10 กันยายน วันป้องกันการฆ่าตัวตาย คือวันอะไร ทำไมถึงสำคัญ
วันป้องกันการฆ่าตัวตาย คือวันอะไร
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบัน ผู้คนในสังคมต่างก็มีปัญหาและความเครียดที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน หรือการทำงาน และเมื่อปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข จุดจบสุดท้ายจึงนำไปสู่การ “ฆ่าตัวตาย”
เนื่องในโอกาสวันที่ 10 กันยายน ซึ่งเป็นวันป้องกันการฆ่าตัวตายโลก INN จึงอยากจะพามาทำความเข้าใจปัญหานี้ให้มากขึ้น ไม่มองว่าเป็นเรื่องไกลตัวอีกต่อไป และทำให้คนที่กำลังเผชิญกับปัญหารู้ว่า “คุณไม่ได้อยู่คนเดียว”
10 กันยายน วันป้องกันการฆ่าตัวตาย
10 กันยายน วันป้องกันการฆ่าตัวตาย (World Suicide Prevention Day) คือวันที่ถูกกำหนดขึ้นมาเพื่อรณรงค์ให้ผู้คนในสังคมตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาการฆ่าตัวตาย และสนับสนุนการเปิดใจพูดคุย เพื่อป้องกันการฆ่าตัวตาย โดยประกาศออกมาอย่างเป็นทางการครั้งแรกในปี 2003
เพราะถึงแม้ว่าการฆ่าตัวตาย จะเป็นปัญหาที่ก่อให้เกิดความสูญเสียต่อครอบครัว สังคม และประเทศชาติอย่างมาก แต่ปัญหานี้กลับไม่ถูกพูดถึงอย่างจริงจัง เนื่องจากถือเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน จึงทำให้หลายคนไม่กล้าเปิดใจที่จะพูดคุยกับคนรอบตัว และเลือกจะเก็บความเครียดเอาไว้คนเดียว
ดังนั้น วันป้องกันการฆ่าตัวตายจึงมีเป้าหมายเพื่อทำลายกำแพงแห่งความเงียบ ช่วยให้ผู้ที่กำลังเผชิญปัญหากล้าขอความช่วยเหลือ และได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม

ปัญหาการฆ่าตัวตายในสังคมไทย
จากรายงานสุขภาพคนไทย ปี 2025 โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่าคนไทยกว่า 13.4 ล้านคน เคยประสบปัญหาสุขภาพจิตหรือโรคจิตเวช
และในจำนวนดังกล่าว มี 30,000 คนต่อปีที่พยายามฆ่าตัวตาย ซึ่ง 5,000 ราย สามารถฆ่าตัวตายสำเร็จ ปัจจัยที่ทำให้ฆ่าตัวตายส่วนใหญ่มาจากโรคซึมเศร้า โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กอายุ 8-24 ปี และผู้สูงอายุ เป็นกลุ่มเปราะบางที่มีความเสี่ยงสูง แสดงให้เห็นว่าปัญหาการฆ่าตัวตายควรได้รับความสนใจ และแก้ไขอย่างจริงจัง
สัญญาณเตือนว่าคนใกล้ตัวอาจมีความเสี่ยงฆ่าตัวตาย
สัญญาณเตือนความเสี่ยงฆ่าตัวตายจะช่วยให้เราสังเกตคนรอบตัวได้ แม้ว่าการมีสัญญาณเหล่านี้ไม่ได้หมายความว่าคน ๆ นั้นจะฆ่าตัวตายแน่นอน แต่ก็เป็นสัญญาณว่าเขากำลังเผชิญความเครียดหรือความทุกข์ใจ และอาจต้องการใครสักคนให้พูดคุยหรือรับฟัง
- มีอาการซึมเศร้า ไม่สนใจสิ่งรอบตัว
- ประสบปัญหาชีวิตอย่างรุนแรง
- พูด หรือเขียนเกี่ยวกับเรื่องความตาย
- แยกตัวจากกลุ่มเพื่อน และคนในครอบครัว
- พูดถึงความท้อแท้ สิ้นหวังบ่อยครั้ง
- ชอบพูดว่าอยากตาย ทุกข์ใจ หรือตนเองเป็นปัญหาแก่ผู้อื่น หรือพูดเป็นนัย เช่น ทนไม่ไหวแล้ว, เดี๋ยวปัญหาก็จบแล้ว
- นอนไม่หลับเป็นเวลานาน รวมถึงมีการใช้สุรา หรือสารเสพติด
- อารมณ์แปรปรวน เช่น จากซึมเศร้าหรือหงุดหงิด กลับสบายใจขึ้นอย่างไม่มีสาเหตุ
- มีการสั่งเสีย พูดลา หรือมอบของให้ผู้อื่น
- เคยพยายามฆ่าตัวตายมาแล้ว

ช่องทางขอความช่วยเหลือการฆ่าตัวตาย
สำหรับใครที่สังเกตเห็นสัญญาณเตือนว่าคนรอบตัวมีความเสี่ยงฆ่าตัวตาย จะต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิด และพูดคุยให้กำลังใจเพื่อคลายความเครียดและความกังวลอย่างสม่ำเสมอ หรือถ้าหากมีความกังวล ต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม สามารถปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตได้ที่สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือทาง Facebook Page 1323 ปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต
ปัญหาการฆ่าตัวตาย เป็นปัญหาที่สังคมควรให้ความสำคัญ ไม่ควรมองว่าสัญญาณเตือนการฆ่าตัวตายเป็นเพียงการล้อเล่นหรือเรียกร้องความสนใจ แต่ควรมองว่าเป็นสัญญาณขอความช่วยเหลือที่ต้องได้รับการดูแลอย่างเร่งด่วน การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน การสื่อสารที่ดี เอาใจใส่ซึ่งกันและกัน จะช่วยป้องกันและลดปัญหาการฆ่าตัวตายในสังคมได้

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
มูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





