ย้อนตำนาน “กุหลาบแดง” ตัวแทนแห่งรักจากทุกมุมโลก

หากพูดถึงความรัก สิ่งแรกที่ใครหลายคนนึกถึงคงหนีไม่พ้น ดอกกุหลาบ ดอกไม้ที่สวยงามแต่มีหนามอยู่รอบตัวเสมือนความรัก ที่ดูสวยงามแต่ก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวด แล้วรู้หรือไม่ว่า กุหลาบ ก็มีหลายตำนานเรื่องเล่าที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องราวความรักของนางวีนัสในตำนานกรีกโรมัน หรือในวรรณคดีไทยก็มีตำนานนางดอกกุหลาบอย่างมัทนะพาธา
วันนี้อยากชวนทุกคนมาสัมผัสเรื่องราวและหาคำตอบจากเรื่องราวในตำนานกันว่า ทำไมกุหลาบถึงได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของความรักกันนะ
ทำไมดอกกุหลาบถึงเป็นสัญลักษณ์ของความรัก ?
ตามตำนานปกรณัมของเทพกรีกโรมันเล่าว่า วีนัส ผู้เป็นเทพีแห่งความงามและความรัก ได้ตกหลุมรัก อโดนิส ชายหนุ่มพเนจรที่ล่าสัตว์อยู่ในป่า วีนัสรักอโดนิสมากจนไม่ยอมห่างไปไหน คอยดูแลอโดนิสตลอดเวลาที่ไปล่าสัตว์ แต่แล้ววันหนึ่งวีนัสไม่อยู่ ทำให้อโดนิสต้องล่าสัตว์เพียงลำพังจนได้พบกับหมูป่าและเกิดการต่อสู้กัน อโดนิสโดนหมูป่าทำร้ายจนเจ็บหนัก
เมื่อวีนัสได้ยินเสียงร้องของอโดนิสก็รีบวิ่งมาช่วย แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว วีนัสเสียใจร้องไห้อย่างหนัก จนน้ำตาได้หยดลงปะปนกับเลือดของ อโดนิส คนรักที่ถูกหมูป่าฆ่า แล้วไหลรวมกันลงสู่พื้นกลายเป็นดอกกุหลาบสีแดงขึ้นมา ถือเป็นตัวแทนความรักอันยิ่งใหญ่ของเธอ
ด้วยความเชื่อในตำนานของเทพีวีนัสตำนานรักอันยิ่งใหญ่ จึงทำให้ดอกกุหลาบได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักและเป็นตัวกลางแทนความรู้สึกที่คนรักมักจะมอบให้กันในวันสำคัญหรือวันแห่งความรักนั่นเอง
แล้วทำไมต้องเป็นกุหลาบสีแดง ?
จากตำนานเรื่องเล่าเทพีวีนัสที่น้ำตาของนางได้รวมกับเลือดของอโดนิสจนกลายเป็นดอกกุหลาบสีแดง สัญลักษณ์แห่งความรักอันยิ่งใหญ่ แล้วทำไมถึงต้องเป็นดอกกุหลาบสีแดง ?
งานวิจัยด้านจิตวิทยาสี (Color Psychology) ชี้ให้เห็นว่าสีส่งผลต่ออารมณ์ของคนเราอย่างชัดเจน เป็นผลจากกลไกการประมวลผลของสมองที่ตอบสนองต่อสีโดยอัตโนมัติ นักจิตวิทยาหลายคนพบว่าสีโทนร้อนโดยเฉพาะสีแดง มักมีอำนาจดึงดูดความสนใจ กระตุ้นประสาทและอารมณ์ของมนุษย์ ทำให้รู้สึกตื่นเต้นเร้าใจ สดใส และสร้างความหลงใหลได้เช่นกัน
ดอกกุหลาบถือเป็นดอกไม้ที่มีเสน่ห์ในด้านของสีสันจนนับว่าเป็นจุดเด่นเลยก็ว่าได้ สีสันเหล่านี้ช่วยดึงดูดและสร้างความรู้สึกให้กับผู้คนได้เช่นกัน โดยเฉพาะดอกกุหลาบสีแดงที่มีสีสันกระแทกตา เร้าอารมณ์จากผู้พบเห็นได้เป็นอย่างดี จึงอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมดอกกุหลาบในตำนานรักถึงต้องเป็น กุหลาบแดง
ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ จริงหรือไม่ ?
“ความรักเหมือนโรคา บันดาลตาให้มืดมน” วรรคทองจากบทละครพูดคำฉันท์เรื่อง “มัทนะพาธา” อีกหนึ่งเรื่องราวจุดกำเนิดของกุหลาบแดงในวรรณคดีไทย
มัทนะพาธา เรื่องราวของเทพธิดามัทนาผู้ที่ถูกสาปให้ลงมาเกิดเป็นดอกกุหลาบ เพราะไม่ยอมรับรักเทพสุเทษณ์ ทำให้นางได้โดนสาปเป็นดอกกุหลาบ จะกลายร่างเป็นคนได้เพียงหนึ่งครั้งในทุกวันเพ็ญเท่านั้น และจะกลับมาเป็นคนได้ก็ต่อเมื่อมีความรัก
ต่อมานางมัทนาได้พบรักกับท้าวชัยเสนกษัตริย์ที่เข้าป่ามาล่าสัตว์ นางมัทนาถูกพากลับเข้าเมืองไปเป็นชายา แต่กลับโดนนางมเหสีใส่ร้ายว่าคบชู้ และยุยงให้สั่งประหาร แต่นางได้รับความช่วยเหลือจนรอดชีวิตกลับมาได้ นางมัทนาเสียใจจึงทำพิธีบูชาขอความช่วยเหลือจากสวรรค์
เทพสุเทษณ์เมื่อได้ยินคำขอของนางมัทนา จึงได้ยื่นข้อเสนอให้นางรับรักแล้วจะแก้คำสาปให้ แต่นางมัทนาตอบปฏิเสธ และยังยืนยันถึงรักมั่นคงที่มีต่อท้าวชัยเสน เทพสุเทศน์โกรธมากจึงได้สาปให้นางมัทนากลายเป็นดอกกุหลาบอย่างถาวรชั่วนิรันดร์
ในเรื่องราวของความรักแม้จะเริ่มต้นด้วยความสุข แต่หลายครั้งก็จบลงด้วยความเศร้า ชีวิตรักของนางมัทนานั้นอาภัพ เมื่อไม่รับรักก็โดนสาปเป็นดอกกุหลาบ แต่เมื่อมีรักก็ไม่สมหวังและถูกสาปให้เป็นดอกกุหลาบอยู่ดี
แม้กุหลาบจะสวยงามแค่ไหน แต่กุหลาบก็ยังแฝงด้วยอันตรายจากหนามรอบตัว ตรงกับเรื่องราวความรักในมัทนะพาธาที่เราจะเห็นถึงรักที่เจ็บปวด เหมือนสุภาษิตที่ว่า “ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์” ดังเช่นนางมัทนาที่ต้องพบกับความเศร้าและผิดหวังจากความรักในท้ายที่สุด
ดอกกุหลาบที่แสนสวย และเป็นตัวแทนของความรัก แต่ต้นกำเนิดของมันกลับแสนเศร้า อีกมุมหนึ่งเราอาจมองได้ว่ากุหลาบดอกนี้ยังสื่อถึงความรักอันลึกซึ้ง ทรงคุณค่าในทุกตำนาน เหมือนกับความรักยิ่งใหญ่ที่เทพีวีนัสมีต่ออโดนิส หรือนางมัทนาที่รักมั่นคงกับท้าวชัยเสนจนวินาทีสุดท้ายของนาง จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเจ้าดอกกุหลาบแดงจึงได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักจนถึงทุกวันนี้
ขอบคุณข้อมูลจาก psy.chula.ac.th , silpa-mag.com
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews