Home
|
ไลฟ์สไตล์

รู้จักโรคกลัวความรัก (Philophobia) พร้อมวิธีรักษาอย่างเหมาะสม

Featured Image

หลายคนอาจเคยสงสัยว่า ทำไมตัวเองถึงโสดมานาน ทั้งที่มีคนเข้ามาในชีวิตอยู่บ้าง แต่ทุกครั้งที่มีโอกาสจะเริ่มต้นความสัมพันธ์ กลับรู้สึกหวาดกลัว วิตกกังวล และพยายามหลีกหนีจากความรู้สึกเหล่านั้น จนสุดท้ายก็ยังคงครองตำแหน่งโสดอย่างยาวนาน หากคุณกำลังเจอกับสถานการณ์แบบนี้ คุณอาจกำลังเป็น “โรคกลัวความรัก” หรือ “Philophobia” โดยไม่รู้ตัว บทความนี้จะพาคุณเช็กอาการและทำความเข้าใจโรคนี้ พร้อมแนะนำวิธีรักษาและรับมือกับความกลัวที่อาจกำลังขวางทางความสุขของคุณอยู่

 โรคกลัวความรัก (Philophobia) คืออะไร ?

โรคกลัวความรัก (Philophobia) เป็นโรคทางจิตเวชชนิดหนึ่ง ที่ผู้ป่วยมีอาการหวาดกลัวการตกหลุมรัก หรือการสร้างความสัมพันธ์แบบคู่รัก ซึ่งคำว่า Philophobia มาจากภาษากรีกสองคำ คือ “Philo” ที่แปลว่าความรักหรือความชอบ และ “Phobia” ที่แปลว่าความกลัว เมื่อรวมกันจึงหมายถึงความกลัวความรัก โดยผู้ที่เป็นโรคนี้ แม้จะมีความปรารถนาที่จะมีคนพิเศษในชีวิต แต่กลับกลัวความผิดหวัง กลัวการถูกทรยศ หรือกลัวความรู้สึกผูกพัน จนไม่กล้าเปิดใจให้ใคร และพยายามหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่อาจนำไปสู่ความรัก

 สาเหตุของโรคกลัวความรัก

โรคกลัวความรักมักเกิดจากการสะสมประสบการณ์ด้านลบเกี่ยวกับความรัก และความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ตรงที่ตัวเองเคยได้รับความผิดหวังอย่างรุนแรง หรือประสบการณ์ทางอ้อมจากการเห็นคนรอบข้างมีความสัมพันธ์ที่ล้มเหลว เช่น พ่อแม่ทะเลาะกัน เพื่อนถูกคนรักนอกใจ หรือการได้ยินเรื่องราวความรักที่จบลงด้วยความเจ็บปวด นอกจากนี้ การถูกทรยศหรือไม่ได้รับความไว้วางใจจากคนสำคัญ ก็อาจทำให้เกิดความกลัวการเปิดใจให้ใครอีก จนกลายเป็นกำแพงกั้นไม่ให้ความรักเข้ามาในชีวิต

 เช็กลิสต์ เราเป็นโรคกลัวความหรือหรือไม่

การตระหนักรู้ว่าตนเองมีอาการของโรคกลัวความรักหรือไม่ เป็นก้าวแรกของการแก้ไขปัญหา ลองเช็กว่า คุณมีอาการต่อไปนี้หรือไม่

  • หัวใจเต้นเร็ว เหงื่อออก มือสั่น : เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่อาจนำไปสู่ความรัก
  • มักจะหาเหตุผลปฏิเสธ : เมื่อมีคนเข้ามาจีบหรือแสดงความสนใจ แม้จะรู้สึกชอบเขาก็ตาม
  • คิดแต่แง่ลบเกี่ยวกับความรัก : มองว่าความรักมีแต่จะนำมาซึ่งความทุกข์ ความผิดหวัง
  • กลัวการถูกทอดทิ้ง : วิตกกังวลล่วงหน้าว่าถ้าเริ่มรักใครแล้วเขาจากไป ตัวเองจะรับไม่ได้
  • หลีกเลี่ยงการสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิด : ถึงแม้จะรู้สึกเหงา และอยากมีคนรักก็ตาม
  • มีความรู้สึกกล้า ๆ กลัว ๆ : เมื่อมีใครเข้ามาหรือเกิดความรู้สึกพิเศษกับใครบางคน
  • สร้างกำแพงป้องกันตัวเอง : ไม่เปิดใจให้ใคร แม้จะมีคนที่ตัวเองสนใจ
  • มักเก็บตัว และมีสังคมแคบ : อยู่กับตัวเองหรือคบเฉพาะเพื่อนสนิทไม่กี่คน

4 วิธีรับมือกับโรคกลัวความรัก

หากคุณพบว่าตัวเองมีอาการของโรคกลัวความรัก ไม่ต้องกังวล เพราะโรคนี้สามารถรักษาได้ โดยมีหลายวิธีที่จะช่วยให้คุณสามารถเอาชนะความกลัว และเปิดใจให้กับความรักได้อีกครั้ง ต่อไปนี้คือวิธีรับมือกับโรคกลัวความรักที่มีประสิทธิภาพ

1. ปรึกษาจิตแพทย์เพื่อหาวิธีรักษาที่เหมาะกับตนเอง

การขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญเป็นก้าวสำคัญในการรักษาโรคกลัวความรัก จิตแพทย์ หรือนักจิตวิทยาสามารถช่วยวินิจฉัยอาการของคุณได้อย่างถูกต้อง และเสนอแนวทางการรักษาที่เหมาะสม การพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญยังช่วยให้คุณเข้าใจต้นตอของความกลัวได้ดียิ่งขึ้น 

อย่ากังวลว่าผู้อื่นจะมองคุณผิดปกติ การพบจิตแพทย์เป็นเพียงการเปิดใจพูดคุย และแบ่งปันความรู้สึกลึก ๆ ที่ซ่อนอยู่ในใจ เพื่อค้นหาวิธีที่จะทำให้คุณมีความสุขกับความรักได้อีกครั้ง

2. รักษาด้วยการเผชิญหน้า (Exposure Therapy)

การเผชิญหน้ากับสิ่งที่กลัวเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่ได้ผลดีสำหรับโรคกลัวความรัก หลักการคือการค่อย ๆ นำตัวเองเข้าไปสู่สถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับความรักทีละน้อย เช่น เริ่มจากการพูดคุยกับคนที่สนใจแบบเพื่อน ไปจนถึงการนัดพบสังสรรค์ หรือการเปิดใจคุยกับใครสักคนแบบลึกซึ้งมากขึ้น โดยในแต่ละขั้นตอน คุณจะได้เรียนรู้ที่จะจัดการกับความกลัว และความวิตกกังวล เมื่อเผชิญหน้าบ่อยครั้งเข้า ความกลัวจะค่อย ๆ ลดลง และคุณจะสามารถรับมือกับความรู้สึกนั้นได้ดีขึ้นนั่นเอง

3. เข้ารับการบำบัดเพื่อปรับเปลี่ยนวิธีคิดและพฤติกรรม (Cognitive Behavioral Therapy)

การบำบัดเพื่อปรับเปลี่ยนวิธีคิด และพฤติกรรม หรือ CBT เป็นวิธีการรักษาที่เน้นการเปลี่ยนแปลงความคิดที่ไม่สมเหตุสมผล หรือความเชื่อที่บิดเบือนเกี่ยวกับความรัก การบำบัดนี้จะช่วยให้คุณตระหนักถึงรูปแบบความคิดด้านลบที่มีต่อความรัก เช่น “ความรักมีแต่จะนำมาซึ่งความเจ็บปวด” หรือ “ทุกคนจะทรยศฉันในที่สุด” และช่วยให้คุณเปลี่ยนความคิดเหล่านี้เป็นมุมมองที่สมดุล และเป็นจริงมากขึ้น เมื่อความคิดเปลี่ยน พฤติกรรม และอารมณ์ก็จะเปลี่ยนตามไปด้วย

 4. รักษาด้วยยา

ในกรณีที่โรคกลัวความรักมีความรุนแรงจนส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน หรือมีอาการวิตกกังวล หรือซึมเศร้าร่วมด้วย จิตแพทย์อาจพิจารณาใช้ยาเพื่อช่วยบรรเทาอาการ ยาที่ใช้มักเป็นกลุ่มยาลดความวิตกกังวล หรือยาต้านเศร้า ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถควบคุมอารมณ์ และความรู้สึกได้ดีขึ้น 

อย่างไรก็ตาม การใช้ยาควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด และมักจะใช้ร่วมกับการบำบัดทางจิตวิทยาเพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีที่สุด

สรุปบทความ

โรคกลัวความรัก หรือ Philophobia อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้หลายคนไม่กล้าเปิดใจให้กับความรัก และเลือกที่จะอยู่เป็นโสด แม้ในใจลึก ๆ จะปรารถนาความรัก และการมีคนพิเศษในชีวิต โรคนี้เกิดจากประสบการณ์ด้านลบที่สะสมมา จนทำให้เกิดความกลัวการตกหลุมรัก หรือการสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม โรคกลัวความรักสามารถรักษาได้ด้วยวิธีการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการปรึกษาจิตแพทย์ การเผชิญหน้ากับความกลัว การปรับเปลี่ยนวิธีคิด และพฤติกรรม หรือการใช้ยารักษา การเอาชนะโรคกลัวความรักไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณมีโอกาสสร้างความสัมพันธ์ที่มีความสุขเท่านั้น แต่ยังช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตโดยรวม ให้คุณไม่ต้องเก็บตัว และหลีกหนีจากความสุขที่อาจเกิดขึ้นในชีวิตอีกต่อไป

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube