Home
|
ไลฟ์สไตล์

สืบ นาคะเสถียร เรื่องราวการเสียสละและแรงบันดาลใจที่ไม่มีวันเลือนหาย

Featured Image

สืบ นาคะเสถียร นักอนุรักษ์ผู้ปกป้องผืนป่าไทย

          ถ้าพูดถึงชื่อ “สืบ นาคะเสถียร” เชื่อว่าหลายคนคงจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว ในฐานะของนักอนุรักษ์ผู้เสียสละชีวิตเพื่อปกป้องสัตว์และผืนป่า รวมถึงสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นหลัง ในวันนี้ INN จึงอยากจะมาย้อนรำลึกถึงสิ่งที่สืบ นาคะเสถียรทิ้งเอาไว้ ทั้งในเรื่องของการอนุรักษ์ การเสียสละ และความรับผิดชอบ ที่ถูกปลูกฝังเอาไว้ในความทรงจำของผู้คนในสังคมไทยอย่างยาวนาน

 

ประวัติสืบ นาคะเสถียร

          สืบ นาคะเสถียร เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม 2492 ที่จังหวัดปราจีนบุรี ในช่วงวัยเด็ก สืบมีนิสัยที่เป็นจุดเด่นคือเวลาทำอะไรจะตั้งใจทำให้ออกมาดีที่สุด จึงทำให้เขามีโอกาสเป็นนักวาดภาพฝีมือดีของโรงเรียน และเป็นนักเป่าทรัมเป็ตมือหนึ่ง 

          ในด้านการศึกษา ในช่วงแรกสืบ นาคะเสถียร ตั้งใจจะเรียนสถาปัตยกรรม เพื่อต่อยอดความสามารถด้านศิลปะของตัวเอง แต่กลับสอบได้คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รุ่นที่ 35 และมีโอกาสศึกษาต่อปริญญาโท สาขาวิชาวนวัฒนวิทยา คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

อีกทั้งยังได้รับทุนการศึกษาจาก British Council ไปเรียนปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในสาขาอนุรักษ์วิทยา จึงทำให้เขาได้เรียนรู้การเป็นนักอนุรักษ์อย่างเต็มตัว

 

          หลังจากจบการศึกษา สืบ นาคะเสถียร เดินทางกลับมารับราชการที่ประเทศไทย โดยรับตำแหน่งหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบางพระ และมีเหตุการณ์สร้างชื่อมากมาย เช่น คัดค้านการก่อสร้างเขื่อนน้ำโจน บริเวณเทือกเขาตะนาวศรี, เป็นแกนนำในการอพยพสัตว์ป่าในช่วงที่มีเขื่อนเชี่ยวหลานในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และ คัดค้านบริษัทไม้อัดไทยที่จะขอสัมปทานทำไม้ในป่าห้วยขาแข้ง

          แม้ว่าจะมีโอกาสได้รับทุนเรียนต่อปริญญาเอก ในประเทศอังกฤษ แต่สืบ นาคะเสถียรกลับเลือกที่จะรับตำแหน่งหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ซึ่งที่นั่นเขาได้พบปัญหาต่าง ๆ ในพื้นที่ ซึ่งกำลังลุกลามขึ้นเรื่อย ๆ แต่กลับไม่ได้รับความสนใจที่จะแก้ไขเลยแม้แต่น้อย

 

มรดกและสิ่งที่สืบ นาคะเสถียรทิ้งไว้

          ในวันที่ 1 กันยายน 2533 สืบ นาคะเสถียร ได้กระทำการอัตวินิบาตกรรม เพื่อเรียกร้องให้สังคมและราชการหันมาสนใจแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในห้วยขาแข้งอย่างจริงจัง แม้ว่ากระสุนปืนนัดนั้นจะทำให้ชีวิตของสืบต้องจบลง แต่สิ่งที่เขาทิ้งไว้ คือมรดกที่ไม่อาจประเมินมูลค่าได้

  • เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก
  • มีการก่อตั้งมูลนิธิสืบ นาคะเสถียร เพื่อทำงานด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่าและผืนป่าอย่างต่อเนื่อง
  • บทเรียนเกี่ยวกับการเสียสละ และความรับผิดชอบ เพราะสืบ นาคะเสถียร ไม่เมินเฉยต่อปัญหาที่เกิดขึ้นในห้วยขาแข้ง และพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อให้ปัญหาได้รับการแก้ไข แม้จะต้องแลกมาด้วยชีวิตของตัวเขาเอง
  • การสานต่อเจตนารมณ์การอนุรักษ์​ และการมีส่วนร่วมกับสังคม ซึ่งทำให้สังคมเกิดการตื่นตัวในเรื่องปัญหาการล่าสัตว์ และตัดไม้ทำลายป่า ตั้งแต่วันที่เขาจากไป จนถึงปัจจุบัน

 

“ผมคิดว่าชีวิตผมทำดีที่สุดแล้วเท่าที่ผมมีชีวิตอยู่ ผมคิดว่าผมได้ช่วยเหลือสังคมดีแล้ว ผมคิดว่าผมได้ทำตามกำลังผมดีแล้ว และผมพอใจ ผมภูมิใจในสิ่งที่ผมทำ”

 

           แม้ว่าในปัจจุบัน สืบ นาคะเสถียร จะจากไปนานถึง 35 ปี แต่อุดมการณ์และสิ่งที่เขาเหลือทิ้งเอาไว้ให้คนรุ่นหลังก็ยังถูกสานต่อ โดยไม่ถูกลบเลือนไปตามกาลเวลา การเสียสละของเขาจะคอยเตือนให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของผืนป่าและสัตว์ป่าอย่างไม่มีวันเลือนหาย

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

มูลนิธิสืบ นาคะเสถียร

mgronline

thaipbs

ngthai

thematter

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube