บุฟเฟต์ vs อะลาคาร์ท หมัดต่อหมัด แบบไหนจ่ายแล้วคุ้มกว่ากัน

เคยยืนอยู่หน้าร้านอาหารแล้วเกิดอาการรักพี่เสียดายน้องไหม? ทางหนึ่งคือบุฟเฟต์ไลน์อาหารสุดอลังการที่กวักมือเรียก ส่วนอีกทางก็คือร้านอะลาคาร์ทเจ้าประจำที่มีเมนูโปรดรออยู่ การตัดสินใจครั้งนี้ช่างยากเย็นเสียเหลือเกิน โดยเฉพาะเวลาที่ไปเดินเลือกกินมื้อสำคัญ เพราะตามห้าง หรือคอมมูนิตี้มอลล์หลายแห่งมีทั้งร้านอาหารอะลาคาร์ทและบุฟเฟต์ให้เลือกเพียบ คำถามสำคัญจึงเกิดขึ้นในใจว่า “ถ้าจ่ายในราคาพอ ๆ กัน แบบไหนจะคุ้มค่ากว่า” วันนี้เราจะมาขึ้นสังเวียนเปรียบเทียบกันหมัดต่อหมัด ให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นในมื้อต่อไป

 รู้จัก บุฟเฟต์ (Buffet) และ อะลาคาร์ท (A La Carte)

ก่อนจะไปตัดสินว่าใครคือผู้ชนะ เรามาทำความรู้จักผู้เข้าแข่งขันทั้งสองสไตล์ให้ดีขึ้นกันก่อน

 บุฟเฟต์ (Buffet) จ่ายครั้งเดียว ตักไม่อั้น เน้นความหลากหลาย

บุฟเฟต์ คือ รูปแบบการกินที่จ่ายเงินในราคาเหมาจ่ายเพียงครั้งเดียว (Fixed Price) แล้วสามารถเลือกตักอาหารที่มีให้บริการได้อย่างอิสระและไม่จำกัดปริมาณภายในเวลาที่กำหนด จุดเด่นที่แข็งแกร่งที่สุดของบุฟเฟต์คือ “ความหลากหลาย” คุณสามารถเดินเลือกชิมอาหารได้ตั้งแต่ของคาว ของหวาน ซีฟู้ด ซูชิ ไปจนถึงสเต็ก รวมอยู่ในที่เดียว เหมาะสำหรับคนที่อยากลองชิมอาหารหลาย ๆ อย่าง และเป็นสายกินจุที่เน้นความคุ้มค่าด้านปริมาณเป็นหลัก

 อะลาคาร์ท (À la Carte) เลือกสั่งทีละจาน ทำสดใหม่จานต่อจาน

อะลาคาร์ท เป็นคำภาษาฝรั่งเศสที่แปลว่า “การสั่งอาหารจากเมนูในร้าน” ซึ่งก็คือรูปแบบการสั่งอาหารแบบที่เราคุ้นเคยกันที่สุด คุณเลือกสั่งอาหารจากเมนูเป็นจาน ๆ และจ่ายเงินตามราคาของแต่ละรายการที่สั่งไป จุดแข็งของอะลาคาร์ทคือ “ความสดใหม่” และ “ความเฉพาะเจาะจง” เพราะอาหารจะถูกปรุงขึ้นมาสดใหม่สำหรับคุณโดยเฉพาะ ทำให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด และคุณจะได้กินแต่สิ่งที่อยากกินจริง ๆ โดยไม่ต้องจ่ายเงินเผื่อสำหรับเมนูอื่นที่ไม่สนใจ

 เปรียบเทียบหมัดต่อหมัด บุฟเฟต์ vs อะลาคาร์ท

เมื่อรู้จักทั้งคู่ดีแล้ว มาดูกันว่าในแต่ละยก ใครจะมีคะแนนนำ

 ด้านราคา

หากคุณเป็นคนกินจุ กินได้เยอะ บุฟเฟต์มักจะดูคุ้มค่ากว่าเสมอ เพราะคุณจ่ายราคาเดียวแต่กินได้ไม่อั้น ในทางกลับกัน หากคุณเป็นคนกินน้อย การเลือกสั่งอะลาคาร์ท 1-2 จานที่อยากกินจริง ๆ อาจจ่ายถูกกว่าการไปกินบุฟเฟต์ราคาหลายร้อยบาทอย่างเห็นได้ชัด

 ด้านปริมาณและความหลากหลาย

ยกนี้บุฟเฟต์ชนะน็อกแบบไม่ต้องสงสัย ด้วยไลน์อาหารที่มีให้เลือกตั้งแต่สิบไปจนถึงร้อยเมนู ทำให้คุณสามารถเดินชิมได้แทบทุกอย่างที่มีในร้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่อะลาคาร์ทให้ไม่ได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าอะลาคาร์ทให้ความหลากหลายในเชิงลึกของเมนูนั้น ๆ ได้ดีกว่า เช่น ร้านสปาเกตตี ก็จะมีเส้นและซอสให้เลือกหลากหลายกว่าในไลน์บุฟเฟต์

 ด้านคุณภาพและรสชาติ

โดยทั่วไปแล้ว อะลาคาร์ทมักจะคว้าชัยในยกนี้ไปครอง เพราะการปรุงอาหารแบบจานต่อจานทำให้เชฟสามารถใส่ใจในรายละเอียดและควบคุมคุณภาพได้ดีกว่า อาหารจะเสิร์ฟร้อน ๆ สดใหม่จากเตา ต่างจากบุฟเฟต์ที่อาหารส่วนใหญ่มักจะทำไว้ในปริมาณมากและวางไว้ในถาดอุ่น ซึ่งอาจทำให้รสชาติและคุณภาพดรอปลงไปบ้าง

 ด้านเวลาและบรรยากาศ

อะลาคาร์ทมอบประสบการณ์ที่ผ่อนคลายมากกว่า คุณสามารถนั่งคุยและละเลียดกับอาหารได้เรื่อย ๆ โดยไม่มีแรงกดดันเรื่องเวลา จึงเหมาะกับการออกเดต หรือการคุยธุรกิจ ในขณะที่บุฟเฟต์ส่วนใหญ่มักมีเวลาจำกัด เช่น 90 หรือ 120 นาที ทำให้บรรยากาศค่อนข้างเร่งรีบและวุ่นวายกว่า เพราะทุกคนต้องเดินไปตักอาหาร

 แล้วเราเหมาะกับแบบไหน

• หิวแค่ไหน? ถ้าหิวโซมาทั้งวัน บุฟเฟต์คือคำตอบ แต่ถ้าแค่อยากกินมื้ออร่อย ๆ อะลาคาร์ทก็เพียงพอ
• ไปกับใคร? หากไปสังสรรค์กับแก๊งเพื่อนที่ความชอบหลากหลาย บุฟเฟต์จะตอบโจทย์ทุกคนได้ดี แต่ถ้าไปเดตที่ต้องการบรรยากาศดี ๆ และบทสนทนาที่ลื่นไหล อะลาคาร์ทคือตัวเลือกที่ดีกว่า
• ให้ความสำคัญกับอะไร? ถ้าคำตอบคือ “ปริมาณและความหลากหลาย” ให้เดินเข้าไลน์บุฟเฟต์ แต่ถ้าคำตอบคือ “คุณภาพและรสชาติที่สมบูรณ์แบบ” ให้เปิดเมนูอะลาคาร์ทได้เลย

 สรุปบทความ

สุดท้ายแล้ว ไม่มีคำตอบตายตัวว่า บุฟเฟต์หรืออะลาคาร์ทคุ้มกว่ากัน เพราะความคุ้มค่าขึ้นอยู่กับความต้องการในแต่ละวัน บุฟเฟต์คือแชมป์ด้านปริมาณและความหลากหลาย เหมาะกับวันเฉลิมฉลองและการสังสรรค์ ในขณะที่อะลาคาร์ทคือแชมป์ด้านความสดใหม่และความผ่อนคลาย กินได้ไม่จำกัดเวลา เหมาะกับวันที่อยากให้รางวัลตัวเองด้วยมื้ออาหารสุดพิเศษ

สำหรับคนที่กำลังมองหาพิกัดความอร่อยที่รวมทั้งร้านอาหารบุฟเฟ่ต์และอะลาคาร์ทให้เลือกหลากหลาย สามารถแวะมาที่ The Nine Center Rama 9 คอมมูนิตี้มอลล์ย่านพระราม 9 ที่นอกจากจะเดินทางสะดวก ตั้งอยู่ใจกลางเมืองแล้ว ยังมีร้านอาหารให้เลือกมากมาย พร้อมพื้นที่ Pet Friendly ที่ให้คุณพาสัตว์เลี้ยงแสนรักมาเดินเล่นได้อีกด้วย