Home
|
ไลฟ์สไตล์

Polycystic Ovarian Syndrome : PCOS ภัยเงียบของผู้หญิง ที่ไม่ควรมองข้าม

Featured Image

          หนึ่งในภาวะสุขภาพที่ถูกพูดถึงมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คงหนีไม่พ้น “Polycystic Ovarian Syndrome : PCOS” หรือภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ ที่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า จริงๆ แล้วโรคนี้ไม่ได้มีแค่ผลต่อรอบเดือนหรือสิวฮอร์โมนเท่านั้น แต่ยังสามารถนำไปสู่ ภาวะมีบุตรยาก และเพิ่มความเสี่ยงของ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก ได้ในอนาคตด้วย

ผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ โดยเฉพาะช่วงอายุระหว่าง 20–30 ปี ควรใส่ใจสุขภาพตัวเองให้มากขึ้น เพราะโรคนี้มักไม่แสดงอาการชัดในช่วงแรก แต่แฝงมากับสัญญาณที่ดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อยในชีวิตประจำวัน

PCOS คืออะไร?

          PCOS หรือ Polycystic Ovarian Syndrome คือ ภาวะที่รังไข่มีถุงน้ำขนาดเล็กหลายใบ เกิดจากความไม่สมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย ส่งผลให้ระบบตกไข่ทำงานผิดปกติ บางคนอาจไม่มีประจำเดือนนานหลายเดือน หรือมีปัญหาสิวเรื้อรัง ขนดก ผิวมัน ผมบาง ซึ่งบ่อยครั้งผู้หญิงหลายคนไม่รู้ตัว จนกระทั่งมีปัญหาเรื่องการตั้งครรภ์

อีกทั้งภาวะนี้ยังเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูกได้อีกด้วย โดยสาเหตุของโรคนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ชัดเจนแต่ส่วนใหญ่จะเกิดกับสาวๆ ในช่วงวัยเจริญพันธุ์หรืออายุตั้งแต่ 15 – 30 ปี 

 

แล้วสาเหตุของภาวะ PCOS เกิดจากอะไร?

แม้ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน แต่แพทย์เชื่อว่าโรคนี้เกี่ยวข้องกับปัจจัยสำคัญ 3 อย่าง ได้แก่

  • พันธุกรรม
  • ภาวะดื้ออินซูลิน
  • การอักเสบระดับต่ำในร่างกาย

ผู้หญิงที่มีภาวะดื้ออินซูลิน มักมีน้ำหนักตัวเพิ่มง่าย และมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งยิ่งไปซ้ำเติมให้ฮอร์โมนผิดปกติยิ่งขึ้น

 

สัญญาณเตือนจากร่างกาย 

ลองสำรวจตัวเองดูว่ามีอาการเหล่านี้หรือไม่?

  • ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มาช้าหรือขาดหายไปหลายเดือน
  • มีขนดกผิดปกติ โดยเฉพาะที่คาง หน้าท้อง หรือต้นขา
  • มีสิวขึ้นเยอะ ผิวมันมากกว่าปกติ
  • น้ำหนักขึ้นง่าย ควบคุมน้ำหนักยาก
  • ผมร่วงหรือศีรษะล้านในลักษณะที่คล้ายผู้ชาย

หากมีอาการเหล่านี้ร่วมกัน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม

 

ความเสี่ยงจาก PCOS

PCOS ไม่เพียงแค่ทำให้ตั้งครรภ์ยาก แต่ยังนำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่นๆ ได้ เช่น

  • มีโอกาสแท้งบุตรในไตรมาสแรก
  • เบาหวานขณะตั้งครรภ์ / ครรภ์เป็นพิษ
  • มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
  • โรคเบาหวานชนิดที่ 2
  • โรคหัวใจและหลอดเลือด

 

วิธีการรักษา PCOS

          แม้ว่า PCOS จะยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่เราสามารถควบคุมอาการและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนในระยะยาวได้ หากดูแลร่างกายอย่างถูกวิธี โดยแนวทางหลักในการรักษามีดังนี้

  • ควบคุมน้ำหนักและอาหาร

          การลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ มีผลโดยตรงต่อการปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย เมื่อฮอร์โมนเริ่มทำงานเป็นปกติ รอบเดือนก็จะกลับมาสม่ำเสมอมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดภาวะดื้ออินซูลินและลดความเสี่ยงของเบาหวานชนิดที่ 2 อีกด้วย

 

  • รับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ

ควรทานยาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

  1. ในผู้ที่ ไม่ต้องการมีบุตร แพทย์มักสั่งยาคุมกำเนิดเพื่อควบคุมรอบเดือนและปรับระดับฮอร์โมน
  2. ในผู้ที่ ต้องการมีบุตร อาจได้รับยากระตุ้นการตกไข่ เช่น Clomiphene หรือ Letrozole และหากไม่สำเร็จ อาจต้องพิจารณาการรักษาขั้นสูง เช่น การผ่าตัดเจาะรังไข่ (Ovarian drilling) หรือเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ (IVF)
  • ป้องกันภาวะแทรกซ้อนระยะยาว

การรักษา PCOS ไม่ได้จบแค่เรื่องประจำเดือนหรือการตั้งครรภ์ แต่ยังรวมถึงการดูแลเพื่อลดความเสี่ยงของโรคร้ายแรงที่อาจตามมา เช่น

          เบาหวานและโรคหัวใจจากภาวะดื้ออินซูลิน

          เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวหรือมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก

          โรคไขมันในเลือดสูง

แนวทางการป้องกัน PCOS

           แม้ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS) จะไม่สามารถป้องกันได้ 100% เพราะมีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง เช่น พันธุกรรมและฮอร์โมน แต่เราสามารถลดความเสี่ยงและควบคุมอาการได้ด้วยการดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม ดังนี้

          ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต

  • รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เช่น เดินเร็ว โยคะ หรือว่ายน้ำ
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และลดความเครียด เพราะความเครียดอาจกระทบสมดุลฮอร์โมนได้

          เลือกกินอย่างชาญฉลาด

  • รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง แป้งขัดสี น้ำตาล และอาหารแปรรูป
  • เน้นอาหารที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาล เช่น ธัญพืชไม่ขัดสี ผักใบเขียว และผลไม้ไม่หวานจัด

          ใช้ยาอย่างเหมาะสมภายใต้คำแนะนำของแพทย์

  • ยาคุมกำเนิด เพื่อควบคุมรอบเดือนและระดับฮอร์โมน
  • ยารักษาสิวหรืออาการขนดก จากภาวะฮอร์โมนเพศชายสูง
  • ยาเมตฟอร์มิน สำหรับผู้ที่มีภาวะดื้ออินซูลิน หรือมีน้ำหนักเกิน
  • ยาฮอร์โมน ในกรณีที่ต้องการปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย

          การรักษาขั้นสูงในกรณีรุนแรง หากการรักษาด้วยยาไม่ได้ผล แพทย์อาจพิจารณาให้ผ่าตัดเอาถุงน้ำในรังไข่ออก หรือใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ในกรณีที่มีบุตรยาก

เนื่องจากภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS) เกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน ทั้งเรื่องฮอร์โมน พันธุกรรม และสภาพร่างกาย การป้องกันที่ชัดเจนจึงอาจทำได้ยาก แต่สิ่งที่เราทำได้คือการดูแลสุขภาพให้ดีที่สุด

ไม่ว่าจะเป็นการเลือกรับประทานอาหารที่สมดุล ออกกำลังกายเป็นประจำ และควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ล้วนเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงของ PCOS ได้

หากคุณชื่นชอบคอนเทนต์ที่ให้ทั้งสาระและความเข้าใจเกี่ยวกับสุขภาพผู้หญิงแบบนี้ อย่าลืมกดติดตาม iNN Lifestyle 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต

โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์

โรงพยาบาลวิมุต

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube