นโดยไม่รู้ตัวก็ได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews






